xs
xsm
sm
md
lg

‘สหรัฐฯ’วางแผนเพิ่มความเข้มงวดกฎระเบียบส่งออก ‘ชิปเอไอ’ มายัง ‘มาเลเซีย’และไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: เจฟฟ์ เปา


สหรัฐฯกล่าวหาว่าจีนแอบนำชิปเอไอของอินวีเดียเข้าแดนมังกร โดยผ่านพวกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ https://asiatimes.com/2025/07/us-plans-to-tighten-ai-chip-export-rules-for-malaysia-thailand/)

US plans to tighten AI chip export rules for Malaysia, Thailand
by Jeff Pao
08/07/2025

หลังจากที่เกิดคดีฉาว และสิงคโปร์ใช้มาตรการจำกัดการส่งออกต่อพวกชิปเอไอของอินวีเดีย ปรากฏว่ามีทีมวิศวกรชาวจีนขนเอาฮาร์ดไดรบรรจุข้อมูลของพวกเขาเดินทางไปยังมาเลเซีย เพื่อเช่าพวกเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นมาใช้งานฝึกเอไอ

สหรัฐฯยังคงวางแผนเพิ่มความเข้มงวดมาตการของตนในการควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ระดับไฮเอนด์ของบริษัทอินวีเดีย (Nvidia) โดยตั้งเป้าเป็นพิเศษเล็งมายังมาเลเซียและประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้พวกบริษัทจีนหาทางได้รับชิปประมวลผลข้อมูลเหล่านี้เพื่อเอาไปใช้ฝึกโมเดลเอไอของพวกเขา

ตามรายงานชิ้นหนึ่งของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) [1] กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯกำลังร่างเวอร์ชั่นแรกๆ ของกฎระเบียบส่งออกฉบับใหม่ที่จะกำหนดให้ บริษัทไม่ว่าแห่งไหนก็ตาม ต้องได้รับใบอนุญาตเสียก่อนจึงจะสามารถส่งออกหน่วยประมวลผลกราฟฟิก (graphics processing units หรือ GPUs) ไปยังมาเลเซียและไทยได้

รายงานข่าวชิ้นนี้ ซึ่งอ้างอิงคำบอกเล่าของผู้คนที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ ระบุว่ากฎระเบียบฉบับใหม่นี้ยังกำลังอยู่ระหว่างการจัดทำขั้นสุดท้าย และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้อีก นอกจากนั้นรายงานนี้กล่าวด้วยว่า กฎระเบียบใหม่นี้จะครอบคลุมบางมาตรการเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่ทำให้ห่วงโซ่อุปทานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิดการสะดุดติดขัด

บลูมเบิร์กเสนอรายงานข่าวชิ้นนี้ออกมา ภายหลังสำนักข่าวรอยเตอร์ไปสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่อาวุโสผู้หนึ่งที่ไม่มีการระบุนามของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนว่า บริษัทดีปซีค (DeepSeek)ของจีน เที่ยวหาทางใช้พวกบริษัทกลวงๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นช่องทางให้ตนเองได้รับชิปไฮเอนด์ของเอ็นวีเดีย รวมทั้งชิป H100 ด้วย ซึ่งตามกฎเกณฑ์ในปัจจุบันของสหรัฐฯจะไม่สามารถส่งไปยังประเทศจีนได้

การแยกขาดจากกันในเชิงยุทธศาสตร์

มีรายงานหลายชิ้นออกมาตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนแล้ว ระบุว่า สหรัฐฯได้เริ่มต้นผ่อนปรนมาตรการควบคุมการส่งออกของตน สำหรับ
**ซอฟต์แวร์การออกแบบระบบอิเล็กทรอนิกส์ (electronic design automation หรือ EDA) [2]
**พวกชิ้นส่วนเครื่องยนต์ซึ่งใช้ในเครื่องยนต์เครื่องบินโดยสาร C919 [2] ของจีน และ
**ผลิตภัณฑ์อีเทน (ethane) [3]

เพื่อเป็นการตอบแทน ปักกิ่งได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุสำคัญๆ ของตนไปยังสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี การลดทอนไม่ยกระดับขยายสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนเช่นนี้ มิได้หมายความว่าวอชิงตันจะหยุดยั้งแผนการของตนในการผลักดันการแยกขาดจากจีนในเชิงยุทธศาสตร์ [5]

เต็งกู ซาฟรูล อาซิส (Tengku Zafrul Aziz) รัฐมนตรีการลงทุน, การค้า, และอุตสาหกรรมของมาเลเซีย ถูกอ้างอิง [6] เอาไว้ในรายงานข่าวเมื่อวันที่ 23 มีนาคมของสื่อไฟแนนเชียลไทมส์ (Financial Times) ว่า เขาได้พูดว่าสหรัฐฯเคยขอร้องรัฐบาลมาเลเซียให้สอดส่องดูแลการขนย้ายชิปเอ็นวีเดียทุกๆ ชิ้นที่ส่งมายังมาเลเซีย

ซาฟรูล บอกว่าเขาได้จัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจชุดหนึ่งขึ้นมา โดยร่วมมือกับรัฐมนตรีดิจิตอล (Digital Minister) โกบินด์ ซิงห์ เดโอ (Gobind Singh Deo) ในการเพิ่มความเข้มงวดด้านระเบียบกฎหมายสำหรับอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลที่กำลังขยายตัวใหญ่ขึ้นทุกทีของมาเลเซีย

“พวกเขาต้องการให้เราทำให้แน่ใจได้ว่าพวกเครื่องเซิร์ฟเวอร์จะลงเอยโดยเข้ามาอยู่ในบรรดาศูนย์ข้อมูลตามที่พวกเขาคาดหมายเอาไว้ ไม่ใช่จู่ๆ ก็ถูกเคลื่อนย้ายไปลงเรือลำอื่น” เขากล่าว

วอชิงตันเรียกร้องให้ดำเนินการสอบสวนพวกเอนด์ยูสเซอร์ (end-users) ชิปเอไออินวีเดียในมาเลเซีย ภายหลังที่สิงคโปร์ควบคุมชาย 3 คนในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยข้อหาช่วยเหลือจัดส่งชิปไฮเอนด์อินวีเดียไปให้แก่บริษัทดีปซีคของจีนในปี 2024 ทั้งนี้รายงานจากสื่อมวลชนระบุว่า คดีนี้เกี่ยวข้องกับชิปเอไอรวมมูลค่าราวๆ 390 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯทีเดียว

จำเลยเหล่านี้ ซึ่งเป็นชาวสิงคโปร์ 2 คน อีกคนหนึ่งเป็นคนสัญชาติจีน ถูกกล่าวหา [7]ว่ากำลังจัดส่งพวกเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่บรรจุติดตั้งชิปอินวีเดียเอาไว้แล้วไปยังมาเลเซีย และมีความเป็นไปได้ที่จะจัดส่งไปยังสถานที่อื่นๆ ด้วย ถ้าหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง พวกเขาอาจเจอโทษจำคุกสูงถึง 20 ปีหรือไม่ก็อาจถูกปรับ หรือว่าทั้งถูกจำคุกและถูกปรับ

ข้อมูล 4.8 เพตะไบต์

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม สำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคง (Bureau of Industry and Security และ BIS) ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ยกเลิกกฎระเบียบว่าด้วยการแพร่กระจายเอไอ (AI diffusion rule) ในสมัยคณะบริหารไบเดน แล้วแทนที่ด้วยเอกสารแนวทางปฏิบัติรวม 3 ฉบับ ซึ่งห้ามบริษัทต่างๆ ไม่ให้
**ใช้ชิป แอสเซนด์ (Ascend) ของ หัวเว่ย
**นำเอาชิปสหรัฐฯไปช่วยพวกบริษัทจีนฝึกโมเดลเอไอของพวกเขา หรือ
**นำเอาชิปไฮเอนด์สหรัฐฯมาส่งออกต่อไปยังประเทศจีน

เอกสารแนวทางปฏิบัติเหล่านี้ระบุว่า พวกผู้ส่งออกชิปเอไอ, พวกผู้ส่งออกต่อชิปเอไอ, หรือพวกโอนชิปเอไอไปให้ผู้อื่น ต้องยื่นขอใบอนุญาต ถ้าหากพวกเขามี “ความรู้” ว่าลูกค้าของพวกเขาจะใช้ชิปประมวลผลเหล่านั้นไปฝึกโมเดลเอไอ หรือทำธุรกรรมในนามของฝ่ายซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่ในพวกประเทศและดินแดนที่ถูกสหรัฐฯสั่งห้ามขนส่งอาวุธไปให้ (หรือที่เรียกกันว่า พวกประเทศ D:5 countries) ซึ่งในนี้จะมีจีน และ มาเก๊า รวมอยู่ด้วย

สื่อวอลล์สตรีทเจอร์นัล (Wall Street Journal) รายงาน [8] ในวันที่ 12 มิถุนายนว่า มีวิศวกรด้านเทคโนโลยีชาวจีน 4คน บินจากปักกิ่งไปยังกัวลาลัมเปอร์ แต่ละคนต่างนำเอาฮาร์ดไดรฟ์ไปด้วย 15 ตัว ซึ่งแต่ละตัวบรรจุข้อมูลจำนวน 80 เทระไบต์ เพื่อใช้ฝึกโมเดลเอไอ

ฮาร์ดไดรฟ์ 60 ตัว ซึ่งรวมแล้วบรรจุข้อมูลจำนวน 4.8 เพตะไบต์ เพียงพอสำหรับการฝึกโมเดล large language models หรือ LLMs) ได้หลายๆ โมเดลทีเดียว ทั้งนี้ แชตจีพีที (ChatGPT) ของบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) คือตัวอย่างหนึ่งของ LLM 1 โมเดล

บุคลากรชาวจีนเหล่านี้ทำการประมวลผลข้อมูลของพวกเขาโดยเช่าเครื่องเซิร์ฟเวอร์เอไออินวีเดีย 300 เครื่องที่ศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง รายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัลบอกว่ากฎระเบียบของสหรัฐฯนั้นเน้นโฟกัสเข้มเอาไว้ที่การจำกัดการส่งออกชิปเป็นชิ้นๆ ทว่าไม่ได้ห้ามเรื่องพลังในการคำนวณที่ยึดโยงอยู่กับระบบคลาวด์ (cloud-based computing power) จึงก่อให้เกิดช่องโหว่สำคัญที่พวกบริษัทจีนสามารถเข้าฉวยใช้ประโยชน์ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ

“มาเลเซียเพิ่งเข้าร่วมกลุ่มบริกส์ (BRICS ที่นำโดยบราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน, และแอฟริกาใต้) แต่ได้แจ้งให้ทางสหรัฐฯทราบอย่างลับๆ และช่วยเหลือสหรัฐฯในการกำจัดรูโหว่รอยรั่วของการควบคุมการส่งออกชิปของสหรัฐฯ” คอลัมนิสต์ที่ตั้งฐานอยู่ในมณฑลเหอหนานผู้หนึ่งเขียนเช่นนี้เอาไว้ในข้อเขียนชิ้นหนึ่ง [9] “พฤติกรรมทำตัวเป็นคนขี้ฟ้องของมาเลเซีย เป็นเหตุให้จีนต้องระมัดระวังตัวอย่างสูง!”

คอลัมนิสต์ผู้นี้บอกว่า มาเลเซียกำลังกระทำสิ่งที่มีอันตราย เนื่องจากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รายอื่นๆ บางรายก็อาจจะเจริญรอยตามในการจ้วงแทงใส่หลังจีนเช่นนี้

เขากล่าวว่า มาเลเซียควรตระหนักว่าจีนเพิ่งผ่านกฎหมายต่อต้านการแซงก์ชั่นคว่ำบาตรที่ต่างประเทศกระทำต่อจีน (Anti-Foreign Sanctions Law) ซึ่งเปิดทางให้แดนมังกรดำเนินการแซงก์ชั่นบริษัทใดๆ ก็ตามที่ช่วยเหลือสหรัฐฯในการกดขี่บีฑาพวกบริษัทจีน

ในวันที่ 5 กรกฏคมที่ผ่านมา หร่วน เจียฉี (Ruan Jiaqi) คอลัมนิสต์ผู้หนึ่งของเว็บไซต์ข่าวจีน Guancha.cn ได้เผยแพร่ข้อเขียน [10] ที่กล่าวว่า “มือดำทมิฬเลวร้าย” (black hand) ของสหรัฐฯกำลังยื่นสยายมายังมาเลเซียและไทย ถึงแม้คณะบริหารทรัมป์ได้ยกเลิกกฎระเบียบว่าด้วยการแพร่กระจายเอไอของคณะบริหารไบเดนไปเมื่อเดือนพฤษภาคม

“เจตนารมณ์อันชั่วร้ายของวอชิงตันที่พุ่งเป้ามุ่งเล่นงานจีนยังไม่ได้ยุติลง” หร่วน กล่าว “สหรัฐฯยังคงรักษาเอาไว้ไม่เพียงข้อจำกัดต่างๆ ในเรื่องชิปที่พุ่งเป้าเล่นงานจีน ซึ่งประกาศออกมาตั้งแต่ปี 2022 รวมทั้งมีการเพิ่มความเข้มข้นขึ้นไปอีกหลายๆ ครั้งนับตั้งแต่นั้น หากแต่ยังคงบังคับใช้มาตรการในปี 2023 ที่เปิดเผยออกมาโดยพวกเจ้าหน้าที่ยุคไบเดน ด้วยข้ออ้างว่าจัดทำออกมาเพื่อแก้ไขรับมือกับความห่วงใยเรื่องการลักลอบผิดกฎหมายต่างๆ ตลอดจนเพื่อเพิ่มความสามารถในการจับตาดูแลในตลาดแห่งหลักๆ”

คอลัมนิสต์ผู้นี้กล่าวย้ำคำแถลงก่อนหน้านี้ของกระทรวงการต่างประเทศจีน และระบุ [11] ว่า จีนนั้นได้ประกาศจุดยืนอันขึงขังต่อเรื่องที่สหรัฐฯมุ่งสกัดกั้นและปราบปรามภาคอุตสาหกรรมชิปของจีนด้วยเจตนาชั่วร้าย

“สหรัฐฯได้ทำให้ประเด็นทางการค้าและประเด็นทางเทคโนโลยีกลายเป็นเรื่องทางการเมือง ขยายเน้นหนักแนวความคิดเรื่องความมั่นคงให้กว้างขวางออกไปจนเกินเลย และใช้ประเด็นเหล่านี้มาเป็นเครื่องมือ, เพิ่มการควบคุมการส่งออกชิปมายังจีน, รวมทั้งใช้อำนาจบังคับประเทศอื่นๆ เข้าร่วมในการเล่นงานกีดกันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน” เธอกล่าว “ความเคลื่อนไหวเช่นนี้เป็นการสร้างอุปสรรคให้แก่การพัฒนาของอุตสาหกรรมชิปทั่วโลก และในท้ายที่สุดจะส่งผลด้านกลับรวมทั้งสร้างความเสียหายให้แก่สหรัฐฯเองตลอดจนฝ่ายอื่นๆ ด้วย”

เชิงอรรถ
[1] https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-07-04/us-plans-ai-chip-curbs-on-malaysia-thailand-over-china-concerns
[2] https://asiatimes.com/2025/07/us-oks-chip-design-software-for-china-after-a-key-minerals-deal/
[3]https://mbd.baidu.com/newspage/data/landingsuper?context=%7B%22nid%22%3A%22news_9506485973075286181%22%7D&n_type=1&p_from=4
[4] https://gcaptain.com/u-s-lifts-ethane-export-restrictions-to-china-as-trade-tensions-ease/
[5] https://asiatimes.com/2025/05/us-eases-trade-war-pursues-strategic-decoupling-from-china/
[6] https://www.ft.com/content/d0267fb8-36b2-41dc-9c0c-d493976812c7
[7] https://www.reuters.com/technology/singapore-charges-three-with-fraud-that-media-link-nvidia-chips-2025-02-28/#:~:text=Singapore's%20government%20did%20not%20immediately,seized%20documentary%20and%20electronic%20records.
[8] https://www.wsj.com/tech/china-ai-chip-curb-suitcases-7c47dab1
[9]https://baijiahao.baidu.com/s?id=1836059796248815735&wfr=spider&for=pc
[10]https://baijiahao.baidu.com/s?id=1836768574780525050&wfr=spider&for=pc
[11]https://www.fmprc.gov.cn/eng/xw/fyrbt/lxjzh/202502/t20250225_11561975.html
กำลังโหลดความคิดเห็น