มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เอ่ยเตือนในวันพุธ (15 ก.ค.) ว่า บราซิล จีน และอินเดีย อาจถูกสหรัฐฯ รีดภาษีขั้นทุติยภูมิอย่างหนักหน่วง หากยังคงทำธุรกิจร่วมกับรัสเซียต่อไป
รึตเตอ ได้เข้าพบกลุ่ม ส.ว.สหรัฐฯ ในสภาคองเกรส 1 วันหลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศส่งมอบอาวุธล็อตใหม่ให้กับยูเครน พร้อมขู่ว่าจะใช้อัตราภาษีขั้นทุติยภูมิ 100% กับประเทศใดก็ตามที่ยังซื้อสินค้าส่งออกของรัสเซียอยู่ เว้นเสียแต่รัสเซียจะยอมทำข้อตกลงสันติภาพยุติสงครามกับยูเครนภายใน 50 วัน
“ผมอยากจะเชิญชวนทั้ง 3 ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกคุณอาศัยอยู่ที่ปักกิ่ง นิวเดลี หรือถ้าคุณเป็นประธานาธิบดีของบราซิล คุณอาจจะต้องกลับมาคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะคุณจะได้รับผลกระทบหนักมาก” รึตเตอ บอกกับสื่อมวลชน
“ดังนั้น โปรดโทรไปหา วลาดิมีร์ ปูติน และบอกเขาด้วยว่าให้จริงจังกับการพูดคุยสันติภาพ ไม่เช่นนั้นภาษีเหล่านี้ก็จะถูกเก็บจากบราซิล อินเดีย และจีนอย่างหนักหน่วง”
ธิม ทิลลิส ส.ว.รีพับลิกัน ออกมากล่าวชื่นชมมาตรการของทรัมป์ แต่ก็ยอมรับว่ากรอบเวลา 50 วันเป็นสิ่งที่ตนยังกังวลอยู่
“ผมเกรงว่า ปูติน อาจจะใช้เวลาในช่วง 50 วันนี้เพื่อชนะสงครามให้ได้ หรือทำให้รัสเซียได้เปรียบในการเจรจาสันติภาพมากที่สุด หลังจากที่เข่นฆ่าผู้คนและยึดดินแดนไปมากขึ้นเรื่อยๆ”
“ดังนั้นเราจึงควรยึดสถานการณ์ในยูเครน ณ วันนี้ และบอกเขาว่าไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามในอีก 50 วันข้างหน้า สิ่งที่คุณได้เพิ่มจะไม่ถูกนำเข้าสู่โต๊ะเจรจา”
รึตเตอ ระบุว่า ยุโรปจะแสวงหาเงินทุนเพื่อให้มั่นใจว่า ยูเครนจะต้องอยู่ในสถานะที่เข้มแข็งที่สุดในการเจรจาสันติภาพ และภายใต้ข้อตกลงกับทรัมป์ สหรัฐฯ จะจัดส่งอาวุธให้กับยูเครน “ที่ไม่ใช่แค่ระบบป้องกันภัยทางอากาศ แต่รวมถึงขีปนาวุธและเครื่องกระสุนที่ชาวยุโรปจะเป็นผู้จ่ายเงิน”
เมื่อถามว่ามีการพูดคุยเกี่ยวกับการส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้ยูเครนด้วยหรือไม่? รึตเตอ ตอบว่า “มันมีทั้งในส่วนของการป้องกันและการรุก ฉะนั้นก็รวมถึงอาวุธทุกประเภท แต่เรายังไม่ได้หารือรายละเอียดกับท่านประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ นี่เป็นสิ่งที่เพนตากอน ผู้บัญชาการสูงสุดของนาโตในยุโรป และชาวยูเครนกำลังทำงานร่วมกันอยู่”
ที่มา: รอยเตอร์