ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (24 ก.ค.) ว่า เคียฟได้รับคำยืนยันจากชาติพันธมิตรว่าจะสนับสนุนเงินทุนจัดหาระบบขีปนาวุธแพทริออต (Patriot) จำนวน 3 หน่วย และอยู่ระหว่างหารือเพื่อแสวงหาทุนจัดซื้อเพิ่มเติมอีก 7 หน่วย
“ผมได้รับคำยืนยันอย่างเป็นทางการจากเยอรมนีว่าจะช่วยสนับสนุน 2 หน่วย และจากนอร์เวย์ 1 หน่วย ขณะนี้เรากำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรในเนเธอร์แลนด์ด้วย” เซเลนสกี ให้สัมภาษณ์
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ระบบขีปนาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะถูกส่งไปยังยูเครน ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธแพทริออตด้วย
ถ้อยแถลงดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาว่าพันธมิตรชาติใดบ้างที่จะร่วมสนับสนุนโครงการจัดซื้อนี้ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดด้วยว่ายูเครนจะได้รับการสนับสนุนมากน้อยเพียงใด
ระบบแพทริออตได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการทำลายขีปนาวุธของรัสเซียที่เล็งเป้าหมายไปยังเมืองต่างๆ ของยูเครน
รัสเซียได้ยกระดับโจมตีทางอากาศทั่วยูเครนในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ซึ่งบีบให้ยูเครนต้องปรับตัวเข้ากับกลยุทธ์ใหม่ๆ รวมถึงการหันมาใช้โดรนสกัดกั้น
เซเลนสกี เผยว่า การผลิตโดรนสกัดกั้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และได้กำหนด "ต้นทุนเร่งด่วน" ของโครงการนี้เอาไว้ที่ 6,000 ล้านดอลลาร์
ผู้นำยูเครนยังบอกด้วยว่า นอกเหนือจากการจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศแล้ว ยูเครนยังต้องแสวงหาแหล่งทุนมาโปะช่องโหว่ด้านงบประมาณอีก 40,000 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า และยังจำเป็นต้องใช้เงินอีก 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการจัดหาขีปนาวุธ โดรน และการผลิตเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อใช้ทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์
ระบบเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งต่อการสกัดกั้นกองกำลังรัสเซียที่มีจำนวนมากกว่า และกำลังรุกคืบเข้ามาทางตะวันออกของยูเครนตลอดแนวรบยาวกว่า 1,000 กิโลเมตร
“พวกเขามีกำลังพลมากกว่า มีพลังในการกดดันมากกว่า และศักยภาพในการระดมพลที่สูงกว่า” เซเลนสกี กล่าว พร้อมระบุว่าเคียฟยังต้องหาเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อจ่ายเงินเดือนให้ทหารในกองทัพด้วย
"ก่อนหน้านี้ ชาติยุโรปปฏิเสธที่จะให้ทุนสำหรับจ่ายเงินเดือนบุคลากรทางทหารของเรา โดยจ่ายให้เฉพาะค่าอาวุธเท่านั้น... แต่ปรากฏว่า ทหารของเราเองสามารถเป็นอาวุธที่ปกป้องทุกคนได้" เซเลนสกี ระบุ
ที่มา: รอยเตอร์