ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.) โดยยกเลิกแผนผ่อนคลายคว่ำบาตรให้อิหร่าน แถมยังขู่ว่าจะพิจารณาโจมตีเตหะรานอีกครั้ง หากกลับมาเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในระดับที่น่าเป็นห่วง
ทรัมป์ ตอบโต้อย่างรุนแรงต่อถ้อยแถลงแรกของ คอเมเนอี ภายหลังสงคราม 12 วันระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลสิ้นสุดลงด้วยการที่สหรัฐฯ ทิ้งบอบม์โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
คอเมเนอี กล่าวว่า อิหร่าน "ตบหน้าอเมริกา" ด้วยการโจมตีฐานทัพขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ในกาตาร์ ภายหลังจากที่สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดใส่ฐานที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน แถมยังประกาศด้วยว่า อิหร่านจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน
ด้าน ทรัมป์ กล่าวว่าเขาเป็นคนขอให้ "ไว้ชีวิต" คอเมเนอี ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ก็เคยบอกกับรอยเตอร์เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ว่า ทรัมป์ "วีโต" แผนการของอิสราเอลที่จะสังหารผู้นำสูงสุดอิหร่าน
“ประเทศของเขาถูกทำลายล้าง โรงงานนิวเคลียร์อันชั่วร้ายทั้ง 3 แห่งของเขาถูกทำลายย่อยยับ และผมรู้แน่นอนด้วยว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน เพียงแต่ผมไม่อนุญาตให้อิสราเอลหรือกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งเป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่และทรงอำนาจที่สุดในโลกเข้าไปจบชีวิตของเขา” ทรัมป์ โพสต์บนโซเชียลมีเดีย
“ผมช่วยเขาจากความตายอันน่าอัปยศและน่าเกลียด” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว
ด้านอิหร่านกล่าวว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อสหรัฐฯ หยุดใช้ “สุ้มเสียงที่ไม่เคารพ” ต่อผู้นำสูงสุดอิหร่าน
"หากประธานาธิบดี ทรัมป์ จริงใจที่จะบรรลุข้อตกลง เขาก็ควรละทิ้งน้ำเสียงอันไม่เคารพและไม่อาจยอมรับได้ต่อผู้นำสูงสุดอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ คอเมเนอี และหยุดทำร้ายผู้ติดตามที่จริงใจนับล้านๆ คนของเขา"อับบาส อารักชี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน โพสต์ X เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้ (28)
ทรัมป์ ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงไม่กี่วันมานี้เขาพยายามมองหาทางผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรให้อิหร่าน เพื่อให้อิหร่านมีโอกาสฟื้นตัวโดยเร็ว แต่ตอนนี้เขาเลิกความพยายามดังกล่าวแล้ว
“ผมได้รับถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความโกรธ ความเกลียดชัง และความรังเกียจ ดังนั้นผมจึงหยุดดำเนินการใดๆ ทันทีที่เกี่ยวกับการผ่อนปรนคว่ำบาตร และอื่นๆ” เขากล่าว
ทรัมป์ ระบุในงานแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวด้วยว่า เขาไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะโจมตีอิหร่านอีกครั้ง หลังสื่อตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะทิ้งระเบิดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอีก หากเห็นว่ามีความจำเป็น
“แน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลย” เขากล่าว
ทรัมป์ ยังเรียกร้องให้ผู้ตรวจสอบจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ หรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออื่นๆ สามารถเข้าไปตรวจสอบสถานที่ผลิตนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ หลังจากที่ถูกทิ้งระเบิดเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
ทรัมป์ ยังปฏิเสธมุมมองของผู้เชี่ยวชาญบางคนที่เชื่อว่า ปฏิบัติการของสหรัฐฯ ไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อโครงการนิวเคลียร์อิหร่านอย่างที่ ทรัมป์ อวดอ้าง
ที่มา: รอยเตอร์