สหรัฐฯ เรียกร้องให้เกาหลีใต้มีส่วนช่วยคานอิทธิพลจีนในด้านอุตสาหกรรมต่อเรือ (shipbuilding) ผ่านความร่วมมือกับสหรัฐฯ ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์เกาหลีใต้วานนี้ (11 ก.ค.)
“สหรัฐฯ รู้สึกว่ากำลังเกิดวิกฤต เนื่องจากจีนช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมต่อเรือไปมากขึ้นเรื่อยๆ และสหรัฐฯ มองว่าเกาหลีใต้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในเรื่องนี้” ชาง ซุงกิล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายการค้าของเกาหลีใต้ ระบุในงานเสวนาแห่งหนึ่ง
เขากล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ ยังได้ร้องขอให้โซลเข้าไปมีส่วนร่วมในมาตรการควบคุมจีน “ในภาคส่วนอื่นๆ” เพื่อเป็น “เงื่อนไขเบื้องต้น” สำหรับความร่วมมือในอุตสาหกรรมต่อเรือในอนาคต”
ชาง อธิบายเพิ่มเติมในเวลาต่อมาว่า การที่ตนเอ่ยถึงอุตสาหกรรมต่อเรือก็เพราะเป็นภาคส่วนที่สหรัฐฯ คาดหวังความร่วมมือจากเกาหลีใต้เพื่อต้านทานอิทธิพลของจีน ทว่าสหรัฐฯ ยังคงแสดงท่าทีลังเลเมื่อเกาหลีใต้เอ่ยถึงการขอยกเว้นภาษีศุลกากรในอุตสาหกรรมที่เฉพาะเจาะจง เช่น รถยนต์และเหล็กกล้า เป็นต้น
เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ให้ความเห็นเกี่ยวกับความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะดึงโซลเข้าร่วมต่อต้านจีนว่า การหารือทวิภาคีระหว่างประเทศใดๆ ไม่ควรที่จะมุ่งร้ายต่อประเทศที่สาม
“จีนสนับสนุนทุกฝ่ายให้จัดการความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือกัน แต่ไม่ใช่ทำข้อตกลงหรือเจรจาในรูปแบบที่บ่อนทำลายผลประโยชน์ของบุคคลที่สาม” เหมา ระบุในงานแถลงข่าว
ชาง ระบุว่า สหรัฐฯ เรียกร้องให้โซลเพิ่มเม็ดเงินลงทุน รวมถึงซื้อพลังงานและสินค้าเกษตรจากอเมริกามากขึ้นเพื่อแลกกับโอกาสในการเจรจาขอลดภาษีจากระดับ 25% ในเวลานี้ แต่เขาเองก็ยอมรับว่า “การขยายขอบเขตนำเข้าสินค้าเกษตรนั้นเป็นเรื่องที่เปราะบางในทางการเมืองสำหรับเกาหลีใต้”
ที่มา: รอยเตอร์