เอเจนซีส์ - พิพิธภัณฑ์แห่งชาติดัตช์ Rijksmuseum เรียกเสียงฮือฮาจากมหาชนแสดงถุงยางอนามัยอายุ 200 ปีฟันธงเชื่อเจ้าของไม่เคยเปิดใช้งานจริง ภาพประกอบด้านข้างสุดสยิว แม่ชีและนักบวช 3 คนเป็นงานสร้างสรรค์ยุคทองดัตช์ศตวรรษที่ 19
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันนี้(3 มิ.ย)ว่า ถุงยางอนามัยอายุ 200 ปีที่เปิดจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ Rijksmuseum เมืองอัมสเตอร์ดัมนี้ผลิตมาจากไส้ติ่งแกะในปี 1830 หรือศตวรรษที่ 19 ที่ถือเป็นยุคทองดัตช์ทีเดียว
ถุงยางอนามัยดังกล่าวเชื่อว่ามาจากสถานเริงรมณ์ชั้นสูงในฝรั่งเศสในเวลานั้นที่หากจะให้ตรงพิกัดน่าจะมาจากกรุงปารีส
ความพิเศษของถุงยางอนามัยอายุ 200 ปีดังกล่าวอยู่ที่ภาพศิลปะประกอบด้านข้างที่เป็นงานศิลป์ล้อเลียนสไตล์ปาริเซียงเป็นภาพแม่ชีและพระ 3 รูปในลักษณะวาบหวามที่ต้องจ้องมองเป็นพิเศษถึงจะเข้าใจความหมาย
และยังรวมไปถึงข้อความ Voila, mon choix หรือ “นั่น มันเป็นการเลือกของฉัน”
ผู้ดูแลประจำพิพิธภัณฑ์แห่งชาติดัตช์ จอยซ์ เซเบน (Joyce Zelen) อธิบายว่า องค์ประกอบงานศิลป์นี้เชื่อว่าสอดคล้องไปกับปกรณัมกรีกที่เกี่ยวของกับ “การตัดสินของปารีส” (Judgement of Paris) ในตอนที่เจ้าชายโทรเจนถูกขอให้เลือกเทพีที่งดงามมากที่สุด 3 องค์
เซเลนกล่าวว่า “ดังนั้นพวกเราเชื่อว่าใครก็ตามที่ต้องการถุงยางอนามัยดังกล่าวต้องมีความชาญฉลาดมากและมีการศึกษาที่ดี”
ที่มาของถุงยางอนามัยอายุ 200 ปีของพิพิธภัณฑ์ Rijksmuseum นี้ได้มาจากการซื้อผ่านการประมูลที่ Haarlem เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้วในมูลค่า 1,000 ยูโร
พิพิธภัณฑ์จะทำการจัดแสดงในสัปดาห์นี้โดยถุงยางอนามัยจะถูกจัดแสดงสัปดาห์นี้สำหรับการจัดแสดงแบบย่อยภายใต้ชื่อ “การมีเพศสัมพันธ์แบบปลอดภัย พร้อมกับงานศิลป์เกี่ยวข้องกับสุขภาพทางเพศสัมพันธ์และเกี่ยวกับงานบริการทางเพศ ซึ่งเนเธอร์แลนด์ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ยอมรับงานการขายบริการทางเพศและมีเมือง De Wallen ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งโคมแดงสำหรับนักท่องราตรีที่ต้องการหาความสุขด้านบริการทางเพศ
ผู้เชี่ยวชาญประจำพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ยังให้ข้อมูลอย่างน่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเครื่องมือคุมกำเนิดของมนุษย์หรือถุงยางว่า
“ในราวยุค1830 ที่เมื่อถุงยางนี้ถูกสร้างขึ้นมา แต่ทว่าการใช้ถุงยางอนามัยยังคงไม่เป็นที่ยอมรับในทางสาธารณะโดยเฉพาะต่อศาสนจักร”
และชี้ว่า ถุงยางอนามัยส่วนใหญ่เป็นการซื้อขายลับๆแบบใต้โต้ะตามสถานเริงรมณ์หญิงขายบริการและร้านตัดผม ถึงแม้จะมีรายงานว่ามีห้างร้านระดับบนสำหรับชนชั้นสูงเสนอขายเช่นกันก็ตาม”