xs
xsm
sm
md
lg

ชักจะยังไง! 'ผู้นำญี่ปุ่น' แท็กทีมหลายชาติในอินโดแปซิฟิก ‘เท’ ประชุมซัมมิต ‘นาโต’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันวานนี้ (23 มิ.ย.) ว่า นายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ ตัดสินใจยกเลิกแผนการเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่กรุงเฮก เช่นเดียวกับผู้นำอีกหลายประเทศในอินโดแปซิฟิกที่ประกาศจะไม่เข้าร่วมเช่นกัน ในความเคลื่อนไหวที่ก่อประเด็นคำถามเกี่ยวกับความร่วมมือในอนาคตระหว่างนาโตกับชาติพันธมิตรในแถบนี้

กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นออกมาประกาศยกเลิกแผนการเดินทางของ อิชิบะ ระหว่างวันที่ 24-26 มิ.ย. เพียง 3 วันหลังจากที่ผู้นำญี่ปุ่นยืนยันจะเข้าร่วม “เพื่อเน้นย้ำจุดยืนต่อนาโตและชาติอื่นๆ ว่า การรับรองความมั่นคงยูโร-แอตแลนติกและอินโด-แปซิฟิกคือสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้”

ท่าทีล่าสุดของญี่ปุ่นเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ตัดสินใจนำสหรัฐฯ เข้าร่วมกับอิสราเอลในการโจมตีโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน และยังพูดเปรยถึงการโค่นล้มระบอบการปกครองในเตหะรานด้วย

กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นชี้แจงว่า “มีสถานการณ์หลายอย่าง” ที่ทำให้นายกฯ ตัดสินใจไม่เข้าร่วมประชุมนาโตในครั้งนี้ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการยกเลิกแผนเดินทางของผู้นำญี่ปุ่น ส่วนทำเนียบขาวก็ยังไม่ตอบคำถามสื่อเช่นกัน

สถานีโทรทัศน์ Fuji Television รายงานว่า อิชิบะ ถอนตัวจากการประชุมเนื่องจากการหารือระหว่างนาโตกับกลุ่ม 4 ชาติอินโดแปซิฟิก (IP4) น่าจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ อีกทั้งน่าจะไม่มีโอกาสได้ประชุมร่วมกับ ทรัมป์ ด้วย

เกาหลีใต้และออสเตรเลียซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในกลุ่ม IP4 เช่นเดียวกับญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์ ก็ประกาศว่าผู้นำของตนจะไม่ไปร่วมประชุมนาโตเช่นเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า ทรัมป์ ต้องการที่จะประชุมซัมมิตร่วมกับบรรดาผู้นำกลุ่ม IP4

ทั้งนี้ ทาเคชิ อิวายะ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น จะเดินทางไปเนเธอร์แลนด์เพื่อเข้าร่วมการประชุมที่เกี่ยวเนื่องกับภารกิจของนาโต และการประชุมทวิภาคีอื่นๆ

ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเดินทางไปร่วมประชุมซัมมิตนาโตทุกครั้งมาตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งเป็นปีที่ญี่ปุ่นได้รับเชิญครั้งแรก หลังรัสเซียก่อสงครามรุกรานยูเครน

อดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เคยพยายามผลักดันให้พันธมิตรยุโรปให้ความสำคัญกับภัยคุกคามในอินโดแปซิฟิก โดยเฉพาะจากจีน และยังเรียกร้องให้ชาติในอินโดแปซิฟิกร่วมสนับสนุนยูเครนด้วย ทว่าเมื่อ ทรัมป์ กลับขึ้นครองอำนาจอีกครั้ง สหรัฐฯ ก็เริ่มเปลี่ยนนโยบายให้ชาติพันธมิตรจ่ายเงินปกป้องตัวเองกันมากขึ้น

คริสโตเฟอร์ จอห์นสโตน อดีตเจ้าหน้าที่ในรัฐบาล ไบเดน ซึ่งปัจจุบันทำงานกับบริษัทที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ Asia Group มองว่า การขาดประชุมของผู้นำออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นสัญญาณเตือนว่า สายสัมพันธ์ด้านความมั่นคงระหว่างยุโรปกับอินโดแปซิฟิกเริ่มที่จะ “ขาด” จากกันในเชิงสัญลักษณ์ --- อย่างน้อยก็ในเวลานี้

“ถึงแม้จะดูเหมือนว่า สาเหตุผิวเผินมาจากการที่ อิชิบะ ไม่สามารถขอประชุมร่วมกับ ทรัมป์ ได้ แต่ก็เป็นไปได้เช่นกันว่า ผู้นำทั้ง 3 ประเทศมองเห็นประโยชน์เพียงเล็กน้อยในการเข้าร่วมประชุม ในขณะที่สหรัฐฯ จ้องจะบีบให้ชาติพันธมิตรต้องจ่ายงบกลาโหมเพิ่มขึ้น” เขากล่าว

สัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า ญี่ปุ่นตัดสินใจขอเลื่อนการประชุมระดับสูงกับสหรัฐฯ ออกไป หลังจากที่วอชิงตันร้องขอให้โตเกียวใช้จ่ายงบทางทหารเพิ่มเป็น 3.5% ของ GDP จากเดิมที่ตั้งเงื่อนไขเอาไว้เพียง 3%

ระหว่างการประชุมนาโตสัปดาห์นี้ คาดกันว่า ทรัมป์ จะเดินหน้ากดดันให้พันธมิตรยุโรปใช้จ่ายงบด้านการทหารให้ถึง 5% ของ GDP ขณะที่หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานเมื่อวันเสาร์ (21) ว่า ทรัมป์ มีเป้าหมายที่จะเรียกร้องให้พันธมิตรในเอเชีย รวมถึงญี่ปุ่น ต้องบรรลุเป้าหมายเดียวกันนี้ด้วย

ที่มา: รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น