ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อ้างว่ากลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ BRICS "กำลังเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว" พร้อมเตือนความพยายามใดๆของกลุ่มในการท้าทายดอลลาร์ จะต้องเจอกับไฟย้อนศรทางเศรษฐกิจอันหนักหน่วง
ระหว่างกล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ ทรัมป์ ประณามในสิ่งที่เขาเรียกว่าความพยายามของกลุ่ม BRICS ในการสร้างความอ่อนแอแก่ดอลลาร์ "พวกพยายามเข้าแทนที่ดอลลาร์ ความเป็นเจ้าโลกของดอลลาร์ และผมอยากบอกว่าใครก็ตามในกลุ่มประเทศ BRICS ที่ทำเช่นนั้น เราจะรีดภาษีคุณ 10%"
ทรัมป์ ยืนกรานว่าวอชิงตันจะไม่ละทิ้งความพยายามรักษาไว้ซึ่้งความเป็นเจ้าโลกของดอลลาร์ "สถานะสกุลเงินสำรองเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง คุณก็รู้ ถ้าเราสูญเสียมันไป มันก็จะเหมือนกับการพ่ายแพ้ในสงครามโลก"
"วอชิงตันไม่อาจปล่อยให้ใครมาเล่นเกมกับเรา" ทรัมป์กล่าว พร้อมระบุว่า "ผมจะตัดสินใจเล่นงาน BRICS หนักหน่วงรุนแรงมากๆ ถ้าพวกเขาอยู่ในหนทางที่มีนัยสำคัญหนึ่งๆ พวกเขาจะพบกับจุดจบอย่างรวดเร็ว"
ทรัมป์ กล่าวอ้างด้วยว่าคำขู่รีดภาษีเพิ่มเติม 10% สินค้านำเข้าจากกลุ่ม BRICS ทำให้การประชุม BRICS ในรีโอเดจาเนโร เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ "พวกเขาพบปะกันในวันถัดมา และแทบไม่มีใครไปปรากฏตัวเลย"
ข้อเท็จจริงคือ ที่ประชุม BRICS เมื่อช่วงต้นดือน มีตัวแทนระดับสูงเข้าร่วมอย่างกว้างขวาง แม้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ไม่ได้เข้าร่วม แต่ประเทศของเขาส่งนายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง มาแทน ส่วนประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ได้เดินทางมา แต่เข้าร่วมการประชุมซัมมิตจากทางไกล
ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล, นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย, ซีรีล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ และพราโบโว ซูเบียนโต ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เช่นเดียวกับพวกผู้นำอียิปต์, เอธิโอเปีย, อิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดินทางมาร่วมประชุมด้วยตนเอง
ในเดือนตุลาคม แอนทอน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังของรัสเซีย เน้นว่าสัดส่วนการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าขายระหว่างกันในกลุ่ม BRICS แตะระดับ 65% แล้ว ในขณะที่สัดส่วนของการใช้ดอลลาร์และยูโรลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 30%
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย อธิบายว่าบรรดาชาติกลุ่ม BRICS กำลังสำรวจหาทางเลือกอื่นแทนดอลลาร์ "เพื่อปกป้องตนเองจากการทำตามอำเภอใจของสหรัฐฯ"
อย่างไรก็ตาม เซอร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า BRICS ไม่เคยมีเจตนาเป็นคู่แข่งของสหรัฐฯ แต่เตือนว่า "ภาษาแห่งการข่มขู่และบิดเบือน ไม่ใช่แนวทางที่จะมาพูดคุยกับสมาชิกของกลุ่มนี้"
(ที่มา:อินเดียไทม์ส/อาร์ทีนิวส์)