อิสราเอล ยืนยันในตอนเช้าวันศุกร์(13มิ.ย.) ว่าพวกเขาได้ทำการโจมตีอิหร่าน และมีรายงานข่าวจากสื่อมวลชนอิหร่านระบุได้ยินเสียงระเบิดตูมสนั่นหวั่นไหวในกรุงเตหะราน เหตุการณ์ความร้อนระอุที่เกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของสหรัฐฯในการโน้มน้าวให้อิหร่านยอมตกลงระงับการผลิตวัสดุสำหรับสร้างระเบิดนิวเคลียร์
ขณะเดียวกันทางอิสราเอลเปิดเผยด้วยว่าพวกเขาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จากความคาดหมายว่าอิหร่านจะยิงขีปนาวุธและโดรนตอบโต้
เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลรายหนึ่งบอกว่าอิสราเอลโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหารของอิหร่านหลายสิบแห่ง พร้อมกับอ้างว่าอิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะผลิตระเบิดนิวเคลียร์ 15 ลูกภายในไม่กี่วัน
อิสราเอล คาท์ซ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล ระบุในถ้อยแถลงว่า "ตามหลังการชิงโจมตีก่อนโดยรัฐอิสราเอลเล่นงานอิหร่าน คาดหมายว่าจะมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนเล่นงานรัฐอิสราเอลและพลเรือน ในระยะเวลาอันใกล้นี้"
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 2 ราย ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามบอกว่าอิสราเอลได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน แต่ยืนยันว่าอเมริกาไม่ได้ให้ความช่วยเหลือหรือเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการนี้
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำลังเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี ตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 3 ดอลลาร์ในทันที ต่อข่าวการชิงโจมตีก่อนของอิสราเอล
สื่อมวลชนแห่งรัฐของอิหร่านรายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งในเตหะราน และระบบป้องกันภัยทางอากาศอยู่ในภาวะระแวดระวังเต็มพิกัด
ปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอล มีขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและอิหร่าน มีกำหนดเจรจากันรอบที่ 6 ในโอมาน ในวันอาทิตย์(15มิ.ย.) เกี่ยวกับกรณีที่เตหะรานยกระดับโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าการเจรจาจะเข้าสู่ทางตัน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดี(12มิ.ย.) ทรัมป์ ยอมรับว่าการโจมตีของอิสราเอลเล่นงานอิหร่าน "อาจเกิดขึ้น" แต่เน้นย้ำตั้งความหวังต่อการหาทางออกอย่างสันติ
ที่ผ่านมา หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯบ่งชี้ว่าอิสราเอลกำลังเตรียมการสำหรับโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่าน และพวกเจ้าหน้าที่อเมริกา ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม เคยสันนิษฐานว่าการโจมตีของอิสราเอลอาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
อิสราเอล พูดมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการโจมตีคู่อริอย่างอิหร่าน ในความพยายามขัดขวางเตหะรานจากการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
กองทัพสหรัฐฯกำลังสางแผนรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเต็มรูปแบบในตะวันออกกลาง ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจเข้าช่วยเหลืออพยพพลเรือนอเมริกา จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ
(ที่มา:รอยเตอร์)