xs
xsm
sm
md
lg

ชนะขาด!? ‘อี แจ-มยอง’ผู้นำกลาง-ซ้ายมีชัยได้เป็นปธน.โสมขาวคนใหม่ ผลเอ็กซิตโพลชี้ชัดหลังจากคนเกาหลีใต้หลั่งไหลใช้สิทธิ์เนืองแน่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กลุ่มผู้สนับสนุนพากันไปเฝ้ารอ อี แจ-มยอง ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ของพรรคประชาธิปไตย ที่ใกล้ๆ อาคารสภานิติบัญญัติแห่งชาติในกรุงโซล คืนวันอังคาร (3 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง
ผู้สมัครของพรรคแนวทางกลาง-ซ้ายของเกาหลีใต้ อี แจ-มยอง ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นผู้ชนะแบบถล่มทลายในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จัดขึ้นก่อนกำหนดในวันอังคาร (3 มิ.ย.) ทั้งนี้ตามผลเอ็กซิตโพลของสำนักต่างๆ เป็นการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายหลังประเทศเผชิญวิกฤตการเมืองนาน 6 เดือน สืบเนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึกสุดช็อกของยุน ซอก-ยอล ผู้นำคนก่อนที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง

ผลการหยั่งเสียงจากผู้ออกมาใช้สิทธิ หรือ เอ็กซิตโพล ที่ทำร่วมกันโดยสถานีโทรทัศน์ 3 แห่ง คือ KBS, MBC, และ SBS ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ ส่วนใหญ่ออกมาสอดคล้องกับผลลัพธ์สุดท้าย ให้ อี ชนะด้วยคะแนนเสียง 51.7% ขณะที่คู่แข่งของเขาคือ คิม มุนซู จากพรรคแนวทางอนุรักษนิยม ได้เพียง 39.3%

สำหรับเอ็กซิตโพลที่จัดทำต่างหากโดยสถานีโทรทัศน์ JTBC ให้ อี ได้เสียง 50.6% และคิม 39.4% ทางด้าน แชนเนล A ก็ทำนายว่า อี เป็นผู้ชนะ ด้วยคะแนนเสียงใกล้เคียงกัน

สถานีโทรทัศน์โสมขาวเหล่านี้ประกาศผลสำรวจเอ็กซิตโพลของพวกเขา ภายหลังจากประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงทั่วประเทศจำนวน 44.39 ล้านคน ได้ออกมาใช้สิทธิของพวกตนเป็นสัดส่วนสูงลิ่วนั่นคือเกือบๆ 80%

ชาวเกาหลีใต้หลั่งไหลออกมาใช้สิทธิกันมากมายคราวนี้ ด้วยความหวังที่จะให้ประเทศชาติฟื้นฟูมีเสถียรภาพขึ้นมาใหม่ หลังจากเผชิญวิกฤตการเมืองนานครึ่งปี จากการประกาศกฎอัยการศึกสุดช็อกของยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีคนก่อนซึ่งเป็นฝ่ายอนุรักษนิยม

ทั้งนี้ หลังจากถูกรัฐสภาดำเนินการสอบสวนและลงมติถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนธันวาคม ยุนซึ่งต้องเข้าสู่ขั้นตอนถูกวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญตามกระบวนการ ก็ถูกศาลแห่งนี้ตัดสินยืนยันให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 เม.ย. เป็นอันว่าเขาได้ดำรงตำแหน่งไม่ถึง 3 ปีจากวาระ 5 ปี

รัฐธรรมนูญเกาหลีใต้นั้น กำหนดให้ต้องรีบจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ก่อนกำหนด โดยที่จะมีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปีเพียงสมัยเดียว เหมือนผู้ชนะเป็นประมุขประเทศตามกระบวนการปกติ

อย่างไรก็ดี คาดหมายกันว่าผู้นำคนใหม่ยังจะต้องเผชิญความท้าทายสำคัญๆ ทั้งในการฟื้นฟูสังคมที่ยังหวาดผวากับความพยายามหวนกลับไปสู่การปกครองด้วยระบบทหาร ขณะที่เศรษฐกิจซึ่งมุ่งเน้นการส่งออกก็กำลังโซซัดโซเซจากลัทธิกีดกันการค้าที่ไม่สามารถคาดเดาได้ของอเมริกา ตลอดจนถึงการเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลก รวมไปถึงภัยคุกคามจากการขยายคลังแสงอาวุธอย่างรวดเร็วของเกาหลีเหนือ

อี ผู้นำพรรคประชาธิปไตยฝ่ายค้าน ซึ่งผลโพลที่ผ่านๆ มาต่างระบุว่าเป็นตัวเต็งที่จะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ เรียกร้องผ่านเฟซบุ๊กให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เพื่อปกป้องประเทศที่เผชิญวิกฤตจากความโลภของชนชั้นนำ

ทั้งอี และ คู่แข่งสำคัญคือ คิม จากพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่มีแนวทางอนุรักษนิยม ต่างหาเสียงด้วยการประกาศเปลี่ยนแปลงประเทศ โดยระบุว่า ระบบการเมืองและเศรษฐกิจที่สร้างขึ้นในช่วงที่ประชาธิปไตยและพลังทางอุตสาหกรรมเพิ่งเริ่มเบ่งบานนั้น บัดนี้ไม่ตอบสนองต่อเป้าหมายที่กำหนดไว้อีกต่อไป

แม้ข้อเสนอสำหรับการลงทุนในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีของทั้งคู่มีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก แต่ อี เน้นสนับสนุนความเท่าเทียม และการให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่มีรายได้ปานกลางมากกว่า ขณะที่คิมเสนอผ่อนคลายกฎระเบียบสำหรับธุรกิจและลดความขัดแย้งด้านแรงงาน

อี ซึ่งเป็นนักการเมืองสายเสรีนิยมและเพิ่งรอดชีวิตจากการพยายามลอบสังหารเมื่อปีที่แล้ว ประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็น “วันตัดสิน” ความผิดของคิมและพรรคพีพีพี ที่แสดงท่าทียกโทษให้แก่ความพยายามในการประกาศกฎอัยการศึกของยุน ด้วยการไม่ขัดขวางอย่างจริงจัง ซ้ำยังพยายามปกป้องให้ยุนดำรงตำแหน่งต่อไป

ทั้งนี้ ตอนที่ ยุน ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. คิมรับตำแหน่งรัฐมนตรีแรงงาน

ทว่า คิม ตอบโต้โดยตราหน้า อี เป็น “เผด็จการ” และพรรคประชาธิปไตยเป็น “สัตว์ประหลาด” พร้อมเตือนว่า หาก อี ที่เป็นอดีตทนายความด้านสิทธิมนุษยชนได้เป็นประธานาธิบดี จะไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเขาและพรรคประชาธิปไตยที่ต้องการแก้ไขกฎหมายเพียงเพราะไม่ชอบใจเท่านั้น

อี และ คิม ไปลงคะแนนในการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ยุนและภรรยาไปลงคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งใกล้ที่พักในวันอังคาร โดยมีท่าทีผ่อนคลายแต่ไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าว

เป็นที่น่าสังเกตว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีผู้สมัครหญิงเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี และประเด็นความเท่าเทียมทางเพศไม่ใช่นโยบายหลักระหว่างการหาเสียง ซึ่งตรงข้ามอย่างชัดเจนกับการเลือกตั้งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจจากทุกสำนักต่างยกให้อีเป็นผู้ชนะ เช่น โพลล์ล่าสุดของแกลลัป โคเรียที่ออกมาหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันเลือกตั้งที่พบว่า อีได้คะแนน 49% ทิ้งห่างคิมถึง 14%

สำหรับการนับคะแนน มีรายงานว่าบัตรเลือกตั้งจะได้รับการจัดเรียงและนับโดยระบบอัตโนมัติ ก่อนตรวจสอบรอบที่สามโดยเจ้าหน้าที่เลือกตั้งเพื่อยืนยันความถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ผลการเลือกตั้งจะออกมาเมื่อใด โดยในปี 2002 นั้น อี ประกาศยอมแพ้ต่อ ยุน เมื่อเวลาประมาณ 3.00 น.ของวันรุ่งขึ้นหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่ถือว่าคู่คี่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ โดยมีคะแนนห่างกันไม่ถึง 1%

ในครั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติมีกำหนดประกาศรับรองผลการเลือกตั้งในวันพุธ (4 มิ.ย.) และคาดว่า ผู้ชนะจะทำพิธีเข้ารับตำแหน่งภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น โดยไม่มีช่วงเปลี่ยนผ่าน เนื่องจากตำแหน่งประธานาธิบดีว่างอยู่หลังจากยุนถูกปลด

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น