ชนเผ่าที่อยู่ห่างไกลชนเผ่าหนึ่งในอเมริกาใต้ ฟ้องร้องหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ สำนักข่าวทีเอ็มซีและยาฮู ฐานหมิ่นประมาท ต่อการรายงานข่าวต่างๆนานากล่าวอ้างว่าชนเผ่าแห่งนี้กำลังอยู่ในภาวะติดหนังโป๊งอมงแม หลังเพิ่งเข้าถึงอินเตอร์เน็ตเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ชนเผ่ามารูโบ ซึ่งมีประชากรราวๆ 2,000 คน ใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านห่างไกลกว่า 20 แห่ง ในแถบหุบเขาจาวารี ทางตะวันตกตอนไกลของบราซิล ในปี 2022 บริษัทสตาร์ลิงบริษัทเสาอากาศอินเตอร์เน็ตดาวเทียม 20 ต้นให้แก่ชนเผ่าแห่งนี้ เพื่อให้พวกผู้พักอาศัยที่อยู่ห่างไกลกันสื่อสารกันง่ายขึ้น และเปิดทางสำหรับเข้าถึงอินเตอร์เน็ต
ในปี 2024 ผู้สื่อข่าวนิวยอร์กไทม์สรายหนึ่งและช่างภาพ เดินทางไปเยี่ยมเยือนชนเผ่ามารูโบ และต่อมาเผยแพร่บนความบรรยายว่าพวกวัยรุ่นติดมือถือและพวกผู้เยาว์พากันดูหนังโป๊ ต่อมาสำนักข่าวทีเอ็มซีและอื่นๆ เช่นเดียวกับ ยาฮูนิวส์ นำไปเผยแพร่ซ้ำและปรุงแต่งเนื้อหาบางส่วน อ้างว่าชนเผ่าแห่งนี้กำลังติดหนังลามกกันงอมแงม
เมื่อวันอังคาร(27พ.ค.) อีโนเก มารูโบ ผู้นำชนเผ่าและฟลอรา ดูตรา นักเคลื่อนไหวชาวบราซิล ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อชนเผ่ากับอินเตอร์เน็ต ยื่นคำฟ้องต่อศาลลอสแองเจลิส เอาผิดกับนิวยอร์กไทม์ส, ทีเอ็มซี และ ยาฮูนิวส์ กล่าวหาว่าหมิ่นประมาท และกระทำผิดต่างๆนานาในเรื่องที่เกี่ยวข้อง
"นิวยอร์กไทม์ส วาดภาพชนเผ่ามารูโบ ว่าเป็นชุมชนที่ไม่สามารถรับมือและอ่อนแอต่ออินเตอร์เน็ต เน้นย้ำคำกล่าวหาว่าพวกเด็กๆของชนเผ่ากำลังถูกกลืนกินโดยหนังโป๊ ไม่นานหลังเข้าถึงอินเตอร์เน็ต" สำนักข่าวซีเอ็นเอสรายงานอ้างคำฟ้อง พร้อมระบุว่าคำพูดที่กระตุ้นให้เกิดความขุ่นเคืองก็คือ การบ่งชี้เป็นนัยว่า "ชนเผ่ามารูโบกำลังดำดิ่งสู่ภาวะเสื่อมถอยทั้งทางศีลธรรมและทางสังคม"
คำฟ้องอ้างว่า "ผู้สื่อข่าวและช่างภาพ ได้รับเชิญให้อยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งเป็นเวลา 1 สัปดาห์ แต่พวกเขาเดินทางกลับไปหลังอยู่ได้แค่ 2 วัน มีเวลาไม่มากพอที่จะสังเกตการณ์ ทำความเข้าใจและพูดคุยมีส่วนร่วมด้วยความเคารพกับชุมชนด้วยซ้ำ"
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวนิวยอร์กไทม์ส เผยแพร่รายงานชื้อนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า "ไม่ ชนเผ่าแอมะซอนห่างไกลแห่งหนึ่้ง ไม่ได้ติดหนังโป๊" และนับตั้งแต่นั้นหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ยืนยันว่าบทความดั้งเดิมของพวกเขาไม่เคยพูดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างติดหนังโป๊
รายงานของซีเอ็นเอส ระบุว่าชนเผ่ามารูโบ กำลังเรียกร้องค่าเสียหาย 180 ล้านดอลลาร์ ในนั้นรวมถึง 100 ล้านดอลลาร์ สำหรับค่าเสียหายเชิงลงโทษ
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)