จนท.มะกันแฉ! DeepSeek ช่วยเหลือ 'กองทัพจีน' แถมหลบเลี่ยงมาตรการห้ามส่งออกชิปของสหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เผย บริษัทเอไอ DeepSeek ให้ความช่วยเหลือด้านปฏิบัติการทางทหารและข่าวกรองของจีน และยังพยายามใช้ "บริษัทเปลือก" ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ระดับไฮเอนด์ที่ไม่สามารถจัดส่งมายังจีนได้ภายใต้มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ

ข้อสรุปของสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มมากขึ้นในวอชิงตันว่า ศักยภาพเบื้องหลังการเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัทเอไอจีนแห่งนี้อาจเป็นการอวดอ้างเกินจริง และแท้ที่จริงกลับต้องพึ่งพาเทคโนโลยีของสหรัฐฯ อย่างมาก

DeepSeek ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองหางโจว สร้างความตกตะลึงไปทั่วแวดวงเทคโนโลยีในเดือน ม.ค. หลังออกมาประกาศว่า โมเดลการใช้เหตุผลแบบเอไอของตนนั้นเท่าเทียมหรือดีกว่าโมเดลชั้นนำของอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ ขณะที่ใช้ต้นทุนเพียงเศษเสี้ยวเดียว

“เราเข้าใจว่า DeepSeek เต็มใจให้การสนับสนุน และน่าจะยังคงให้การสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารและข่าวกรองของจีนต่อไป” เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ คนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์

ในบรรดาข้อกล่าวหาทั้งหมด เจ้าหน้าที่ผู้นี้อ้างว่า DeepSeek กำลังแบ่งปันข้อมูลและสถิติของผู้ใช้งานให้กับหน่วยสอดแนมของปักกิ่ง ขณะที่ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ 3 รายของสหรัฐฯ ได้แก่ Amazon, Microsoft และ Google ของค่าย Alphabet ต่างก็เสนอบริการ DeepSeek ให้กับลูกค้า

กฎหมายจีนกำหนดให้บริษัทที่ดำเนินธุรกิจในจีนต้องให้ข้อมูลแก่รัฐบาลเมื่อได้รับการร้องขอ แต่ข้อครหาที่ว่า DeepSeek ทำเช่นนี้อยู่แล้วมีแนวโน้มที่จะกระพือคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและข้อกังวลอื่นๆ สำหรับผู้ใช้หลายสิบล้านคนทั่วโลก นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังคงมีมาตรการจำกัดต่อบริษัทที่เชื่อว่าเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมทางทหารของจีนด้วย

ก่อนหน้านี้ สมาชิกสภาคองเกรสหลายคนเคยกล่าวไว้ว่า DeepSeek ส่งข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันไปยังจีนผ่าน "โครงสร้างพื้นฐานประตูหลัง" ที่เชื่อมต่อกับ China Mobile ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลจีน

ล่าสุด DeepSeek ยังคงไม่ตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัว

DeepSeek ยังถูกอ้างอิงมากกว่า 150 ครั้งในบันทึกการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของจีน แถมยังให้บริการด้านเทคโนโลยีแก่สถาบันวิจัยต่างๆ ของ PLA ด้วย ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งรอยเตอร์ยังไม่สามารถตรวจสอบยืนยันได้

เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังอ้างอีกว่า DeepSeek ใช้วิธีหลบเลี่ยงมาตรการควบคุมส่งออกของสหรัฐฯ เพื่อเข้าถึงชิปขั้นสูงที่ผลิตในอเมริกา

ปัจจุบัน DeepSeek ยังคงสามารถเข้าถึงชิป H100 ระดับไฮเอนด์ ของบริษัท Nvidia ของสหรัฐฯ ได้ "ในปริมาณมาก" ทั้งที่ชิปเหล่านี้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯมาตั้งแต่ปี 2022 เนื่องจากวอชิงตันกังวลว่าจีนอาจใช้ชิปเหล่านี้เพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร หรือก้าวแซงสหรัฐฯ ในด้านเอไอ

“DeepSeek ใช้บริษัทเปลือกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการควบคุมการส่งออก และพยายามใช้ศูนย์ข้อมูลต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเข้าถึงชิปของสหรัฐฯ จากระยะไกล” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวอ้าง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อเมริกันรายนี้ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่า DeepSeek หลบเลี่ยงมาตรการควบคุมการส่งออกสำเร็จหรือไม่ และไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทเปลือกที่อ้างว่ามีอยู่

เมื่อถูกถามว่าสหรัฐฯ จะยกระดับควบคุมการส่งออกหรือคว่ำบาตร DeepSeek เพิ่มเติมหรือไม่ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวตอบว่า “เวลานี้กระทรวงฯ ยังไม่มีอะไรจะประกาศ”

ด้าน DeepSeek เองยังไม่ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับการเข้าถึงชิปของ Nvidia หรือการใช้บริษัทเปลือกตามที่ถูกกล่าวหา

DeepSeek ระบุว่า โมเดลเอไอ 2 ตัวที่พวกผู้บริหารใน ซิลิคอนแวลลีย์และวิศวกรของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาต่างยกย่องอย่างล้นหลาม ซึ่งได้แก่ DeepSeek-V3 และ DeepSeek-R1 นั้น สามารถเทียบเคียงได้กับโมเดลที่ก้าวหน้าที่สุดของ OpenAI และ Meta

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอยังแสดงความกังขา โดยเชื่อว่าต้นทุนที่แท้จริงในการฝึกโมเดลเอไอนั้นน่าจะสูงกว่าตัวเลข 5.58 ล้านดอลลาร์ที่ DeepSeek อ้างว่าใช้ไปกับพลังการประมวลผล

รอยเตอร์เคยรายงานก่อนหน้านี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กำลังสืบสวนว่า DeepSeek มีการเข้าถึงชิปเอไอที่ถูกจำกัดการส่งออกหรือไม่

ที่มา: รอยเตอร์