สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กเตือนกรณีฝ่ายค้านไทยเสนอให้หยุดขายน้ำมันให้กัมพูชา โดยเตือนว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบย้อนกลับไปทำลายเศรษฐกิจไทยเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบริษัทน้ำมัน ปตท.
อดีตนายกฯ กัมพูชาได้โพสต์ถ้อยแถลงผ่านบัญชีเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของเขาเมื่อค่ำวันศุกร์ (20 มิ.ย.) ว่า ข้อเสนอของฝ่ายค้านไทย "เป็นเกมอันตรายที่นำไปสู่การทำลายตัวเอง" พร้อมย้ำว่าฝ่ายกัมพูชาจะไม่คุกเข่ายอมจำนนให้อย่างแน่นอน
"เราจะไม่ล่มสลาย เพียงเพราะนำเข้าน้ำมันจากไทยไม่ได้หรอก" เขากล่าว
"ในทางตรงข้าม บางทีบริษัท ปตท.ของไทยเองต่างหากที่จะได้รับผลกระทบ คุณอยากจะเห็น ปตท.ของไทยพังจริงๆ ใช่ไหม? งั้นก็เอาเลย ทำตามแผนที่พวกคุณว่าได้เลย"
ฮุน เซน ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชามานานเกือบ 40 ปีก่อนที่จะย้ายไปเป็นประธานวุฒิสภา กล่าวว่า กัมพูชามีการเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้วเพื่อที่จะรับแรงกดดันจากหลายภาคส่วน รวมไปถึงคำขู่ครั้งก่อนๆ จากฝ่ายไทยที่ว่าจะตัดอินเทอร์เนต ตัดไฟฟ้า และไล่แรงงานกัมพูชากลับประเทศ
ฮุน เซน ยังชี้ถึงความตึงเครียดในอดีตที่เกี่ยวข้องกับแรงงานกัมพูชาในไทย โดยกล่าวหาทางการไทยว่าปฏิบัติไม่ดีและมีการเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชา
"พวกคุณใช้แรงงานของเราเป็นตัวประกันและข่มขู่เราต่างๆ นานา" ฮุน เซน ระบุ "แต่พอตอนนี้เราประกาศว่า เราพร้อมที่จะรับแรงงานของเรากลับ ท่าทีของพวกคุณก็เปลี่ยนเลย ทำไมน่ะเหรอ? ก็ถ้าแรงงานกัมพูชาออกจากโรงงาน ฟาร์ม บริษัท และไซต์ก่อสร้างของพวกคุณหมด ภาคธุรกิจหลายแห่งก็ต้องปิดตัวลงแน่เพราะขาดแรงงาน"
"ถ้าพวกคุณกล้าจริงก็เอาเลย ไล่แรงงานกัมพูชากลับมาเลย แล้วดูซิว่าเศรษฐกิจของไทยจะเป็นยังไง"
"เรื่องน้ำมันก็เหมือนกัน แต่คุณควรไปปรึกษา ปตท.ก่อนนะ บริษัทอาจจะล่มสลายได้เลยทีเดียว เนื่องจากพวกเขามีสถานีน้ำมันอยู่หลายแห่งในกัมพูชา"
ฮุน เซน ยังถือโอกาสนี้เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชามีมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อลดการพึ่งพาสินค้านำเข้าจากไทย หากว่าการข่มขู่ยังดำเนินต่อไป
"ในฐานะหัวหน้าพรรครัฐบาล ผมขอแนะนำให้รัฐบาลกัมพูชาพิจารณาอย่างจริงจังในการนำเข้าสินค้าจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่ไทย เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่สามารถอ้างเหตุในการข่มขู่เราอีกต่อไป"
ฮุน เซน ยังกล่าวด้วยว่า หากปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชายังคงยืดเยื้อต่อไป กัมพูชาควรที่จะหยุดนำเข้าอาหารกระป๋องทั้งหมดจากไทย รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มชูกำลัง ปลากระป๋อง และเนื้อสัตว์บรรจุกระป๋อง โดยหันมาบริโภคสินค้าที่กัมพูชาผลิตเองในประเทศ หรือนำเข้าจากประเทศอื่นๆ
"ชาวกัมพูชาจะต้องมองให้ไกลออกไปกว่าเส้นพรมแดน และมองให้ไกลกว่าปี 2030" ฮุน เซน กล่าวสรุป โดยอ้างถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวที่จะทำให้กัมพูชามีความยืดหยุ่นและพึ่งพาตนเองในทางเศรษฐกิจได้
ที่มา: Khmer Times