สงครามระหว่างกัมพูชากับไทย กลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ผลจากความละโมบของพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย จากคำกล่าวหาของ นูออน พรัต ผู้ว่าราชการจังหวัดกำปงธม ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดด้านชายแดนที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
ในข้อความที่โพสต์บนบัญชีเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ นายพรัต เน้นย้ำถึงสถานการณ์ล่าสุดในข้อพิพาทด้านชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย อ้างถึงการยั่วยุและเหตุการณ์ต่างๆนานา ที่ดำเนินการโดย พลโทบุญสิน พาดกลาง ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพภาคที่ 2 ของไทย
"พวกผู้รักชาติกัมพูชาและคนไทย ควรพึงระลึกว่าสงครามนี้ขับเคลื่อนด้วยความละโมบความทะเยอทะยานของบุญสิน พาดกลาง ผู้มีกำหนดเกษียณอายุในเดือนกันยายน และต้องการสร้างเหตุการณ์ต่างๆเพื่อรักษาอำนาจ" เขาเขียน "นอกเหนือจากนี้แล้ว สถานการณ์ที่กำลังเลวร้ายลงนี้ยังมีต้นตอจากการที่รัฐบาลปัจจุบันของไทย ไร้ความสามารถในการควบคุมสถานการณ์ภายในประเทศของตนเอง"
ผู้ว่าราชการจังหวัดรายนี้บอกว่าประชาชนชาวกัมพูชาไม่ต้องการสงคราม เนื่องจากมันรังแต่จะทำร้ายผู้คนจากทั้ง 2 ฝั่ง อย่างไรก็ตามประชาชนชาวกัมพูชาไม่อาจยืนดูเฉยๆ ยามที่เผชิญกับการรุกรานดินแดนใดๆ
คำแถลงของนูออน พรัต มีขึ้นในขณะที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชา เตือนไทยต่อกรณีที่กล่าวหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับการวางกับระเบิด ตามหลังเกิดเหตุระเบิดอีกครั้งในวันพุธ(23ก.ค.) กระทรวงกลาโหมอ้างว่ากัมพูชาไม่ได้แค่ตกเป็นเหยื่ออย่างไม่ยุติธรรมต่อการละเมิดชายแดนของไทย แต่ยังถูกกล่าวหาผิดๆว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเน้นย้ำว่ากัมพูชาเรียกร้องไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้หยุดพฤติกรรมที่ละเมิดบันทึกความเข้าใจ 2000 (MOU 2000) ในเรื่องของเส้นทางลาดตระเวนที่ตกลงไว้ แต่กระนั้นทหารไทยยังคงออกนอกเส้นทางที่กำหนด และกระทั่งสร้างเส้นทางใหม่ที่ข้ามเข้าสู่ดินแดนอธิปไตยของกัมพูชา
(ที่มา:แคมโบเดียเนสส์ )