กองทัพเรือสหรัฐฯ เตรียมเปลี่ยนชื่อเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงที่เคยได้รับการขนานนามตามชื่อของ “ฮาร์วีย์ มิลค์” (Harvey Milk) นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเกย์ ในความเคลื่อนไหวล่าสุดของกองทัพสหรัฐฯ ภายใต้รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พีท เฮกเซธ ที่จะขุดรากถอนโคนนโยบายส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียม
เมื่อปี 2016 กองทัพเรือสหรัฐฯ ประกาศตั้งชื่อเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงลำหนึ่งตามชื่อของ มิลค์ อดีตนายทหารเรือที่ต่อมากลายเป็นเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนแรกๆ ที่มาจากการเลือกตั้ง และประกาศตัวเป็นเกย์อย่างเปิดเผย
เรือ ยูเอสเอ็นเอส ฮาร์วีย์ มิลค์ ผ่านการทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำ (christen) เมื่อปี 2021 และเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือบรรทุกน้ำมันชั้น จอห์น ลูอิส ของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่งให้ข้อมูลว่า คำสั่งเปลี่ยนชื่อเรือนี้มาจากสำนักงานของ เฮกเซธ โดยตรง
เขาย้ำว่าขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่ากระบวนการเปลี่ยนชื่อเรือจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า เดือน มิ.ย. ถือเป็นเดือน Pride ที่ทั่วโลกจะจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อีกคนบอกว่า เขาไม่ประหลาดใจหากจะมีเรือในชั้น จอห์น ลูอิส ถูกเปลี่ยนชื่ออีกภายใต้รัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงลำอื่นๆ ของกองทัพสหรัฐฯ ก็ถูกตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองหรือนักสิทธิมนุษยชนเช่นกัน
ฌอน พาร์เนลล์ โฆษกเพนตากอน กล่าวว่ารัฐมนตรี เฮกเซธ มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ชื่อสถานที่และเครื่องไม้เครื่องมือทางทหารของสหรัฐฯ “สะท้อนสิ่งที่เป็นวาระสำคัญของท่านผู้บัญชาการสูงสุด ตลอดจนประวัติศาสตร์ของชาติ และจริยธรรมความเป็นนักรบ”
“การเปลี่ยนชื่อจะถูกประกาศ หลังจากที่กระบวนการทบทวนภายในเสร็จสิ้นแล้ว” พาร์เนลล์ ระบุ
แผนการเปลี่ยนชื่อนี้ถูกตีแผ่เป็นครั้งแรกผ่านเว็บไซต์ Military.com
มิลค์ เข้ารับราชการในกองทัพเรือสหรัฐฯ ในปี 1951 ในฐานะเจ้าหน้าที่ประดาน้ำในช่วงสงครามเกาหลี ต่อมาได้รับเลือกเป็นคณะที่ปรึกษาแห่งนครซานฟรานซิสโก และถือเป็นนักการเมืองจากแคลิฟอร์เนียคนแรกที่เป็นเกย์อย่างเปิดเผย
เขาเสียชีวิตจากการถูกลอบสังหารในปี 1978
ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งบอสใหญ่เพนตากอนในเดือน ม.ค. เฮกเซธ ซึ่งเป็นอดีตพิธีกร Fox News ได้สั่งเพิกถอนนโยบายความหลากหลายของกระทรวงกลาโหมไปแล้วหลายเรื่อง เช่น ยกเลิกการจัดกิจกรรม Black History Month และให้ถอดหนังสือบางเล่มออกจากการเรียนการสอนของโรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ (Naval Academy) รวมถึงหนังสือบันทึกความทรงจำของ มายา แองเจลู นักเขียนผิวสีและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองผู้มีชื่อเสียง
โครงการส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการหลอมรวมหรือ DEI ที่เปิดโอกาสให้กับสตรี ชาติพันธุ์กลุ่มน้อย และกลุ่มคนชายขอบอื่นๆ ได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองสายเดโมแครต ทว่าถูกฝ่ายอนุรักษนิยมต่อต้านอย่างหนักโดยอ้างว่าการให้สิทธิพิเศษแก่คนบางกลุ่มโดยอิงกับเชื้อชาติและเพศสภาพนั้นคือ “การเลือกปฏิบัติ” ในตัวเอง และควรจะมุ่งเน้นที่คุณสมบัติเป็นสำคัญ
เมื่อเดือน ก.พ. เฮกเซธ ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับกิจกรรมเฉลิมฉลองความหลากหลายที่กองทัพสหรัฐฯ เคยทำมา โดยบอกกับเจ้าหน้าที่เพนตากอนรายหนึ่งว่า “ผมคิดว่าวลีที่โง่เง่าที่สุดในประวัติศาสตร์การทหารก็คือคำพูดที่ว่า ความหลากหลายของเราคือความเข้มแข็ง (our diversity is our strength)”
ที่มา: รอยเตอร์