เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – สถานทูตไทยประจำอิหร่านออกหนังสือสั่งการเรียกอพยพประชาชนไทยออกนอกกรุงเตหะรานด่วนชี้ ไม่ปลอดภัยสูง ส่วนประชาชนอิหร่านคืนวันจันทร์(16 มิ.ย) ในกรุงสุดอลหม่านหนีจ้าละหวั่น รวมนักศึกษาจากอินเดีย บางส่วนหนีเข้าอาร์มีเนีย หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เตือนดุทุกคนให้รีบอพยพ ก่อนออกจากการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G-7 ที่แคนาดาเร็วก่อนกำหนดโดยไม่เปิดเผย
ไทม์สออฟอิสราเอลของรายงานวันนี้(17 มิ.ย)ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความแตกตื่นในอิหร่านคืนวันจันทร์(16)จากคำเตือนให้ทุกคนรีบหนีออกไปจากกรุงเตหะราน อ้างเหตุที่อิหร่านไม่รับข้อตกลงจำกัดนิวเคลียร์อิหร่านของสหรัฐฯท่ามกลางการสาดขีปนาวุธระหว่างกันไปมาระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน
ทรัมป์โพสต์บนโซเชียลมีเดียมีใจความว่า “ อิหร่านสมควรลงนามใน ‘ข้อตกลง’ ที่ผมบอกให้พวกเขาลงนาม มันช่างน่าละอายอะไรเช่นนี้และทำให้ชีวิตมนุษย์ต้องสูญเสียไปโดยไร้ประโยชน์”
และเสริมต่อด้วยการพิมพ์ตัวพิมพ์ใหญ่ว่า “ขอให้รู้ว่า “อิหร่านไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้”
ก่อนกล่าวต่อที่ทำให้ทุกคนต้องตาค้างว่า “ผมขอพูดซ้ำอีกครั้งและอีกครั้ง! ทุกคนต้องอพยพออกไปจากกรุงเตหะรานทันที!”
สื่ออิสราเอลรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยสาเหตุการที่ประชาชนอิหร่านภายในกรุงเตหะรานที่มีถึง 10 ล้านคนต้องรีบอพยพออกไปในทันที
อย่างไรก็ตาม สถานทูตไทยประจำอิหร่านออกหนังสือคำสั่งอพยพลงวันที่ 17 มิ.ย พ.ศ 2568 ให้ประชาชนไทยที่อาศัยในเมืองหลวงให้อพยพออกไปทันทีโดยอ้างอิงไปถึงสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยในกรุงเตหะราน
โดยในหนังสือสั่งการมีใจความว่า “เนื่องมาจากสถานการณ์ภายในกรุงเตหะรานทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยและยังไม่มีแน้วโน้มในระยะใกล้ที่จะกลับมาเป็นปกติ”
“สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอให้คนไทยเดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเตหะราน”
ทั้งนี้ได้กล่าวว่า “ ‘ในโอกาสแรก’ สามารถเดินทางไปที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวเมืองเมือง Amol (สำหรับบุคคลสัญชาติไทยเท่านั้น) หรือเดินทางไปพักกับญาติพี่น้องนอกกรุงเตหะรานก่อนเพื่อความปลอดภัย”
โดยในคำแถลงจากสถานทูตไทยประจำอิหร่านยังเตือนไปยังพลเมืองไทยให้หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงดขตทหาร สถานที่พลุกพล่านหรือมีการชุมนุม
การอพยพพลเมืองต่างชาติออกจากกรุงเตหะรานไม่ใช่เฉพาะแค่ไทยเพราะ กระทรวงต่างประเทศอินเดียตามการรายงานของไทม์สออฟอินเดียได้ออกมายืนยันวันอังคาร(17)ว่า บรรดานักศึกษาอินเดียได้หนีออกไปจากกรุงเตหะรานเพื่อความปลอดภัยด้วยความช่วยเหลือจากสถานทูตอินเดีย
ขณะที่นักศึกษาอินเดียที่สามารถเดินทางออกไปเองได้ได้รับคำแนะนำให้หนีออกนอกเมืองหลวงอิหร่านไปโดยไวจากมุมมองของการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามลำดับ อ้างอิงจากแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศอินเดีย
นอกจากนี้กระทรวงยังเปิดเผยต่อว่า มีพลเมืองแดนภารตะบางส่วนได้รับความช่วยเหลือให้เดินทางออกไปจากอิหร่านผ่านทางพรมแดนอาร์มีเนีย
ไทม์สออฟอินเดียรายงานต่อว่า ไม่นานหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯโพสต์สั่งให้ทุกคนอพยพออกจากกรุงเตหะราน โฆษกทำเนียบขาวออกแถลงว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะเดินทางออกจากการประชุมสุดยอดผู้นำ G-7 ที่แคนาดาเร็วกว่ากำหนดโดยจะเดินทางกลับมาที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เนื่องมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง
และสมาชิกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯถูกเรียกเข้าห้องมอนิเตอร์สถานการณ์ฉุกเฉิน (Situation Room) จากการที่ทรัมป์ส่งสัญญาณให้สหรัฐฯอยู่ในความพร้อมขั้นสูง
ไทม์สออฟอิสราเอลรายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯออกมาปฎิเสธว่า การรีบออกมาจากที่ประชุม G-7 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อตกลงหยุดยิงอิสราเอล-อิหร่าน แต่เป็นอะไรที่ใหญ่กว่านั้นมาก โดยไม่อธิบายในรายละเอียด
ทั้งนี้สื่ออิสราเอลอ้างว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง 14 ของอิราเอลที่เป็นสถานีโปรนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้เคยรายงานอ้างว่า สหรัฐฯตัดสินใจเข้าร่วมอิสราเอลทำสงครามต่อต้านอิหร่าน
แต่อย่างไรก็ตามผู้ช่วยโฆษกทำเนียบขาวรีบออกมาปฎิเสธโดยยืนกรานว่า “กองกำลังสหรัฐฯนั้นยังคงต่อสถานะการป้องกันตัวเองและนั่นยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง พวกเราจะปกป้องผลประโยชน์อเมริกัน”