น้ำมันลงหลังสหรัฐฯจ่อคืนรีดภาษี หุ้นอเมริกาปิดบวก-ทองปรับลด

ราคาน้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี(3ก.ค.) ความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะคืนสถานะมาตรการรีดภาษีก่อความกังวลทางอุปสงค์ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก ได้แรงหนุนจากข้อมูลการจ้างงาน ปัจจัยนี้เหนี่ยวรั้งทองคำปรับลด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 45 เซนต์ ปิดที่ 67.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 31 เซนต์ ปิดที่ 68.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ก่อนหน้านี้ข้อตกลงการค้าเบื้องต้นระหว่างสหรัฐฯกับเวียดนามเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันแกว่งตัวลงในวันพฤหัสบดี(3ก.ค.) จากเค้าลางความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับชาติอื่นๆ

กรอบเวลาที่สหรัฐฯพักบังคับใช้มาตรการรีดภาษีเป็นเวลา 90 วัน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 9 กรกฏาคม แต่เวลานี้คู่หูทางการค้าขนาดใหญ่หลายชาติยังไม่สามารถปิดข้อตกลงกับวอชิงตัน ในนั้นรวมถึงสหภาพยุโรปและญี่ปุ่น

นอกเหนือจากเรื่องดังกล่าวแล้ว นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับผลสำรวจภาคเอกชนที่เผยให้เห็นว่ากิจกรรมภาคบริการของจีน ชาติผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก ขยายตัวในอัตราชะลอตัวที่สุดในรอบ 9 เดือนในเดือนมิถุนายน สืบเนื่องจากอุปสงค์อ่อนแอและคำสั่งส่งออกใหม่ๆลดลง

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี(3มิ.ย.) โดยเอ็นวิเดีย ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปมีมูลค่าการตลาดเฉียดใกล้ 4 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของอเมริกา สร้างความคึกคักแก่นักลงทุน ที่เมินความเป็นไปได้ที่ตัวเลขดังกล่าวจะทำให้โอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้น้อยลง

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 344.11 จุด (0.77 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 44,828.53 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 51.93 จุด (0.83 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,279.35 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 207.97 จุด (1.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 20,601.10 จุด

หุ้นของเอ็นวิเดีย ผู้ผลิตชิป เพิ่มขึ้น 1.3% ดันมูลค่าการตลาดสู่ระดับ 3.89 ล้านล้านดอลลาร์ บริษัทแห่งนี้ใกล้แซงหน้าสถิติตลอดกาลของแอปเปิล กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในประวัติศาสตร์ของโลก

ขณะเดียวกันตลาดได้แรงหนุนจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น 147,000 อัตราในเดือนที่แล้ว มากกว่าที่พวกนักเศรษฐศาสตร์คาดหมายไว้ถึง 33% ในขณะที่ตัวเลขคนว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.1% ในเดือนที่แล้ว

วอลล์สตรีทเคลื่อนไหวในแดนบวก แม้ข้อมูลดังกล่าวส่อแววตัดโอกาสของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฏาคม โดยข้อมูล Fedwatch tool ของทาง CME Group คาดหมายว่าโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 25% ในเดือนกันยายน ลดลงมาอยู่ที่ 68% จากระดับ 74% เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน

ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งเพิ่มความคาดหมายว่าเฟดจะยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยในเร็ววันนี้ ยังฉุดให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(3มิ.ย.) ปิดลบ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 16.80 ดอลลาร์ หรือ 0.50 % ปิดที่ 3,342.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์)