การที่สหภาพยุโรป(อียู) พึ่งพาวัตถุดิบจากจีนมากเกินไป อาจลดขีดความสามารถด้านอุตสาหกรมของทางกลุ่ม สู่จุดๆหนึ่งที่อาจทำให้อียูกลายเป็นแค่ "มณฑลหนึ่งของจีน" จากเสียงเตือนของผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่งของเยอรมนี
สเตฟาน เชอเรอร์ ซีอีโอของ AMG Lithium ผู้ผลิตแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนเมื่อวันพุธ(2ก.ค.) ว่าหากปราศจากมาตรการปกป้องชั่วคราว อียูก็เสี่ยงตกเป็นฝ่ายล้าหลังมากยิ่งขึ้นในเทคโนโลยีสำคัญๆ
ปัจจุบัน จีน คือผู้ควบคุมกำลังการกลั่นลิเธียมของโลก คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% และครองความเป็นเจ้าในด้านการผลิตส่วนประกอบแบตเตอรีของโลก ทำให้ปักกิ่งมีอิทธิพลอย่างล้นเหลือเหนือห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญนี้ "กลายเป็นว่า ยุโรปจำเป็นต้องพึ่งพิงจีน" เชอเรอร์ให้สัมภาษณ์กับเดอะการ์เดียน ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในเยอรมนี
แม้มีคำมั่นจาก อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ในการลดพึ่งพิงและส่งเสริมการผลิตภายใน แต่ เชอเรอร์ ยอมรับว่าตลาดยังคงท่วมไปด้วยสินค้านำเข้าราคาถูกกว่าจากจีน ไล่ตั้งแต่เหล็กไปจนถึงส่วนประกอบแบตเตอรีทั้งมวล
เขาเตือนว่าหากปราศจากมาตรการที่เด็ดขาดจากบรัสเซลส์ พื้นฐานทางอุตสาหกรรมของอียูจะถูกกัดกร่อนต่อไป "มันอาจจะดีกว่าหากขอสมัครเข้าเป็นมณฑลหนึ่งของจีน" เชอเรอร์ กล่าวประชด "มันน่าสนใจว่าถ้าคุณพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียด คุณจะพบว่าเราอยู่ในจุดพลิกผันแล้ว และมันไม่เกี่ยวข้องใดๆกับสงครามในยูเครน มันคือการเปลี่ยนไปของความสัมพันธ์ในระดับโลกโดยสิ้นเชิง"
ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ยอมรับเกี่ยวกับความเสี่ยงของการพึ่งพิงปักกิ่งมากเกินไป และพยายามผลักดันให้หาทางลดความเสี่ยง แทนการแยกห่วงโซ่อุปทานโดยสิ้นเชิง เธอกล่าวหาจีนใช้กลวิธีบิดเบือนตลาดที่คุกคามอุตสาหกรรมของยุโรป คำกล่าวอ้างที่พวกเจ้าหน้าที่จีนปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว
นอกจากนี้แล้ว เชอเรอร์ ยังย้ำถึงความเสี่ยงที่มีต้อตอจากความสัมพันธ์ทางการค้าที่เสื่อมทรามลงระหว่างอียูกับสหรัฐฯ เตือนว่ามันจะก่อความตึงเครียดซ้ำเติมอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนี ที่อยู่ในภาวะกระเสือกกระสนดิ้นรนอยู่ก่อนแล้ว
บรัสเซลส์และวอชิงตัน ยังคงเจรจากันไม่ลงตัว ก่อนหน้าเส้นตายมาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 กรกฏาคม หลังจากก่อนหน้านี้อเมริกาปรับเพิ่มเพดานภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากอียูเป็น 50% แต่ระงับบังคับใช้เป็นเวลา 90 วัน ในขณะที่พวกเจ้าหน้าที่อียูหาทางลดระดับให้เหลือเพียงภาษีพื้นฐาน 10% และอยากเห็นอเมริกายอมอ่อนข้อต่างๆนานา ในนั้นรวมถึงลดภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% และ 50% ที่เรียกเก็บกับเหล็กและอลูมีเนียมนำเข้า
สถาบันเศรษฐกิจเยอรมัน ประเมินว่าเยอรมนีอาจสูญเสียเม็ดเงินสูงสุด 200,000 ล้านอียู ภายในปี 2028 หากว่ามาตรการรีดภาษีมีผลบังคับใช้อย่างเต็มพิกัด
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)