กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเผยแพร่สมุดปกขาวฉบับใหม่ ระบุกิจกรรมทางทหารของจีนที่ยกระดับขึ้นเรื่อยๆ เสี่ยงกระทบต่อความมั่นคงของญี่ปุ่นอย่างร้ายแรง พร้อมยืนยันเคยเกิดกรณีที่เครื่องบินทหารจีนรุกล้ำน่านฟ้าแดนปลาดิบมาแล้ว
สมุดปกขาวกลาโหมที่เผยแพร่วันนี้ (15 ก.ค.) ยังอ้างว่า จีนมีการยกระดับกิจกรรมทางทหารทั่วภูมิภาคและรอบๆ ดินแดนของญี่ปุ่น
เครื่องบินทหารจีนลำหนึ่งได้เข้าไปในเขตน่านฟ้าของญี่ปุ่นเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว ต่อมาในเดือน ก.ย. เรือบรรทุกเครื่องบินและเรือรบจีนอีก 2 ลำก็ได้ล่องผ่านระหว่างหมู่เกาะ 2 แห่งของญี่ปุ่นใกล้กับไต้หวัน
รายงานฉบับนี้ชี้ว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน “สร้างสถานการณ์ที่เสี่ยงกระทบต่อความมั่นคงของญี่ปุ่นอย่างร้ายแรง” โดยเป็นการเน้นย้ำถ้อยแถลงก่อนหน้าที่ว่า การกระทำของจีนเป็นสิ่งที่ “น่ากังวลอย่างยิ่ง”
สมุดปกขาวฉบับนี้ยังย้ำข้อความเดิมจากเมื่อปีที่แล้วว่า ความทะเยอทะยานทางทหารของจีน “กำลังเป็นความท้าทายทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่โตที่สุด และไม่เคยมีมาก่อน” ทั้งต่อญี่ปุ่นและโลก
สัปดาห์ที่แล้ว โตเกียวระบุว่ามีเครื่องบินรบจีนลำหนึ่งบินเฉียดใกล้เครื่องบินลาดตระเวนของญี่ปุ่นในระยะเพียง 30 เมตรเหนือทะเลจีนตะวันออก
ปีที่แล้ว เรือของจีนยังล่องเข้าไปใกล้หมู่เกาะเซ็นกากุ (Senkaku Islands) หรือที่จีนเรียกว่าเตี้ยวอี๋ว์ (Diaoyu) ถี่เป็นประวัติการณ์ถึง 355 ครั้ง
ในเดือนที่แล้ว ญี่ปุ่นยังตรวจพบเรือบรรทุกเครื่องบินจีน 2 ลำออกปฏิบัติภารกิจในมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นครั้งแรก และเข้าไปในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของแดนอาทิตย์อุทัยด้วย
รัฐบาลจีนยืนยันว่า ปฏิบัติการเหล่านี้เป็นเพียง “การฝึกตามวงรอบปกติ”
จีนยังได้มีการเปิดซ้อมรบร่วมกับรัสเซีย “ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีเจตนาที่จะสำแดงอำนาจเหนือญี่ปุ่น” ตามข้อความในสมุดปกขาว
ขณะเดียวกัน เอกสารฉบับนี้ยังย้ำว่ากิจกรรมของเกาหลีเหนือ “เป็นภัยคุกคามเฉพาะหน้าต่อความมั่นคงของญี่ปุ่นยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา”
สมุดปกขาวกลาโหมฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (15)
ญี่ปุ่นอยู่ในขั้นตอนของการเพิ่มงบประมาณกลาโหมให้เทียบเท่ามาตรฐาน 2% ของ GDP ตามข้อกำหนดขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) นอกจากนี้ยังยกระดับความร่วมมือทางทหารกับวอชิงตันและพันธมิตรอื่นของสหรัฐฯ ในภูมิภาค เพื่อให้กองกำลังสหรัฐฯ และญี่ปุ่นสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น สถานการณ์ที่จีนบุกไต้หวัน เป็นต้น
ที่มา: เอเอฟพี