เซเลนสกี้ได้แค่ความช่วยเหลือใหม่ก้อนหนึ่งจากแคนาดาติดตัวกลับบ้าน แต่พลาดโอกาสเจอทรัมป์เพื่อขอการสนับสนุนเพิ่ม มิหนำซ้ำแถลงการณ์จี7 ยังงดประณามการรุกรานของรัสเซีย หลังผู้นำสหรัฐฯ หนุนหลังปูตินออกนอกหน้า
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของแคนาดา ซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกลุ่มจี7 ที่จัดขึ้นในวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา (16-17 มิ.ย.) เผยว่า ออตตาวายกเลิกคำแถลงเกี่ยวกับสงครามในยูเครนหลังถูกอเมริกาคัดค้าน
ทว่า ในเวลาต่อมา เอมิลี วิลเลียมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ของนายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ของแคนาดา ยืนยันว่า ไม่มีการเตรียมการจัดทำคำแถลงเกี่ยวกับสงครามยูเครนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ คาร์นีย์เปิดการประชุมในวันอังคารด้วยการประกาศว่า แคนาดาจะให้ความช่วยเหลือทางทหารครั้งใหม่แก่ยูเครนมูลค่า 1,470 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งออกมาตรการแซงก์ชันทางการเงินใหม่กับรัสเซีย
ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ซึ่งพลาดโอกาสในการได้พบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในที่ประชุมจี 7 เนื่องจากผู้นำสหรัฐฯ เดินทางกลับก่อนกำหนดหนึ่งวันนั้น โพสต์บนเทเลแกรมว่า ตนได้บอกกับผู้นำจี7 ว่า กระบวนการทางการทูตอยู่ในขั้นวิกฤต และเสริมว่า ยูเครนจำเป็นต้องเรียกร้องต่อไปเพื่อให้ทรัมป์ใช้อิทธิพลที่แท้จริงบีบให้สงครามในยูเครนยุติลง รวมทั้งจัดหาอาวุธให้เคียฟเพิ่ม
ภายหลังสิ้นสุดการประชุมสุดยอด คาร์นีย์ออกแถลงการณ์ในฐานะประธานการประชุมระบุว่า ผู้นำจี7 สนับสนุนความพยายามของทรัมป์ในการสร้างสันติภาพที่ยุติธรรมและยืนยาวในยูเครน รวมทั้งตระหนักว่า ยูเครนยอมรับข้อตกลงหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งรัสเซียต้องยอมรับเช่นเดียวกัน และปิดท้ายว่า จี7 จะศึกษาทางเลือกทั้งหมดเพื่อเพิ่มความกดดันต่อรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการแซงก์ชันทางการเงิน
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์นี้ไม่ได้ประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซียตั้งแต่ปี 2023 จนถึงปัจจุบัน
เจ้าหน้าที่ยุโรปคนหนึ่งเผยว่า ผู้นำจี7 ย้ำแผนการเพิ่มความกดดันรัสเซีย ซึ่งทรัมป์เห็นด้วย ยกเว้นการใช้มาตรการแซงก์ชัน
ขณะที่นักการทูตยุโรป 3 คนบอกว่า ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า ต้องการเพิ่มความกดดันกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และกำลังพิจารณาร่างกฎหมายของวุฒิสมาชิกลินด์ซีย์ เกรแฮม แต่ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ
นอกจากนั้นผู้นำจี7 ยังออกแถลงการณ์อีกฉบับเกี่ยวกับการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐาน ปัญญาประดิษฐ์ แร่ธาตุสำคัญ ไฟป่า การปราบปรามข้ามชาติ และควอนตัมคอมพิวติ้ง รวมถึงแถลงการณ์ที่ออกเมื่อวันจันทร์ที่ประกาศสนับสนุนอิสราเอล และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติความขัดแย้ง
ทางด้านทรัมป์เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า จำเป็นต้องเดินทางกลับวอชิงตันโดยเร็วที่สุดเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน
ต่อมาในวันอังคาร เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวแถลงว่า สาเหตุที่ทรัมป์บินกลับอเมริกาก่อนกำหนดคือเพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสภาความมั่นคงแห่งชาติแทนการประชุมทางโทรศัพท์
อนึ่ง หลังจากเดินทางถึงแคนาดา ทรัมป์ยืนกรานว่า จี8 ตัดสินใจผิดที่ขับรัสเซียออกจากกลุ่ม หลังจากปูตินเข้าผนวกไครเมียในปี 2014
เครมลินรับลูกทันควันว่า ทรัมป์พูดถูก และสำทับว่า จี7 ไร้ประโยชน์และไม่สำคัญสำหรับรัสเซียอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน ผู้นำหลายประเทศหวังว่า จะได้เจรจาข้อตกลงทางการค้ากับทรัมป์ ทว่า ระหว่างซัมมิตจี7 มีการลงนามข้อตกลงการค้าเพียงฉบับเดียวคือระหว่างอเมริกากับอังกฤษที่ประกาศออกมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว แม้ว่าหลังจากทรัมป์เดินทางกลับ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง ตลอดจนถึงเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และเควิน แฮสเส็ตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ จะยังคงอยู่ที่ประชุมจี 7 ต่อเพื่อหารือข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับชาติต่างๆ ก็ตาม
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)