ราคาน้ำมันขยับขึ้นกว่า 4% ในวันอังคาร(17มิ.ย.) หลังความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลยังไม่มีท่าทียุติลง ปัจจัยนี้ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบ ส่วนทองคำปรับลด ท่ามกลางการแข็งค่าของดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฏาคม เพิ่มขึ้น 3.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 3.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แม้ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านยังไม่ก่อปัญหาติดขัดใดๆในกระแสน้ำมัน แต่มีรายงานว่าอิหร่าน จำเป็นต้องระงับปฏิบัติการผลิตก๊าซธรมชาติ ณ บ่อก๊าซเซาต์พาร์ส ที่ดำเนินการร่วมกับกาตาร์ หลังจากปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอล ก่อให้เกิดไฟลุกไหม้เมื่อวันเสาร์(14มิ.ย.) นอกจากนี้แล้ว อิสราเอล ยังโจมตีคลัง้ำมันชาห์รานในอิหร่านด้วย
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในแดนลบในวันอังคาร(17มิ.ย.) หลังความขัดแย้งอิสราเอลและอิหร่านยังคงลากยาวเข้าสู่วันที่ 5 ในขณะที่นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นอีก จากการที่กองทัพอเมริกาเคลื่อนฝูงบินรบเข้าไปยังตะวันออกกลาง
ดาวโจนส์ ลดลง 299.29 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 42,215.80 เอสแอนด์พี ลดลง 50.39 จุด (0.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,982.72 จุด แนสแดค ลดลง 180.12 จุด (0.91 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,521.09 จุด
รอยเตอร์รายงานอ้างพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่ากองทัพอเมริกากำลังส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปยังตะวันออกกลางเพิ่มเติม และยกระดับประจำการเครื่องบินรบอื่นๆด้วย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้อิหร่าน "ยอมจำนนแบบไม่มีเงื่อนไข" หลังจากสงครามเริ่มต้นเมื่อวันศุกร์(13มิ.ย.) ด้วยการที่อิสราเอลโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน
อย่างไรก็ตามแม้มีความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์ แต่ราคาทองคำขยับลงในวันอังคาร(17มิ.ย.) หลังถูกฉุดจากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 10.40 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 3,406.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)