ศาลอุทธรณ์กลางแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ออกคำสั่งบังคับสปาเกาหลีแห่งหนึ่งในเมืองลีนน์วู้ด รัฐวอชิงตัน ให้บริการผู้หญิงข้ามเพศ หลังจากสปาแห่งนี้พยายามห้ามพวกผู้หญิงข้ามเพศที่ยังไม่ได้รับการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง เข้ามาใช้บริหาร
รายงานข่าวระบุว่าศาลอุทธรณ์เขต 9 ของสหรัฐฯ ชี้ขาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยคะแนนน 2-1 เสียง ว่าสปาโอลิมปุส ต้องเปลี่ยนนโยบายการบริการให้สอดคล้องกับกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติ ศาลชี้ว่าเจ้าของสปาต้องไม่ริดรอนสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา เสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิเสรีภาพในการคบค้าสมาคม ภายใต้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯครั้งที่ 1 ตามข้อบังคับของรัฐวอชิงตัน
สปาโอลิมปุส ซึ่งเปิดให้บริการ 2 แห่งในรัฐวอชิงตัน เป็นโรงอาบน้ำสไตล์เกาหลีโบราณ ที่มอบบริการนวด, ขัดผิวกายและอ่างน้ำร้อน ที่จำเป็นต้องเปลื้องผ้าทั้งหมดเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน ในปี 2020 คณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชนของรัฐวอชิงตัน ยื่นคำร้องหนึ่งหลังจากมีผู้หญิงข้ามเพศรายหนึ่ง ซึ่งยังไม่ผ่าตัดแปลงเพศ ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าไปใช้บริการ
คณะกรรมาธิการด้านสิทธมนุษยชนด้างว่านโยบายรับเฉพาะหญิงแท้ของสปา ละเมิดกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติของรัฐวอชิงตัน ซึ่งห้ามเลือกปฏิบัติในสถานที่สาธารณะ ไม่ว่าจะบนพื้นฐานอัตลักษณ์ทางเพศหรือเพศตามบุคลิกภาพ
ทางโอลิมปุส สปา ตอบโต้ด้วยการยื่นฟ้องทางกฎหมายเช่นกัน อ้างว่ารัฐเป็นฝ่ายละเมิดสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา เสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิเสรีภาพในการคบค้าสมาคม ของผู้เป็นเจ้าของเช่นกัน ที่กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญ
สปาแห่งนี้ ที่บริหารงานโดยครอบครัวชาวอเมริกาเชื้อสายเกาหลีที่นับถือศาสนาคริสต์ อ้างความเชื่อทางศาสนาและวัฒธรรม ในการคัดค้านคำสั่งให้รวมบุคคลที่มีอวัยวะเพศชายเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีไว้เฉพาะผู้หญิงและจำเป็นต้องเปลือยกายล่อนจ้อน
อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแล้ว ศาลอุทธรณ์เขต 9 ของสหรัฐฯตัดสินว่าการบังคับใช้กฎหมายแห่งรัฐ ไม่ได้ละเมิดการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯครั้งที่ 1 โดยผู้พิพากษา มาร์กาเร็ธ แม็คคีโอว์น บอกว่าการให้บริการขัดผิวสไตล์เกาหลีและนวด ไม่เข้าองค์ประกอบของการกระทำที่ต้องได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมาย พร้อมชี้ว่าหากศาลยอมรับข้อโต้แย้งของสปาแห่งนี้ อาจทำให้โรงยิมหรือสถานอาบนวดทุกแห่ง ได้รับการยกเว้นจากกฎหมายห้ามเลือกปฏิบัติ
คำพิพากษานี้มีขึ้นท่ามกลางการโต้เถียงในวงกว้างทั่วสหรัฐฯเกี่ยวกับสิทธิคนข้ามเพศ หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอยการให้สิทธิคุ้มครองบุคคลข้ามเพศหลายๆอย่าง หยุดรัฐบาลกลางจากการสนับสนุนผ่าตัดแปลงเพศในวัยเด็ก และออกคำสั่้งบริหารต่างๆนานาแบนผู้หญิงข้ามเพศจากกีฬาประเภทหญิง และรื้อถอนอุดมการณ์เรื่องเพศออกจากกองทัพ
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)