ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เผยมีความเป็นไปได้สูงมากที่เครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์ 15,000 ตัวในโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมขนาดใหญ่ที่สุดของอิหร่านที่นาตันซ์ (Natanz) อาจเสียหายอย่างหนักหรือถูกทำลายจากวิกฤตไฟฟ้าดับ หลังถูกอิสราเอลโจมตี
ราฟาเอล กรอสซี บอสใหญ่ IAEA เคยออกมากล่าวก่อนหน้านี้ว่า เครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์ที่โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมใต้ดินที่นาตันซ์อาจเสียหายจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศซึ่งทำให้ระบบไฟฟ้าดับ ต่อให้ตัวอาคารจะดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบก็ตาม
“เราประเมินว่า การสูญเสียพลังงานไฟฟ้าภายในอย่างกะทันหันน่าจะส่งผลให้เครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์ถูกทำลาย หรือย่างน้อยก็เสียหายรุนแรง” กรอสซี ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีในวันจันทร์ (16 มิ.ย.)
“ผมเชื่อว่าภายในนั้นจะต้องมีความเสียหายเกิดขึ้นแน่” เขากล่าว หลังจากที่ได้อัปเดตสถานการณ์ต่อที่ประชุมบอร์ดบริหาร IAEA จำนวน 35 ประเทศเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า
ทั้งนี้ การสูญเสียพลังงานไฟฟ้าถือเป็นความสุ่มเสี่ยงร้ายแรงต่อเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์ซึ่งถูกติดตั้งอย่างสมดุล และหมุนด้วยความเร็วที่สูงมาก
ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลส่งผลให้โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมอย่างน้อย 2 จากทั้งหมด 3 แห่งในอิหร่านต้องปิดตัวลงชั่วคราว ขณะที่โรงงานเสริมสมรรถนะนำร่องที่อยู่เหนือพื้นดินในนาตันซ์ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ตามข้อมูลจากกรอสซี
เขายังแจ้งต่อที่ประชุมบอร์ด IAEA ว่า ไม่พบความเสียหายที่โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในฟอร์โด (Fordow) ซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา และยังให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า “ถ้าจะมีความเสียหายเกิดขึ้นที่นั่น ก็จำกัดมาก”
IAEA ยังไม่สามารถลงพื้นที่ไปตรวจสอบสภาพความเสียหายของโรงงานนิวเคลียร์อิหร่านได้ แต่อาศัยการวิเคราะห์จากภาพถ่ายดาวเทียมเป็นหลัก
กรอสซี อธิบายต่อไปว่า อาคาร 4 หลังที่โรงงานนิวเคลียร์ในอิสฟาฮานก็ดูเหมือนจะได้รับความเสียหายด้วย รวมถึงโรงแปรสภาพยูเรเนียมที่ใช้เปลี่ยน “เค้กเหลือง” ให้กลายเป็นยูเรเนียมเฮกซาฟลูออไรด์ (uranium hexafluoride) ซึ่งจะถูกนำไปใส่ในเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์เพื่อเพิ่มความบริสุทธิ์ให้สูงขึ้น
“ที่อิสฟาฮานก็มีพื้นที่ใต้ดินเช่นกัน ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ” กรอสซี บอกกับบีบีซี
นักการทูตอาวุโสรายหนึ่งให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า ยูเรเนียมความบริสุทธิ์สูงของอิหร่านส่วนใหญ่ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในพื้นที่ใต้ดิน และจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียดจึงจะประเมินสถานการณ์ได้
ที่มา: รอยเตอร์