ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำลังพิจารณานำพาอเมริกาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ตามรายงานของ Axios เว็บไซต์ข่าวสัญชาติอเมริกา อย่างไรก็ตามล่าสุดเจ้าตัวยังคงส่งสารคลุมเครือ และบอกว่ายังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะร่วมวงกับรัฐยิวโจมตีเล่นงานเตหะรานหรือไม่
แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า อเมริกาไม่มีส่วนร่วมในการโจมตีของอิสราเอล ทว่า การที่เขารีบร้อนทิ้งที่ประชุมซัมมิตจี7 ในแคนาดาและบินกลับวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ (16 มิ.ย.) และประชุมร่วมกับคณะทำงานด้านความมั่นคงแห่งชาติในวันอังคาร(17มิ.ย.) ได้จุดกระแสการคาดเดาว่า เขากำลังตัดสินใจที่จะนำอเมริกาเข้าแทรกแซงการสู้รบขัดแย้งคราวนี้ ด้วยการประกาศเข้าข้างอิสราเอลอย่างเปิดเผย
ทรัมป์ ยกย่องยุทธการทิ้งบอมบ์ของอิสราเอลที่เล็งเป้าเล่นงานที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมใดๆในปฏิบัติการจู่โจม "ทรัมป์กำลังพิจารณาอย่างจริงจันในการเข้าร่วมสงครามและเปิดฉากการโจมตีของสหรัฐฯเล่นงานที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยเฉพาะโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมใต้ดินในฟาร์โดว์" เว็บไซต์ Axios ระบุ พร้อมอ้างพวกเจ้าหน้าที่อิสราเอลเชื่อว่าสหรัฐฯ "จะเข้าสู่สงครามในอีกไม่กี่วันข้างหน้า"
รายงานของ Axios ระบุว่ากองกำลังสหรัฐฯที่ประจำการในภูมิภาคมีระเบิดเจาะบังเกอร์ที่อิสราเอลไม่มี ซึ่งมันสามารถใช้ทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่านที่ฟาร์โดว์
อ้างอิงข้อมูลของ ราฟาเอล กอสซี ผู้อำนวยการทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าโรงงานนิวเคลียร์แห่งนี้ ที่อยู่ลึกภายในภูเขาลูกหนึ่ง ได้รับความเสียหาย
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าการประชุมด้านความมั่นคงในวันอังคาร(17มิ.ย.) ทรัมป์ โพสต์ข้อความเป็นชุดๆบนทรัสต์โซเชียล อ้างว่าเวลานี้สหรัฐฯไม่มีสิ่งกีดขวางหลักๆในน่านฟ้าของอิหร่านอีกแล้ว และอวดอ้างว่าเขาสามารถลอบสังหารผู้นำสูงสุดของอิหร่านได้อย่างง่ายดาย และเรียกร้องให้เตหะรานยอมจำนน
อย่างไรก็ตามในวันพุธ(18มิ.ย.) ทรัมป์ เผยว่าเขายังคงอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมอิสราเอลในปฏิบัติการโจมตีอิหร่าหรือไม่ พร้อมอ้างว่าตอนนี้ เตหะราน ต้องการพูดคุยที่ทำเนียบขาว แต่บางทีเขาอาจรอได้ไม่นานนัก
ทรัมป์ บอกเพิ่มเติมว่าเขาจะประชุมกับทีมงานด้านความมั่นคงแห่งชาติเป็นวันที่ 2 ซึ่งทำให้โลกอยู่ในความสงสัยว่าเขาจะออกคำสั่งปฏิบัติการทางทหารหรือไม่ "ผมอาจทำ ผมอาจไม่ทำ ผมหมายถึง ไม่มีใครรู้ว่าผมจะทำอะไร" ผู้นำสหรัฐฯบอกกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว "ที่ผมสามารถบอกคุณได้ก็คือ อิหร่านเจอปัญหามากมาย และพวกเขาต้องการเจรจา" พร้อมบอกต่อว่าสัปดาห์หน้าจะมีความสำคัญมาก เพราะมันจะตัดสินชะตากรรมของอิหร่าน
ความเห็นของทรัมป์ มีขึ้นหลังจาก อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ปฏิเสธเสียงเรียกร้องของผู้นำสหรัฐฯ ที่ขอให้ยอมจำนนแบบไม่มีเงื่อนไข และเตือนว่าสหรัฐฯจะพบกับความเสียหายที่ยากเกินเยียวยา หากเข้าแทรกแซง
ดูเหมือน ทรัมป์ จะไม่เร่งรีบหาข้อสรุปในการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในฐานะประธานาธิบดี นอกจากนี้แล้วเขายังส่งสารที่ผสมผสานถึงผู้นำอิหร่าน
หนึ่งวันก่อนหน้านี้ ทรัมป์ บอกว่าอเมริการู้ที่กบดานของ คอเมเนอี และสามารถลอบสังหารได้อย่างง่ายดาย พร้อมระบุการเปลี่ยนแปลงผู้นำในเตหะรานอาจเกิดขึ้น นอกจากนี้แล้วเขายังบ่งชี้ว่าตนเองกำลังหมดความอดทนกับอิหร่าน เน้นย้ำเสียงเรียกร้องให้ยอมแพ้
อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกัน ทรัมป์ อ้างว่าอิหร่านติดต่อมาหา ในความพยายามบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ เพื่อยุติความขัดแย้งกับอิสราเอล พันธมิตรของสหรัฐฯ "พวกเขาต้องการมาทำเนียบขาว ผมอาจทำมัน" ทรัมป์กล่าว อย่างไรก็ตาามบอกว่า "มันสายมากแล้วสำหรับการเจรจา มีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างเวลานี้กับเมื่อราวๆ 1 สัปดาห์ก่อน"
ทว่าไม่นานหลังจากนั้น อิหร่าน ออกมาปฏิเสธว่า พวกเขาไม่ได้เสนอส่งพวกเจ้าหน้าที่ไปยังวอชิงตันแต่อย่างใด "ไม่มีเจ้าหน้าที่อิหร่านคนใดถูกขอให้ไปเกลือกกลั้วตรงประตูรั้วของทำเนียบขาว" คณะผู้แทนของอิหร่านประจำสหประชาชาติโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
(อาร์ทีนิวส์/รอยเตอร์)