ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวในวันศุกร์ (20 มิ.ย.) ว่า ชาวรัสเซียและชาวยูเครนก็คือประชากรกลุ่มเดียวกัน ดังนั้นหากมองในมุมดังกล่าว "เท่ากับว่ายูเครนทั้งหมดก็เป็นของรัสเซียด้วย" พร้อมกันนั้นก็ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่กองทัพหมีขาวจะบุกยึดเมืองซูมี (Sumy) โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนสร้างเขตกันชน (buffer zone) ระหว่างรัสเซียและยูเครน
ระหว่างกล่าวปาฐกถาในเวทีประชุมด้านเศรษฐกิจที่นครเซนต์ปีเตอน์สเบิร์ก ปูตืน ยืนยันว่ารัสเซียไม่เคยสงสัยในเรื่องอำนาจอธิปไตยของยูเครน แต่ก็ย้ำว่าตอนที่ยูเครนประกาศเอกราชในปี 1991 นั้น พวกเขาประกาศจุดยืน "เป็นกลาง" (neutral state)
ผู้นำหมีขาวซึ่งอ้างว่าจำเป็นต้องเปิดศึกรุกรานยูเครนเพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของรัสเซียเอง ยังได้ตอบคำถามเกี่ยวกับเป้าหมายต่างๆ ในสงครามครั้งนี้
"เรามีสำนวนหรือสุภาษิตที่ว่า ทหารรัสเซียย่างกรายไปถึงที่ใด ที่นั้นก็คือดินแดนของเรา" ปูติน กล่าว
เคียฟและบรรดาชาติตะวันตกปฏิเสธไม่ยอมรับเรื่องที่รัสเซียผนวกดินแดนไครเมียและ 4 แคว้นของยูเครน โดยถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขณะที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนก็ออกมาปฏิเสธย้ำหลายครั้งต่อแนวคิดที่ว่า ชาวรัสเซียและชาวยูเครนเป็นประชากรกลุ่มเดียวกัน
ปูติน กล่าวว่า กองกำลังรัสเซียกำลังสร้าง "พื้นที่กันชน" ในแคว้นซูมีของยูเครนเพื่อปกป้องดินแดนรัสเซีย และตนไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ทหารเหล่านั้นจะเข้ายึดเมืองซูมีซึ่งเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคดังกล่าว
เขาเผยว่า เวลานี้กองกำลังรัสเซียสามารถควบคุมพื้นที่ลึกเข้าไปในแคว้นซูมีประมาณ 8-12 กิโลเมตร
"ต่อไปก็คือเมืองซูมีซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค เราไม่ได้มีภารกิจที่จะยึดมัน ทว่าโดยหลักการแล้วผมก็ไม่อาจปฏิเสธความเป็นไปได้"
ปัจจุบันดินแดนยูเครนราวๆ 1 ใน 5 ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย ซึ่งได้แก่ คาบสมุทรไครเมีย, มากกว่า 99% ของแคว้นลูฮันสก์, มากกว่า 70% ของแคว้นโดเนตสก์, ซาปอริซเซีย, เคียร์ซอน รวมไปถึงบางส่วนของคาร์คิฟ ซูมี และดนีโปรเปตรอฟสก์
ที่มา: รอยเตอร์