เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอแถลงวันพุธ(28 พ.ค.) ว่า สหรัฐฯ จะปฎิเสธเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างชาติที่เซ็นเซอร์โซเชียล อ้างต้องปกป้องเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของอเมริกันชน หลังสัปดาห์ที่แล้วเปรยพร้อมต่อต่าผู้พิพากษาศาลสูงสุดบราซิลหลังบล็อกแพลตฟอร์ม X ของอีลอน มัสก์
เดอะฮิลล์ของสหรัฐฯรายงานวันพุธ(28 พ.ค)ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ วานนี้(28) สร้างความตกตะลึงไปทั่วด้วยการประกาศนโยบายวีซ่าสหรัฐฯในการจำกัดวีซ่าที่มีเป้าหมายไปที่เจ้าหน้าที่รัฐต่างชาติที่รับผิดชอบการเซ็นเซอร์โซเชียลมีเดียของอเมริกา อ้างกระทบสิทธิอเมริกันชนด้านเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น
“ถึงแม้พวกเราจะใช้มาตรการเพื่อปฎิเสธการเซ็นเซอร์ที่บ้าน พวกเราเห็นปัญหาบางอย่างของรัฐบาลต่างชาติและเจ้าหน้าที่ต่างชาติที่ไม่ทำ ในบางกรณี เจ้าหน้าที่ต่างชาตินั้นใช้มาตรการเซ็นเซอร์อย่างรุนแรงต่อบริษัทไฮเทคอเมริกันและพลเมืองอเมริกันและชาวบ้านเมื่อคนเหล่านี้ไม่มีอำนาจจะทำเช่นนั้น”
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯชี้ว่า เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ในการต้องการหมายจับพลเมืองสหรัฐฯหรือผู้มีถิ่นพำนักสำหรับการโพสต์บนโซเชียลมีเดียสหรัฐฯในระหว่างอยู่ในดินแดนอเมริกา
“นี่เป็นการยอมรับไม่ได้เช่นกันต่อเจ้าหน้าที่รัฐต่างชาติที่เรียกร้องแพลตฟอร์มบริษัทไฮเทคอเมริกันให้ยอมรับนโยบายกำกับเนื้อหาคอนเทนท์ระหว่างประเทศหรือเข้ามาเกี่ยวข้องการเคลื่อนไหวด้านเซ็นเซอร์ที่ก้าวไปไกลเกินอำนาจของพวกเขาและเข้าสู่สหรัฐฯ”
นโนยบายเกิดขึ้นหลังการโต้เถียงระหว่างเจ้าของแพลตฟอร์ม X อีลอน มัสก์ และผู้พิพากษาศาลสูงสุดบราซิล อเล็กซานเดร เดอ โมเรส (Alexandre de Moraes) หลังแพลตฟอร์ม X ถูกสั่งให้ต้องลบโพสต์
เอเอฟพีรายงานว่า และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯได้เปิดเผยกับบรรดาสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯว่า เขามีแผนที่จะแซงชั่นคว่ำบาตรผู้พิพากษาศาลสูงสุดบราซิลท่านนี้ที่มีปัญหาโต้เถียงมัสก์เกี่ยวข้องกับข้อมูลเท็จหรือข่าวปลอม
“มันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐต่างชาติที่ออกหมายจับหรือข่มขู่จะออกหมายจับพลเรือนอเมริกันหรือผู้มีถิ่นพำนักในสหรัฐฯสำหรับการโพสต์โซเชียลมีเดียบนแพลตฟอร์มบริษัทอเมริกันขณะที่ตัวเองปรากฎตัวเป็นๆอยู่บนแผ่นดินอเมริกา"
เขาย้ำว่า “พวกเราจะไม่อดทนการรุกล้ำต่ออธิปไตยสหรัฐฯ โดยเฉพาะเมื่อการรุกล้ำบั่นทอนต่อการใช้สิทธิพื้นฐานของพวกเราในการแสดงความคิดเห็น”
ทั้งนี้ในเดือนนี้สหรัฐฯได้เพิกถอนวีซ่าท่องเที่ยวของมารินา เดล ปีลาร์ (Marina del Pilar)ผู้ว่าการรัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย(Baja California) พร้อมของสามี แต่อย่างไรก็ตาม เดลีเมลของอังกฤษรายงานในวันที่ 13 พ.คว่า
นอกเหนือจากวีซ่าท่องเที่ยวสหรัฐฯโดนถอนแล้ว บัญชีธนาคารแบงก์ออฟอเมริกาและธนาคารเวลล์ส ฟาร์โก(Wells Fargo)ของทั้งคู่ปิดลงที่เมืองซานดิเอโก เนื่องมาจากความเคลื่อนไหวที่น่าสงสัย
เดลีเมลรายงานว่า สหรัฐฯสั่งถอนวีซ่าท่องเที่ยวของผู้ว่าการรัฐคนดังของเม็กซิโกและสามีเนื่องมาจากการสอบสวนคดีฟอกเงินที่เชื่อมโยงกับแก๊งค้ายาเสพติดเป็นการสอบสวนที่ยังดำเนินอยู่
เอเอฟพีรายงานว่า รูบิโอทั้งนี้ก่อนหน้าได้เปิดเผยว่า เขาออกคำสั่งเพิกถอนวีซ่าสหรัฐฯจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่ออกมาต่อต้านอิสราเอลและปกป้องปาเลสไตน์