รัฐบาลจีนบรรลุข้อตกลงว่าด้วยกระบวนการรื้อฟื้นการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นอีกครั้ง ในความคืบหน้าสำคัญที่จะนำไปสู่การปลดคำสั่งแบนที่ใช้มานานเกือบ 2 ปี ตามข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นวานนี้ (30 พ.ค.)
กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นแถลงว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงและสำนักงานศุลกากรของจีน (GACC) ได้บรรลุข้อตกลงระหว่างการประชุมหารือที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ (28) โดยคาดว่าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะสามารถส่งออกไปยังตลาดจีนได้อีกครั้ง “หลังจากที่ฝ่ายจีนดำเนินมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นแล้วเสร็จ”
ด้าน GACC ระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศ “คืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” หลังจากที่ได้พูดคุยกันอีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผลิตภัณฑ์อาหารทะเลจากญี่ปุ่น
ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่จีนและญี่ปุ่นต่างพยายามหาทางยุติความตึงเครียดจากกรณีที่โตเกียวตัดสินใจปล่อยน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อปี 2023
โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุในงานแถลงข่าวว่า ข้อตกลงนี้ “ถือเป็นหมุดหมายที่สำคัญ”
“เราจะเดินหน้าเรียกร้องให้จีนเปิดรับเนื้อวัวที่ส่งออกจากญี่ปุ่นอีกครั้ง และยกเลิกมาตรการจำกัดการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารทะเลจาก 10 จังหวัดของเรา” ฮายาชิ กล่าว โดยหมายรวมถึงซึ่งจังหวัดฟุกุชิมะและกรุงโตเกียวซึ่งยังไม่ถูกนับรวมอยู่ในข้อตกลงล่าสุดกับจีน
ภายใต้มาตรการที่ 2 ฝ่ายตกลงกัน ญี่ปุ่นจะต้องยื่นลงทะเบียนโรงงานแปรรูปอาหารทะเลต่อทางการจีน และสินค้าที่ส่งออกจะต้องมีใบรับรองตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าไม่มีสารกัมมันตรังสีปนเปื้อน ตามข้อมูลจากกระทรวงเกษตรญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานว่า รัฐบาลจีนอาจจะประกาศรื้อฟื้นการนำเข้าอาหารทะเลจากจังหวัดอื่นๆ ของญี่ปุ่นที่ไม่ใช่ฟุกุชิมะในอนาคตอันใกล้
รัฐบาลจีนได้สั่งแบนอาหารทะเลจากญี่ปุ่นทั้งหมด เพียงไม่นานหลังจากที่โตเกียวเริ่มปล่อยน้ำเสียที่บำบัดแล้วออกจากโรงไฟฟ้า ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ที่เคยเกิดวิกฤตแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์หลอมละลายจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2011
ที่มา: รอยเตอร์