ผลสำรวจล่าสุดเผย ประชาชนชาวยูเครนที่สนับสนุนให้รัฐบาลทำสงครามต่อต้านรัสเซียไปเรื่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น 60% หลังจากที่ปรากฏสัญญาณความอ่อนล้าและเหนื่อยหน่ายสงครามก่อนหน้านี้
ผลสำรวจความคิดเห็นซึ่งจัดทำโดย Kyiv International Institute of Sociology (KIIS) และเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (5 มิ.ย.) พบว่า คนยูเครนส่วนใหญ่พร้อมจะอดทนกับภาวะสงครามต่อไป "ตราบเท่าที่มีความจำเป็น"
โพลครั้งก่อนๆ ของ KIIS ชี้ให้เห็นว่า กระแสสนับสนุนการทำสงครามไปเรื่อยๆ แบบไร้จุดจบมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากระดับพีค 73% ในปี 2022 ลดเหลือแค่ 54% ในเดือน มี.ค. ปีนี้
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดบ่งบอกถึงเทรนด์ที่เริ่มตีกลับ โดยโพลซึ่งจัดทำระหว่างวันที่ 15 พ.ค. ถึง 3 มิ.ย. พบว่า ผู้ตอบคำถาม 60% พร้อมจะอดทนเผชิญสงครามไปเรื่อยๆ แบบไม่มีกำหนด อีก 6% ตอบว่าทนได้อีก 1 ปี และ 20% ตอบว่าพร้อมทนต่อไปอีกหลายเดือน ทว่าไม่เกินครึ่งปี
โพลฉบับนี้สรุปจากการสอบถามความคิดเห็นชาวยูเครน 1,011 คนผ่านการสุ่มเบอร์โทรศัพท์ และมีค่าความผิดพลาดบวกลบไม่เกิน 4.1% ภายใต้สถานการณ์ปกติ
อย่างไรก็ดี KIIS ยอมรับว่า ตัวแปรต่างๆ ในภาวะสงครามอาจทำให้การแสดงความคิดเห็นผิดเพี้ยนไป เช่น การตอบแบบลำเอียง ซึ่งหมายถึงการที่ผู้ตอบแบบสอบถามจงใจให้คำตอบที่คิดว่า "ฟังดูดี" มากกว่าที่จะพูดในสิ่งที่ตนเองคิด
การเพิ่มขึ้นของกระแสสนับสนุนการทำสงครามกับรัสเซียไปเรื่อยๆ มีขึ้นท่ามกลางมาตรการจำกัดต่างๆ ที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี นำมาใช้ในยูเครน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งแบนพรรคฝ่านค้าน การบังคับให้สื่อมวลชนต้องทำงานแบบรวมศูนย์ภายใต้นโยบายข้อมูลที่เป็นเอกภาพ ตลอดจนมาตรการระดมพลที่เป็นไปในลักษณะเข้มงวดและบีบบังคับมากขึ้น
คณะผู้แทนยูเครนและรัสเซียได้เปิดการเจรจาสันติภาพรอบ 2 ที่นครอิสตันบูลของตุรกีในสัปดาห์นี้ โดยมีการบรรลุข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวเชลยศึกเพิ่มเติม และยังแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรลุซึ่งข้อตกลงสันติภาพ
ที่มา: RT