เพ็ญ โบนา (Pen Bona) รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะโฆษกรัฐบาลกัมพูชา ใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าว ในเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนในปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย พร้อมระบุมาตรการตอบโต้ของรัฐบาล ในนั้นรวมถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดที่ระงับนำเข้าน้ำมันและก๊าซ กำลังก่อความเจ็บปวดใหญ่หลวงแก่ไทย
ในข้อความที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ นายเพ็ญ เน้นย้ำว่า "นับตั้งแต่ความตึงเครียดด้านชายแดนเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ไทย ซึ่งทหารมีอำนาจเหนือนายกรัฐมนตรี มักใช้การข่มขู่ต่างๆนานาและกดดันกัมพูชา"
"ลำดับแรกเลย ทหารไทยตัดสินใจปิดชายแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว จากนั้นก็ขู่ตัดไฟ ขู่ตัดอินเตอร์เน็ต ขู่ยกเลิกนำเข้าสินค้า และท้ายที่สุด พวกเขาขู่หยุดส่งออกเชื้อเพลิงมายังกัมพูชา อวดอ้างว่ากัมพูชาจะทนทุกข์ทรมานจากมาตรการเหล่านี้" เขากล่าว
โฆษกรายนี้ระบุต่อว่า "นี่คือทัศนคติเฉยเมนที่มีต่อกัมพูชา ที่มีต้นตอมาจากกองทัพไทยและนักการเมืองบางส่วน ในนั้นรวมถึงกลุ่มหัวรุนแรง ยึดติดอยู่กับยะโสของตนเอง ไม่ได้ศึกษากัมพูชาให้ชัดเจน ทำให้พวกเขาดำเนินการโดยปราศจากความเข้าใจต่อสถานการณ์"
"พวกเขารู้สึกว่ากัมพูชายังอยู่ในสถานการณ์เดียวกับช่วงทศวรรษ 1980 ใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยลมหายใจของไทย เพราะฉะนั้นพวกเขาคิดว่า ถ้าไทยออกแรงกดดันแต่เพียงเล็กน้อยใส่กัมภูชา พวกเราจะเจอกับความยากลำบากและยอมอ่อนข้อให้พวกเขา" โฆษกระบุ
"แต่ด้วยมาตรการตอบโต้ต่อเนื่องของกัมพูชา ในนั้นรวมถึงระงับนำเข้าน้ำมันและก๊าซโดยสิ้นเชิงจากไทย กองทัพไทยและรัฐบาลไทยเริ่มตาสว่างแล้ว ในข้อเท็จจริงคือ กัมพูชาไม่ใช่แค่ไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันและไม่ยอมแพ้ แต่ขณะเดียวกันกัมพูชายังใช้มาตรการตอบโต้ก่อนหน้าไทยจะลงมือเสียอีก" โฆษกรัฐบาลกัมพูชากล่าว
โฆษกระบุต่อไปว่า "ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา เน้นย้ำว่ากัมพูชาไม่ได้เป็นผู้ยั่วยุ แต่สามารถรับมือกับไทยได้ในทุกหนทาง สถานการณ์นี้กำลังก่อความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสกับไทย และพวกเขาอยู่ในสถานะทางตันและอับอาย"
"พวกเขาอยากหันหลังกลับ แต่ด้วยความจองหอง ไทยจำเป็นต้องหาข้อแก้ตัวบางอย่าง เพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชาต้องการเจรจาเปิดจุดผ่านแดนให้กลับปฏิบัติการตามปกติ นี่คือเหตุผลว่าทำไมนายกรัฐมนตรีของไทยถึงต่อสายพูดคุยกับสมเด็จเตโชฮุเซนอย่างลับๆและพยายามใช้บรรยากาศแห่งความเป็นมิตรโน้มน้าวขอเจรจา แต่กลยุทธ์นี้ไม่อาจล่อลวงนักการเมืองระดับขรัวเฒ่าที่มีประสบการณ์มากกมายอย่างเช่นสมเด็จเตโชฮุนเซน"
"เวลานี้ไทยอยู่ในสถานะวิกฤตอย่างรุนแรง พวกเขาอยากถอย แต่ทำไม่ได้เพราะความจองหอง แต่ถ้ามันเป็นเช่นนี้ต่อไป ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจะมากขึ้น ประชาชนจะไม่พอใจมากขึ้น การเมืองภายในประเทศจะยุ่งเหยิงกว่าเดิม กัมพูชา ไม่ได้ยั่วยุและต้องการสันติภาพ แต่กัมพูชาจะไม่ยอมให้ไทยมองข้ามอีกต่อไป ในทางกลับกัน กัมพูชาในยุคของฮุน มาเน็ตและ ฮุนเซน สามารถทำลายความหยิ่งยะโสของไทย ถ้าไทยกล้าดูหมิ่นกัมพูชา" โฆษกระบุ
(ที่มา:ขแมร์ไทม์ส)