เกิดอุบัติเหตุเรือเฟอร์รีล่มระหว่างขนส่งผู้โดยสารไปยังเกาะบาหลีของอินโดนีเซียวันนี้ (3 ก.ค.) เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน สูญหายอีก 38 คน และมีผู้รอดชีวิตที่ถูกช่วยขึ้นจากน้ำได้ 23 คน
หน่วยกู้ภัยอินโดนีเซียยังคงเร่งติดตามค้นหาผู้สูญหายอีกเกือบ 40 ชีวิตท่ามกลางท้องทะเลที่ปั่นป่วน หลังจากเรือเฟอร์รีซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 65 คนอับปางลงในช่วงก่อนเที่ยงคืนวันพุธ (2) ระหว่างกำลังเดินทางข้ามจากเกาะชวาไปยังบาหลี
“มีผู้รอดชีวิตแล้ว 23 คน เสียชีวิต 4 คน” รามา ซัมตามา ปุตรา ผู้บัญชาการตำรวจเมืองบันยูวังงี (Banyuwangi) ในจังหวัดชวาตะวันออกซึ่งเป็นเมืองต้นทางของเรือเฟอร์รี ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
เทดดี อินดรา วิจายา เลขาธิการคณะรัฐมนตรีอินโดนีเซีย ระบุวันนี้ (3) ว่า ประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตอบสนองเหตุฉุกเฉินดังกล่าวทันที พร้อมเผยว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้มีต้นตอจาก “สภาพอากาศเลวร้าย”
นานัง ซิกิต หัวหน้าสำนักงานค้นหาและช่วยชีวิตประจำเมืองสุราบายา ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตและสูญหาย พร้อมเผยว่าการเข้าถึงเรือเฟอร์รีทำได้ยากลำบากในช่วงแรกๆ เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และมีคลื่นสูงถึง 2.5 เมตร
“เรือ KMP Tunu Pratama Jaya จมลงราวๆ 25 นาทีหลังจากที่ยกสมอเรือขึ้น” คำแถลงระบุ
“ข้อมูลการเดินทางของเรือระบุว่า มีผู้โดยสาร 53 คน กับลูกเรืออีก 12 คน”
ทีมกู้ภัยอย่างน้อย 54 รายจากกองทัพเรือและตำรวจอินโดนีเซียถูกส่งออกไปพร้อมกับเรือยาง และต่อมายังได้มีการส่งเรือใหญ่อีก 1 ลำจากเมืองสุราบายาออกไปช่วยในภารกิจค้นหาด้วย
เส้นทางเรือเฟอร์รีจากท่าเรือเกอตาปังในจังหวัดบันยูวังงีของเกาะชวาเพื่อไปยังท่าเรือกิลิมานุกบนเกาะบาหลีมีระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง และเป็นเส้นทางที่ชาวอินโดนีเซียซึ่งจะนำรถยนต์ข้ามเกาะนิยมใช้
ผู้รอดชีวิต 4 คนให้ข้อมูลว่า พวกเขาใส่เสื้อชูชีพที่มีอยู่บนเรือ และลอยคออยู่กลางทะเลจนกระทั่งมีหน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือในช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี (3)
รายงานระบุว่า นอกจากผู้โดยสารและลูกเรือ 65 คนแล้ว เรือเฟอร์รีลำนี้ยังบรรทุกยานพาหนะ 22 คัน รวมถึงรถบรรทุก 14 คัน
หน่วยกู้ภัยอินโดนีเซียยังอยู่ระหว่างประเมินว่า มีจำนวนผู้โดยสารบนเรือมากกว่าที่แจ้งหรือไม่ เนื่องจากเรือโดยสารในอินโดนีเซียนั้นมักจะมีการรับคนเกินพิกัดจนเป็นปกติ
ที่มา: เอเอฟพี
