ถึงกับผวา!นาโตรุดส่งฝูงบินขับไล่ขึ้นสู่ท้องฟ้า หลังรัสเซียโจมตีทางอากาศชุดใหญ่ถล่มยูเครน

บรรดาชาติสมาชิกนาโตรุดส่งฝูงบินขับไล่ขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์(29มิ.ย.) อ้างอิงข้อมูลจากกองทัพโปแลนด์ หลังเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของยูเครนบอกว่ามอสโกเปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 3 ปี เล่นงานประเทศแห่งนี้

ศูนย์บัญชาการปฏิบัติการของโปแลนด์ เผยว่าเครื่องบินขับไล่ของพวกเขา เช่นเดียวกับเครื่องบินอื่นๆของนาโต รุดทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศและระบบสังเกตการณ์ที่ประจำการอยู่ภาคพื้น ถูกสั่งให้อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด หลังจากรัสเซียเปิดฉากโจมตีแผ่นดินยูเครนเมื่อค่ำคืนวันเสาร์(28มิ.ย.)

ในเวลาต่อมา กองทัพโปแลนด์ระบุในถ้อยแถลงว่า เครื่องบินของนาโตเสร็จสิ้นปฏิบัติการ หลัง "ระดับภัยคุกคามจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียใส่ดินแดนของยูเครนลดลงแล้ว ไม่มีขีปนาวุธหรือโดรนของรัสเซีย ล่วงล้ำเข้าสู่น่านฟ้าของโปแลนด์"

เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่ารัสเซียปล่อยโดรนและตัวล่อ 477 ลำ เช่นเดียวกับขีปนาวุธรุ่นต่างๆ 60 ลูก เข้าใส่ยูเครนเมื่อค่ำคืนวันเสาร์(28มิ.ย.) ขณะที่กองทัพอากาศของประเทศระบุสามารถสอยร่วงโดรน 211 ลำและอีก 225 ลำหลุดจากเส้นทางพลาดจากเป้าหมาย นอกจากนี้แล้วระบบป้องกันภัยทางอากาศยังสามารถสกัดขีปนาวุธพิสัยใกล้ได้ 1 ลูก ขีปนาวุธร่อนคาลิเบอร์ 4 ลูก และขีปนาวุธ Kh-101 จำนวน 33 ลูก

การโจมตีลากยาวเข้าสู่วันอาทิตย์(29มิ.ย.) ถือเป็นการถล่มทางอากาศเล่นงานยูเครนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 3 ปีของสงครามเต็มรูปแบบระหว่างเคียฟกับมอสโก ในแง่ของจำนวนภัยคุกคามที่พุ่งเข้ามา ตามรายงานของนิวส์วีค อ้างอิงความเห็นของนายพลยูรี อิกนัต แห่งกองทัพอากาศยูเครน

เป็นบางครั้งที่ขีปนาวุธและโดรนของรัสเซียที่โจมตีเข้าใส่รัสเซีย พลัดหลุดเข้าสู่ชาติสมาชิกนาโตทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นโปแลนด์หรือโรมาเนีย ที่มีชายแดนติดกับยูเครน ในขณะที่รัฐสมาชิกนาโตมีพันธสัญญาร่วมกันในการตอบโต้การโจมตีเล่นงานรัฐสมาชิกหนึ่งใดอย่างเต็มกำลัง

จนถึงตอนนี้เหตุโดรนและขีปนาวุธล่วงล้ำเข้าสู่น่านฟ้าของนาโต ยังไม่ได้ถูกปฏิบัติในฐานะเป็นการโจมตีพันธมิตรหนึ่งๆ แต่พวกเจ้าหน้าที่โปแลนด์จำเป็นต้องส่งเครื่องบินรบขึ้นสู่ท้องฟ้าซ้ำๆ สืบเนื่องจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของมอสโกเล่นงานยูเครน

เจ้าหน้าที่ในแคว้นลวิวและแคว้นโวลีน ทางตะวันตกของยูเครน ที่มีชายแดนติดกับโปแลนด์ รายงานว่ามีการแจ้งเตือนภัยทางอากาศในค่ำคืนวันเสาร์จนถึงเช้าวันอาทิตย์ แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตใดๆ ส่วนนายกเทศมนตรีเมืองลวิว บอกว่าการโจมตีแคว้นต่างๆทางตะวันตกของประเทศ มีเป้าหมายคือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เผยว่ามีเด็กรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บในเมืองสมิลา ทางภาคกลางของประเทศ พร้อมระบุรัสเซีย "เล็งเป้าเล่นงานทุกๆอย่างที่ค้ำจุนชีวิต" ในขณะที่หน่วยฉุกเฉินเผยว่ามีคนอื่นๆได้รับบาดเจ็บ 5 รายในเมืองเดียวกัน และวิทยาลัยแห่งหนึ่งและอาคารอื่นอีก 3 หลังได้รับความเสียหาย

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในถ้อยแถลงว่าพวกเขา "โจมตีขนานใหญ่ด้วยอาวุธพิสัยไกลที่มีความแม่นยำสูง จากทั้งทางอากาศ ทางทะเลและทางภาคพื้น ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกคินซาล" ส่วนกองทัพอากาศยูเครน ยอมรับว่ารัสเซียิงขีปนาวุธคินซาล 4 ลูก อกมาจากน่านฟ้าเหนือแคว้นตัมบอฟ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของมอสโก

มอสโกอ้างว่าพวกเขาเล็งเป้าเล่นงานโรงงานต่างๆที่ค้ำจุนอุตสาหกรรมทางทหารของยูเครน และโรงกลั่นน้ำมันของประเทศแห่งนี้

เจ้าหน้าที่ยูเครนเผยว่านักบินของเครื่องบิน F-16 ลำหนึ่ง นาวาอากาศโท มัคซิม อุสทิเมนโก เสียชีวิต ระหว่างปฏิบัติภารกิจสกัดกั้นเป้าหมายต่างๆที่พุ่งเข้ามา ขณะที่ เซเลนสกีออกคำสั่งให้สืบสวนอย่างละเอียดต่อการเสียชีวิตของอุสทิเมนโก

เวลานี้ ยูเครน สูญเสียเครื่องบิน F-16 ไปแล้ว 3 ลำ นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการเครื่องบินที่ผลิตโดยสหรัฐฯรุ่นนี้เมื่อปีที่แล้่ว เคียฟไม่เปิดเผยขนาดของฝูงบิน F-16 ของตนเอง แต่มันกลายมาเป็นแก่นกลางและถูกใช้เป็นส่วนสำคัญของระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน

เซเลนสกี เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ร้องขอแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากวอชิงตันและพันธมิตรตะวันตกในการยกระดับการป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน "มอสโกจะไม่หยุดตราบใดที่พวกเขามีศักยภาพโจมตีขนานใหญ่" เขากล่าว พร้อมอ้างว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธราวๆ 114 ลูก โดรน 1,270 ลำ และระเบิดร่อน 1,100 ลูกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

(ที่มา:นิวส์วีค)