เอเจนซีส์ – รัฐนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย เพนนี หว่อง วันนี้(10 ก.ค) ออกมาเรียกร้องให้รัสเซียจ่ายค่าเยียวนาสำหรับการตกของเครื่องบินโดยสารมาเลเซียแอร์ไลน์ MH17 ที่ถูกยิงตกในยุโรปตะวันออกปี 2014 หลังศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป ECHR วานนี้(9) ตัดสินว่ามอสโกต้องรับผิดชอบต่อโศกนาฎกรรมที่ร้ายแรง
DPA อินเตอร์เนชันแนลของเยอรมันรายงานวันพฤหัสบดี(10 ก.ค)ว่า ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป ECHR ที่สตราเบิร์กวันพุธ(9) ค้นพบว่ามอสโกล้มเหลวในการยืนยันเป้าของมิสไซล์ที่ยิงเที่ยวบินมรณะ MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ตกเมื่อวันที่ 17 ก.ค ปี 2014 ที่แคว้นโดเนสค์โดยมีทั้งหมด 298 คนบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด
ECHR ยังพิพากษาว่า มอสโกล้มเหลวในการปกป้องชีวิตคนที่อยู่บนเครื่องโบอิ้ง 777 ที่อยู่ระหว่างเส้นทางจากอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์มายังกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยเชื่อว่า MH17 ถูกยิงด้วยมิสไซล์ต่อต้านอากาศยานจากกลุ่มกบฎยูเครนโปรมอสโก
บนเครื่องมีจำนวนทั้งหมด 298 คนรวมพลเมืองดัตช์ 196 คน พลเมืองออสเตรเลีย 38 คน และอีก 4 คนเป็นพลเมืองเยอรมัน แต่ทว่ามอสโกกลับปฎิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุดังกล่าว
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า ในตอนหนึ่งของคำพิพากษาได้ระบุว่า
“ศาลเห็นด้วยต่อหลักฐานที่ชี้ว่า มิสไซล์ถูกยิงออกมาอย่างตั้งใจไปที่เป้าหมายเครื่องบิน MH17 ที่น่าจะเป็นความเชื่ออย่างผิดพลาดว่าเครื่องดังกล่าวเป็นเครื่องบินทหาร”
ซากชิ้นส่วนจากเครื่องบินที่ตกนี้ผู้กำกับการบิน ICAO ของสหประชาชาติ เคยออกาตัดสินว่า รัสเซียเป็นผู้รับผิดชอบต่อการตกของเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบินมรณะ
“ไม่มีความจำเป็นสำหรับศาลที่ต้องตัดสินอย่างชัดเจนว่าใครเป็นคนยิงมิสไซล์จากที่รัสเซียรับผิดชอบต่อการกระทำของกองกำลังรัสเซียและของกองกำลังแบ่งแยกดินแดน” รายงานจากคำพิพากษาศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป
รัฐมนตรีต่างประเทศ เพนนี หว่อง กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “พวกเรายินดีต่อคำพิพากษาที่ออกมาจากศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปที่ตัดสินว่า รัสเซียเป็นผู้รับผิดชอบต่อการตกของเที่ยวบิน MH17”
พร้อมชี้ว่าเป็นคำตัดสินครั้งประวัติศาสตร์สำหรับเหยื่อ 298 ชีวิตและบุคคลอันเป็นที่รักของคนเหล่านั้น
เมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ICAO (Civil Aviation Organization) พบว่ารัสเซียรับผิดชอบต่อการตกของเครื่องบินโดยสารมาเลเซียแอร์ไลน์ MH17 ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศซึ่งมีออสเตรเลียและเนเธอร์แลนด์ยื่นฟ้อง
รัฐมนตรีหว่องกล่าวต่อว่า “การพิพากษานี้ตามหลังการตัดสินของ ICAO เมื่อพฤษภาคมว่า รัสเซียที่เป็นผู้รับผิดชอบต้องเจรจาร่วมกับออสเตรเลียและเนเธอร์แลนด์สำหรับค่าชดเชยทั้งหมด”
และเสริมว่า “พวกเราอีกครั้งออกมาเรียกร้องต่อรัสเซียให้เผชิญหน้าต่อความรับผิดชอบของตัวเองและจ่ายเงินชดเชยต่อการกระทำที่น่าสยดสยองนี้เสียที”
DPA อินเตอร์เนชันแนลของเยอรมันชี้ว่า ผลกระทบต่อการตัดสินจากศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป ECHR นั้นจำกัดจากการที่มอสโกปฎิเสธไม่รับรองศาลนี้
ทั้งนี้พบว่ามีการพิพากษาแบบลับหลังให้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตชาวรัสเซีย 2 คนและชาวยูเครน 1 คนโดยศาลดัตช์เมื่อปี 2022 ต่อโทษคดีฆาตกรรม 298 คนบนเครื่อง แต่รัสเซียยืนกรานปฎิเสธความรับผิดชอบใดๆและไม่ยอมส่งตัวคนดังกล่าวที่เชื่อว่าเป็นผู้ยิงมิสไซล์ต่อต้านอากาศยานมาดำเนินคดี