รอยเตอร์/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลา แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ วันอังคาร(8 ก.ค) เปิดพระเทศอังกฤษต้อนรับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง และภริยา บริจิตต์ มาครง อย่างยิ่งใหญ่ส่งรถรถเทียมม้าหลวงปี 1902 นำสู่พระราชวังวินด์เซอร์ พร้อมพิธีเลี้ยงกระยาหารค่ำสุดหรูภายในพระราชวัง ตรัสยืนยันความสัมพันธ์ 2 ชาติต้องงอกงาม
รอยเตอร์รายงานวันพุธ(9 ก.ค)ว่า การเดินทางมาเยือนอังกฤษครั้งสำคัญของผู้นำฝรั่งเศสเป็นเสมือนการรีเซ็ตความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งที่ยูเครนและตะวันออกกลางและการแข่งขันทางการค้าสูงมากขึ้นที่ยกระดับโดยมาตรการภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ รวมไปถึงความไม่แน่นอนจากวอชิงตันที่สร้างความวิตกให้กับชาติพันธมิตร
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง ตัดหน้าผู้นำสหรัฐฯ กลายเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เดินทางมาเยือนอังกฤษเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ ผู้นำแดนน้ำหอมได้รับเกียรติสูงสุดด้วยการนั่งร่วมพระราชยานพาหนะรถเทียมม้าหลวง State Landau ปี 1902 ในวันอังคาร(8)โดยมีพระเจ้าชาร์ลส์ทีา 3 ทรงประทับข้างโบกพระหัตถ์ให้ฝูงชนข้างทางท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเพื่อมุ่งหน้าสู่ปราสาทวินด์เซอร์ในวันแรกของการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการจำนวนทั้งหมดรวม 3 วัน
ขณะที่พระราชินีคามิลลาทรงประทับพระราชยานพาหนะรถเทียมม้าหลวงกึ่งรัฐพิธี Semi-State Landau ร่วมกับสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศส บริจิตต์ มาครง ตามหลัง อ้างอิงจากเดลีเมลของอังกฤษ
ทั้งนี้ก่อนหน้าพบว่า มาครงที่เคยกลายเป็นข่าวไปทั่วโลกระหว่างเยือนเวียดนามของเขาเมื่อมีการจับภาพพบว่าเขาโดนมือลึกลับที่คาดจะเป็นศรีภรรยา บริจิตต์ ใช้มือผลักระหว่างที่ทั้งสองยังอยู่บนเครื่องแต่ประตูเปิดออก และร่องรอยระหองระแหงดังกล่าวยังคงมีปรากฎให้เห็นในการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการล่าสุด
เดลีเมลรายงานว่า ดูเหมือนเขาจะโดนภรรยาปัดไม่รับมือของมาครงที่เสนอเพื่อให้จับระหว่างที่สุภาพสตรีหมายเลข 1 ฝรั่งเศสกำลังก้าวเดินลงบันไดเครื่องบินมาที่สนามบินกองทัพอากาศอังกฤษ RAF Northolt โดยมีมกุฎราชกุมารแห่งเวลส์ เจ้าชายวิลเลียม แห่งเวลส์และพระชายา เจ้าหญิงแคทเธอรีน แห่งเวลส์ เสด็จรอต้อนรับในฐานะผู้แทนพระองค์
รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีมาครงที่นอกจากจะแสดงจุดยืนว่าทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษต้องแก้ปัญหาร่วมกันต่อการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของบรรดาผู้อพยพที่เห็นบรรดาผู้อพยพใช้เรือเล็กข้ามช่องแคบอังกฤษจากฝรั่งเศสเข้าไปข้อลี้ภัยในแดนผู้ดีแต่ยังเรียกร้องว่าทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษยังต้องเดินหน้าเพื่อเลิกการพึ่งพาทั้งจาก “จีน” และ “สหรัฐฯ” ในความพยายามเพื่อปกป้องยุโรป
ระหว่างที่ผู้นำฝรั่งเศสขึ้นกล่าวภายในรัฐสภาอังกฤษในวาระเฉลิมฉลองการกลับคืนสู่ความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างกันอีก
มาครงประกาศว่าทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อเสริมความแข็งแกร่งยุโรปด้านการป้องกันประเทศ สภาพอากาศ และการค้า
“อังกฤษและฝรั่งเศสเป็นอีกครั้งที่ต้องแสดงให้ทั้งโลกเห็นความเป็นพันธมิตรของพวกเราสามารถทำให้ทุกสิ่งแตกต่างได้”
และชี้ต่อว่า “มีเพียงหนทางเดียวที่จะเอาชนะความท้าทายที่พวกเรามี ความท้าทายในยุคสมัยของพวกเราจะต้องจับมือไปด้วยกัน เคียงบ่าเคียงไหล่กัน”
ในภัยคุกคามหลากหลายที่ประเทศต่างๆกำลังเผชิญหน้า ผู้นำฝรั่งเศสโต้ว่าทั้ง 2 ชาติสมควรต้องวิตกต่อการพึ่งพึงมากเกินไปต่อทั้ง "สหรัฐฯและจีน” โดยกล่าวว่าพวกเขาจำเป็นต้องลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจของพวกเราและสังคมของพวกเราจากการพึ่งพาทั้งสองชาตินี้”
แต่อย่างไรก็ตามมาครงยังชี้ต่อว่า ยังเป็นโอกาสสำหรับความใกล้ชิดมากขึ้นต่อสหภาพยุโรป โดยกล่าวว่า ทั้ง 2 ชาติสมควรทำให้มีความง่ายดายเพิ่มขึ้นต่อทั้งนักศึกษา นักวิจัย และศิลปินที่จะสามารถพักอาศัยในทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษ และแสวงหาการทำงานร่วมกันทางด้านปัญญาประดิษฐ์ AI และปกป้องเด็กทางออนไลน์
รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีมาครงที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 นั้นได้ขึ้นกล่าวในสุนทรพจน์ในรัฐสภาเวสต์มินสเตอร์ของอังกฤษที่เป็นเชิงสัญลักษณ์การพัฒนาความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างกัน
ซึ่งเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์จากพรรคแรงงานกลางซ้ายอังกฤษแสวงหาเป็นส่วนหนึ่งความพยายามในภาพกว้างของเขาที่ต้องการให้อังกฤษกลับมาปรับความสัมพันธ์ร่วมกับบรรดาชาติยุโรปอีกครั้งหลัง BREXIT
เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายการเมืองภูมิศาสตร์และความขัดแย้งทั่วโลก และความท้าทายจากสหรัฐฯภายใต้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ใช้ 'สิทธิ์อเมริกาเฟิร์สต์' ประกาศจะเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์ก แสดงความกังขาต่อข้อผูกพันนาโต และโจมตียุโรปและชาติทั่วโลกด้วยมาตรการปรับอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯใหม่ รวมไปถึงการแสดงวาทะโจมตีทางการเมืองต่อการเมืองปีกสายกลางและสายโซเชียลลิสต์ในยุโรปจากทั้งตัวทรัมป์เอง และคู่หูมหาเศรษฐีอเมริกัน อีลอน มัสก์
บีบีซีของอังกฤษรายงานว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาแห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษทรงเป็นเจ้าภาพงานกาลาดินเนอร์กระยาหารค่ำภายในพระราชวังรับรองประธานาธิบดีฝรั่งเศสและสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศส
ทั้งนี้พบว่ามีสมาชิกราชวงศ์อังกฤษชั้นสูงเข้าร่วมเป็นต้น มกุฎราชกุมารอังกฤษ เจ้าชายวิลเลียมแห่งเวลส์และพระชายา เจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งเวลส์
สื่ออังกฤษชี้ว่า การกลับมาปรากฎพระองค์ของเจ้าหญิงแคทเธอรีนในพิธีเลี้ยงรับรองอาหารค่ำที่พระราชวังวินด์เซอร์นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการกลับคืนสู่สาธารณะปกติอีกครั้งหลังพระองค์ทรงได้รับการถวายวินิจฉัยประชวรโรคมะเร็งและต้องเข้ารับการถวายคีโมบำบัดแบบป้องกัน ส่งผลทำให้เจ้าหญิงไม่ปรากฏพระองค์ต่อสาธารณะ โดยพิธีเลี้ยงพระกระยาหารค่ำต่อนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้และภริยาเมื่อปี 2023 เจ้าหญิงแคทเธอรีนไม่ได้เสด็จร่วมแต่อย่างใด
บีบีซีรายงานว่า แขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมโต๊ะเสวยรัฐพิธีมีทั้งหมด 160 คนรวมศิลปินคนดัง เซอร์ มิค แจ็กเกอร์ และ เซอร์ เอลตัน จอห์น
และภายในงานพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 ทรงตรัสย้ำท่ามกลางแขกเหรื่อผู้ทรงเกียรติว่า ความเป็นพันธมิตรระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสนั้นจำเป็นต้องใกล้ชิดกันมากขึ้นท่ามกลางการเผชิญหน้าต่อความท้าทายที่เกิดมากมายในเวลานี้