กล้าแข็งขืนทรัมป์!เกาหลีใต้อ้างข้อตกลงเดิม กร้าวไม่จ่ายเพิ่มค่าคุ้มครองทางทหารให้สหรัฐฯ

เกาหลีใต้จะทำตามเงื่อนไขต่างๆในข้อตกลงที่ทำไว้กับสหรัฐฯก่อนหน้านี้ ในเรื่องของส่วนแบ่งค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเอง จากคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศในวันพุธ(9ก.ค.) ความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งเสียงเรียกร้องให้โซล รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับกำลังพลของอเมริกาที่ประจำการอยู่ในประเทศแห่งนี้

ไม่นานก่อนหน้า ทรัมป์ ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายน ทั้ง 2 ประเทศ บรรลุข้อตกลงแผนการใหม่ 5 ปี ในส่วนแบ่งค่าใช้จ่ายสำหรับการคงทหารอเมริกาไว้ในเกาหลีใต้ โดยภายใต้แผนดังกล่าว โซล จะยกระดับการสนับสนุนงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายของทหหารสหรัฐฯ อีก 8.3% เป็น 1,470 ล้านดอลลาร์ในปีแรก และจะเพิ่มขึ้นในอีกถัดๆไปตามกรอบของเงินเฟ้อ

เมื่อวันอังคาร(8ก.ค.) ทรัมป์ บอกว่าพันธมิตรในเอเชียของอเมริกาแห่งนี้ ควรรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับการคุ้มกันทางทหารแก่ตนเอง หนึ่งวันหลังจากเผยว่าเขามีแผนกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากเกาหลีใต้ 25%

ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า "รัฐบาลของเรามุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามและบังคับใช้ 12th SMA(ข้อตกลงมาตรการพิเศษ) ซึ่งมีผลทางกฎหมายและมีผลบังคับใช้แล้ว" อย่างไรก็ตามกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เกี่ยวกับคำพูดของทรัมป์

ทรัมป์กล่าวหาโซลใช้ประโยชน์จากแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐฯแบบฟรีๆ จากการที่มีทหารอเมริกาประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ราวๆ 28,500 นาย ส่วนหนึ่งในความพยายามป้องปรามเกาหลีเหนือ ชาติคู่อริติดอาวุธนิวเคลียร์

ด้วยที่กาหลีใต้และสหรัฐฯกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเกี่ยวกับการรีดภาษี รัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ต้องการเร่งรัดการเจรจาก่อนถึงเส้นตายใหม่ ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 1 สิงหาคม

วี ซุง-ลัค ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงระดับสูงของเกาหลีใต้ ในวันพุธ(9ก.ค.) เผยว่าเขาเสนอแนะให้สหรัฐฯสานต่อการพูดคุยในประเด็นต่างๆ ในนั้นรวมถึงการค้า การลงทุน การจัดซื้อและความมั่นคง ระหว่างที่เขาเดินทางเยือนวอชิงตันในสัปดาห์นี้

จากนั้นระหว่างแถลงข่าว วี อ้างว่า มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติระดับสูงของอเมริกา เห็นด้วยในเรื่องนี้ "ข้อเท็จจริงคือเราจ่าย 1.5 ล้านล้านวอน(ราว35,000ล้านบาท) ในแต่ละปี ในค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเอง การพูดคุยหารือควรเริ่มจากข้อเท็จจริงนี้" เขาบอกกับผู้สื่อข่าวหลังเดินทางเยือนสหรัฐฯ

"นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังมีเงินสนับสนุนด้านการป้องกันตนเองทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกมากมาย และเราพยายามเพิ่มเงินสนับสนุนเหล่านี้ตามแนวโน้มนานาชาติ" เขากล่าว อย่างไรก็ตามเขายอมรับประเด็นค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเองไม่ได้ถูกหยิบยกมาพูดคุยนักระหว่างการเดินทางเยือนในช่วงกลางสัปดาห์

(ที่มา:รอยเตอร์)