เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – สื่อเขมรรายงานล่าสุดสมเด็จฮุนเซนวันนี้(13 มิ.ย)เรียกร้องให้ประชาชนกัมพูชาไม่ให้เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมความรุนแรงกับสถานทูตไทย บริษัทไทย และพลเมืองไทยในกัมพูชาพร้อมห้ามแสดงความเกลียดชังทางเชื้อชาติ สะท้อนถึงเหตุการณ์เขมรก่อจลาจลบุกเผาสถานทูตไทยกลางกรุงพนเมเปญเมื่อปี 2546 สมัยอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และฮุนเซนยังเย้ยฝากคำถากถางไปถึงรัฐบาลลูกสาวทักษิณ แพทองธาร ชินวัตรว่า คุมกองทัพไทยไว้ไม่อยู่ในมือไม่เหมือนของกัมพูชา
ขแมร์ไทม์ส์รายงานวันนี้(13 มิ.ย)ว่า สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาออกแถลงการณ์ต่อประชาชนกัมพูชาผ่านเฟซบุ๊กเช้าวันศุกร์(13)ส่งคำเตือนไปยังประชาชนที่ทำให้สามารถคิดไปถึงเหตุการณ์
โจมตีสถานทูตไทยประจำกัมพูชาเมื่วันที่ 29 ม.ค ปี 2546 ที่เกิดมาจากม็อบจลาจลชาตินิยมในเวลานั้นและตรงกับสมัยรัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรที่กำลังดำรงตำแหน่งนายกฯ
แถลงการณ์มีใจความว่า “ผมขออ้อนวอนต่อเพื่อนร่วมชาติของผมไม่ให้ก่อเหตุพฤติกรรมรุนแรงเป็นต้นว่า การประท้วงต่อสถานทูตไทย บริษัทไทย หรือพลเมืองไทยในกัมพูชา และอีกทั้งไม่ให้แสดงความเกลียดชังทางเชื้อชาติต่อพลเมืองไทยที่ส่วนใหญ่เป็นคนดี”
และเขาได้กล่าวฝากไปถึงรัฐบาลไทยของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรว่า
“มีเพียงกลฃุ่มหัวรุนแรง และฝักฝ่ายทางการทหารบางส่วนเท่านั้นที่อยู่เบื้องหลังปัญหาเหล่านี้กับกัมพูชา เป็นเพราะเหมือนที่เป็นตามปกติที่รัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมกองทัพของตัวเองในแบบที่ประเทศของเราสามารถทำได้”
พร้อมกันนี้ได้สั่งมาตรการจำนวน 6 ข้อหากว่าฝ่ายไทยยังไม่ยอมเปิดพรมแดนรวมถึงข้อ 1 ห้ามการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยสู่ตลาดกัมพูชาที่หมายความว่าหยุดการใช้สินค้าไทยและเปลี่ยนมาใช้สินค้าภายในประเทศหรือหันไปใช้สินค้าจากประเทศอื่น และข้อ 5 กองกำลังกัมพูชาทุกหน่วยต้องอยู่ในความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมงใน 1 วันเพื่อตอบโต้และปกป้องในเหตุการณ์รุนแรง
อ้างอิงจากวิกีพีเดียเหตุเผาสถานทูตไทยเกิดพ.ศ. 2546 หรือชื่อในปฏิบัติการกู้ภัยทางการทหารว่า "ปฏิบัติการโปเชนตง" เริ่มต้นขึ้นเมื่อบทความในหนังสือพิมพ์กัมพูชารัศมี อังกอร์ได้ตีเเผ่บทความกล่าวหาด้วยข้อมูลที่ผิดพลาดที่ว่า นักแสดงหญิงไทยคนหนึ่งอ้างว่านครวัดเป็นของประเทศไทยในเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2546 และมีสื่ออื่นๆของกัมพูชานำไปรายงานต่อเพิ่มเติมจนสถานทูตไทยในกัมพูชาโดนพวกก่อจลาจลบุกเผาเมื่อวันที่ 29 ม.ค ปี 2546
อย่างไรก็ตามผู้รับผิดชอบสำหรับเหตุจลาจลดังกล่าวไม่แน่ชัด แต่ทว่าตามวิกีพีเดียพบว่า ในบริบทที่มีการข่มขู่และความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งได้รับการกระตุ้นจากฮุนเซน ในช่วงก่อนหน้าการเลือกตั้งใน พ.ศ. 2546 หลายคนจึงเชื่อว่าเหตุจลาจลดังกล่าวเป็นเพียงหนึ่งในกลยุทธ์เหล่านี้ที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุม
การตอบโต้จากรัฐบาลไทยสมัยอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรนั้นพบว่า หลังจลาจลฝ่ายไทยส่งเครื่องบินทหารไปอพยพพลเมืองไทย รวมไปถึงนักการทูตไทยทั้งหมดออกจากประเทศกัมพูชา และสั่งขับนักการทูตกัมพูชาออกนอกประเทศเพื่อตอบโต้ มีการสั่งปิดพรมแดนที่ติดกับกัมพูชา
กัมพูชาดูเหมือนต้องการให้พรมแดนกลับมาเปิดอีกครั้ง เพราะอ้างอิงจากวิกีพีเดีย ฝ่ายพนมเปญในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรีฮุนเซนยอมจ่ายเงินชดเชยจำนวน '6 ล้านดอลลาร์' สำหรับความเสียหายจากการเผาสถานทูตและรัฐบาลไทยยอมกลับมาเปิดพรมแดนในวันที่ 21 ม.ค ปี 2546
แต่กระนั้นมีข้อครหาว่าฝ่ายกัมพูชาจ่ายเงินแค่ครึ่งเดียวของมูลค่าเต็ม
เพราะในรายงานจากวิกีพีเดียพบว่าในการประท้วงต่อต้านอดีตนายกฯทักษิณเมื่อปี 2549 นักการทูตไทยชื่อดังหลายคน รวมอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำสหประชาชาติ อัษฎา ชัยนาม และอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนาม สุรพงษ์ ชัยนาม ได้กล่าวหาว่า “มีการจ่ายค่าชดเชยจริงเพียงครึ่งเดียว” แต่ทว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยในเวลานั้น...ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวไป