ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ มีรายได้มากกว่า 600 ล้านดอลลาร์จากธุรกิจคริปโต สโมสรกอล์ฟ ใบอนุญาต และธุรกิจอื่น ๆ ในรายงานการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินต่อสาธารณชนที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (13 มิ.ย.) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการถือครองธุรกิจมูลค่ามหาศาลของผู้นำมหาเศรษฐีรายนี้
แบบฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินประจำปีซึ่งดูเหมือนจะครอบคลุมปีปฏิทิน 2024 แสดงให้เห็นว่า การผันตัวเข้าสู่วงการคริปโตของ ทรัมป์ มีส่วนทำให้ความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะเดียวกัน ทรัมป์ ก็ยังมีรายได้จากค่าธรรมเนียมโครงการพัฒนาต่างๆ และรายได้จากธุรกิจอื่นๆ
โดยรวมๆ แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ มีบัญชีทรัพย์สินที่แจ้งอย่างน้อย 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามการคำนวณของรอยเตอร์
แม้ ทรัมป์ จะอ้างว่า เขาได้ฝากธุรกิจของเขาไว้ในกองทุนทรัสต์ที่ลูกๆ ของเขาเป็นผู้บริหารจัดการ แต่จากการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ท้ายที่สุดแล้วรายได้จากทุกแหล่งก็ยังคงตกอยู่กับประธานาธิบดี ซึ่งอาจกลายเป็นช่องทางให้ ทรัมป์ ถูกกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ธุรกิจบางอย่างของทรัมป์ เช่น สกุลเงินดิจิทัล ได้รับประโยชน์จากการปรับนโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ ทรัมป์ ถูกวิจารณ์อย่างมากเช่นกัน
ทำเนียบขาวยังไม่ได้ออกมาตอบคำถามสื่อในประเด็นนี้
การเปิดเผยข้อมูลทางการเงินดังกล่าวได้รับการลงนามเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. และไม่ได้ระบุว่าครอบคลุมช่วงเวลาใด
อย่างไรก็ดี รายละเอียดเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่ถูกแจ้ง แสดงให้เห็นว่าข้อมูลชุดนี้มีระยะเวลาถึงแค่สิ้นเดือน ธ.ค. ปี 2024 ซึ่งเท่ากับว่ายังไม่รวมเม็ดเงินส่วนใหญ่ที่ระดมได้จากการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลของครอบครัวทรัมป์
เมื่อพิจารณาถึงความรวดเร็วที่ครอบครัว ทรัมป์ ทำข้อตกลงต่างๆ ระหว่างที่เขาขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเทอมสอง การยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งนี้จึงสะท้อนรายได้เฉพาะในช่วงที่ตระกูล ทรัมป์ เพิ่งเริ่มเข้าสู่วงการคริปโตใหม่ๆ และยังอยู่ในโลกของธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์และสโมสรกอล์ฟเป็นหลัก
เหรียญมีม $TRUMP ที่ผู้นำสหรัฐฯ ออกเมื่อต้นปีนี้ถูกประเมินว่าสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมประมาณ 320 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณชนว่า เม็ดเงินนี้ถูกแบ่งสรรปันส่วนอย่างไรระหว่างธุรกิจของทรัมป์กับบรรดาหุ้นส่วน
นอกจากค่าธรรมเนียมเหรียญมีมดังกล่าวแล้ว ตระกูล ทรัมป์ ยังมีรายได้มากกว่า 400 ล้านดอลลาร์จาก World Liberty Financial ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2024
ครอบครัว ทรัมป์ ยังเข้าไปในส่วนในอุตสาหกรรมเหมืองบิตคอยน์และกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล
การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าตระกูล ทรัมป์ มีเครือข่ายธุรกิจที่ครอบคลุมอยู่ทั่วโลก โดยระบุถึงรายได้จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโครงการพัฒนาในเวียดนาม 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ค่าธรรมเนียมการพัฒนาโครงการหนึ่งในอินเดีย 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตสำหรับโครงการในดูไบอีกเกือบ 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทรัมป์ ยังแจ้งรายได้จาก NFT รวมทั้งสิ้น 1.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ เมลาเนีย ทรัมป์ ภรรยาของเขา ก็มีรายได้จากค่าธรรมเนียม NFT ที่ออกในชื่อของเธอเองประมาณ 216,700 ดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา: รอยเตอร์