เป็นที่ทราบกันดีว่าจีนมีโครงการอาวุธนิวเคลียร์แบบลับๆ แต่ล่าสุดเป็นครั้งแรกที่ทางปักกิ่งเผยแพร่รายละเอียดสำคัญๆของหนึ่งในอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศ โดยมันพิสัยทำการที่สามารถโจมตีไปทั่วทุกหัวระแหงของแผ่นดินใหญ่อเมริกา ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลัง จีนกล่าวหารัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พยายามยั่วยุและสร้างความร้าวฉานในเอเชีย-แปซิฟิก จากการประกาศว่าปักกิ่งเป็นภัยซึ่งหน้าและเรียกร้องให้ประเทศในเอเชียเพิ่มงบประมาณทางการทหาร เพื่อป้องปรามภัยคุกคามจากจีน
ในความเคลื่อนไหวที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจแก่พวกผู้ชมชาวจีน ทางสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี สื่อมวลชนแห่งรัฐของปักกิ่ง เผยแพร่รายละเอียดสำคัญของหนึ่งในระบบขีปนาวุธศักยภาพติดอาวุธนิวเคลียร์ชั้นสูงของประเทศ ที่เรียกว่า DF-5
ปกติแล้วโครงการนิวเคลียร์ของจีน มักถูกเก็บเงียบเป็นความลับสุดยอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของศักยภาพอย่างเฉพาะเจาะจงและการใช้งาน และในความเคลื่อนไหวล่าสุด ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทำไมถึงมีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวข้องกับ DF-5 ขีปนาวุธข้ามทวีป(ICBM) ต่อสาธารณะ
ยูเรเชียไทม์ส ตั้งข้อสังเกตว่าช่วงเวลาของการเผยแพร่รายละเอียดนี้ยิ่งเป็นที่น่าสนใจ เพราะมันเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากการเวทีสัมมานากลาโหมและความมั่นคงใหญ่ที่สุดในเอเชีย Shangri-La Dialogue ประจำปี 2025 ในสิงคโปร์
ณ เวทีสัมมนา พีท เฮกเซ็ธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เรียกร้องบรรดาพันธมิตรเอเชียยกระดับการใช้จ่ายด้ายกลาโหม ตอบโต้การเสริมกำลังทางทหารของจีนใกล้ไต้หวัน โดย เฮกเซ็ธ พูดพาดพิงถึงจีนมากกว่า 20 ครั้ง ในการปราศรัยครั้งแรก ณ เวที Shangri-La Dialogue และส่งเสียงเตือนโดยตรงไปยังปักกิ่ง
"ความพยายามใดๆของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในการพิชิตไต้หวันด้วยการใช้กำลังจะก่อผลลัพธ์หายนะสำหรับอินโด-แปซิฟิกและโลก ไม่มีเหตุผลที่จะพูดกลบเกลื่อนสถานการณ์อันเลวร้าย" เฮกเซ็ธระบุ พร้อมเน้นย้ำว่าสหรัฐฯจริงจังกับการตอบโต้อิทธิพลที่มากขึ้นเรื่อยๆของจีนในโลกตะวันตกด้วยเช่นกัน
น้ำเสียงของเฮกเซ็ธ สร้างความประหลาดใจแก่หลายฝ่าย "ถ้าการป้องปรามล้มเหลว และถ้าได้รับคำขอจากผู้บัญชาการสูงสุดของผม สิ่งที่ดีที่สุดที่กระทรวงกลาโหมพร้อมจะทำคือ สู้และเป็นฝ่ายชนะ อย่างเด็ดขาด" เขากล่าว
รายงานข่าวของยูเรเซียไทม์สระบุว่าการเปิดตัว DF-5 ต่อสาธารณะอาจเป็นการตอบโต้คำกล่าวของเฮกเซ็ธ ในขณะที่ขีปนาวุธข้ามทวีป DF-5 มีพิสัยทำการ 12,000 กิโลเมตร และมีศัยกภาพโจมตีได้ไกลถึงแผ่นดินใหญ่สหรฐฯ เช่นเดียวกับบรรดาชาติตะวันตก
ยูเรเซียไทม์ส ชี้ว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็นแนวทางของจีน ในการอวดแสนยานุภาพของขีปนาวุธข้ามทวีปดังกล่าว และส่งสารออกมาว่าปักกิ่งจริงจังเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของตนเอง
ที่ผ่านมา พวกเจ้าหน้าที่ในจีนมีกเปิดเผยรายละเอียดต่างๆโดยใช้ภาษาคลุมเครือ หลีกเลี่ยงลงรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับอาวุธ อย่างไรก็ตามการออกอากาศเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นั้นต่างออกไป มันมีการให้รายละเอียดอย่างเจาะจงและในแง่ลึก เกี่ยวกับขีปนาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ของจีน
สื่อมวลชนแห่งรัฐจีนให้จำกัดความ DF-5 ว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปเชิงยุทธศาสตร์รุ่นแรกของจีน พร้อมระบุมันเป็นขีปนาวุธ 2 ท่อน ที่สามารถปล่อยหัวรบนิวเคลียร์ 1 ลูก ที่มีพลังการระเบิดเทียบเท่ากับระเบิดทีเอ็นทีระหว่าง 3 ถึง 4 เมกะตัน ทั้งนี้เมื่อเทียบกันแล้ว มันมีแสนยานุภาพหนักหน่วงกว่าระเบิดปรมาณูที่สหรัฐฯย้อนลงถล่มฮิโรชิมาและนางาซากิ ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ราวๆ 200 เท่าเลยทีเดียว
นอกจากนี้แล้วสื่อมวลชนแห่งรัฐจีนยังเผยด้วยว่าขีปนาวุธนี้มีพิสัยทำการสูงสุด 12,000 กิโลเมตร เพียงพอที่จะโจมตีทั่วทั่งทวีปอเมริกาและยุโรปตะวันตก และมีความแม่นย้ำภายในรัศมี 500 เมตร รายงานบอกด้วยว่าขีปนาวุธนี้มีความยาว 32.6 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 3.35 เมตร และน้ำหนักตอนยิง 183 ตัน
ระหว่างการออกอากาศ ทาง ซ่ง จงผิง อดีตครูฝึกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ชี้ว่าขีปนาวุธนี้ มีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์การป้องปรามทางนิวเคลียร์ของจีน "หากปราศจาก DF-5 จีนจะไม่ถูกมองในฐานะประเทศที่มีศักยภาพโจมตีข้ามทวีปที่มีความน่าเชื่อถือ มันคือเครื่องไม้เครื่องมือที่ทำให่จีนโผล่ขึ้นมาในฐานะมหาอำนาจนิวเคลียร์ พิสูจน์ให้โลกรู้ว่าจีนนั้นจริงจังอย่างมาก"
รายงานข่าวระบุว่า DF-5 ได้ถูกใช้เป็นรากฐานสำหรับโครงการอวกาศและทางทหารอื่นๆอีกหลายโครงการ "ความพยายามเหล่านั้น ในนั้นรวมถึงยานปล่อยจรวด Long March-2C , โครงการระบบทิ้งระเบิดแบบวงโคจรเศษส่วน DF-6 (ยกเลิกไปแล้ว) และโครงการช่วยเหลือเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชากรจีน และโครงการ DF-5B
DF-5B มีศักยพภาพคล้ายกับ DF-5 แต่มันเป็นขีปนาวุธที่สามารถบรรทุกและปล่อยหัวรบนิวเคลียร์ MIRV ที่มีศักยภาพโจมตีแต่ละเป้าหมายที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กว้างขวาง ยิ่งไปกว่านั้นในปี 2017 สื่อมวลชนเคยบ่งชี้ว่า จีน ได้ทำสอบรุ่นใหม่ของขีปนาวุธนี้ไปแล้ว ที่มีชื่อว่า DF-5C ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ 10 ลูก
ซ่ง จงผิง บ่งชี้ว่าการเผยแพร่รายละเอียดของ DF-5 ยังอาจหมายความว่าเวลานี้จีนครอบครองอาวุธนิวเคลียร์และไซโลขีปนาวุธที่ล้ำสมัยกว่านั้นมาก ดังนั้น ปักกิ่ง จึงไม่รู้สึกกังวลอะไรเกี่ยวกับการเผยแพร่รายละเอียดอย่างเจาะจงของ DF-5 ต่อสาธารณะ "สิ่งที่เรากำลังเห็นคือการกำลังละทิ้งระบบเก่าๆ หลายระบบในนั้นได้ทำงานตามจุดประสงค์ไปแล้ว สารที่ส่งออกมาชัดเจนว่า จีน มีแสนยานุภาพทรงพลังมากกว่านั้นมาก ที่ยังไม่ได้อวดให้โลกเห็น"
รายงานข่าวระบุว่าจีนยังขีปนาวุธข้ามทวีปอีกหลายรุ่นในคลังแสง อย่างเช่น DF-31 และ DF-41 เมื่อปีที่แล้ว จีนประสบความสำเร็จในการทดสอบ DF-31 ซึ่งบังเอิญเหลือเกินว่า มันถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ทศวรรษที่จีนยอมรับว่าได้ทำสอบขีปนาวุธข้ามทวีป
อ้างอิงข้อมูลจากสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศ ในสตอกโฮล์ม จีนเป็นชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นรองเพียงรัสเซียและสหนัฐฯ และจนถึงปี 2024 ปักกิ่งมีหัวรบนิวเคลียร์ในคลังแสง มากกว่า 500 ลูก
(ที่มา:ยูเรเซียไทม์ส)