เอเอฟพี – รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯประกาศวันอังคาร(27 พ.ค)ว่า สหรัฐฯหยุดแนะนำเด็กและสตรีตั้งครรภ์ต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยเรียกการเปลี่ยนแปลงใหม่นี้ว่า เป็นสามัญสำนึกที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานให้ความรู้สึกฟังเหมือนวิทยาศาสตร์มาก
เอเอฟพีรายงานวันอังคาร(27 พ.ค)ว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลังการประกาศสัปดาห์ที่แล้วโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ USDA ที่จะจำกัดอนุญาตการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการยุติวิกฤตโรคระบาดให้แก่กลุ่มผู้ใหญ่อายุเกิน 65 ปีรวมถึงคนที่มีอายุน้อยกว่าที่มีปัญหาสุขภาพ
เจ้าหน้าที่รัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้วางกรอบการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำสหรัฐฯให้ใกล้กับการปฎิบัติของชาติอื่นๆเป็นต้นว่า อังกฤษ เยอรมัน และฝรั่งเศส ที่วัคซีนเข็มกระตุ้นประจำปีนี้ถูกแนะนำเฉพาะกับผู้สูงอายุและผู้ที่บกพร่องทางภูมิคุ้มกัน
แต่ทว่ารัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์(Robert F. Kennedy Jr.) ที่ผ่านมาเป็นผู้ออกมาให้ข้อมูลอย่างผิดพลาดเกี่ยวกับวัคซีนโดยเฉพาะกับวัคซีนโควิด-19 ได้ผลักดันการปฎิรูปนโยบายทางสาธารณะใหม่
“ผมไม่สามารถมีความยินดีที่มากไปกว่านี้ประกาศว่านับตั้งแต่วันนี้ วัคซีนโควิด-19สำหรับเด็กที่แข็งแรงและสตรีตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพแข็งแรงได้ถูกนำออกไปจากคำแนะนำกำหนดการให้ภูมิคุ้มกันของ CDC” เขากล่าวผ่านคลิปที่ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม X
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ FDA ยังเปิดเผยว่า บริษัทยาผู้ผลิตวัคซีนจำเป็นต้องทำการทดลองทางคลินิควิทยาใหม่ รวมถึงการเปรียบเทียบกับยาหลอก หากว่าบริษัทยาเหล่านั้นยังคงต้องการคงการได้ใบอนุญาตใช้สำหรับกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 65 ปี
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เรียกเสียงวิจารณ์ไปทั่ว
อาเมช อดัลจา (Amesh Adalja) นักระบาดวิทยาประจำมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เปิดเผยกับเอเอฟพีสัปดาห์ที่แล้วว่า ในขณะที่แนวทางใหม่ตรงกับที่ใช้ในประเทศอื่น “ผมคิดว่าอย่างไรก็ตามวัคซีนโควิด-19ชุดเริ่มต้นสมควรที่จะเป็นส่วนหนึ่งของภูมิคุ้มกันตามปกติในเด็ก”
ขณะที่พอล ออฟฟิต (Paul Offit) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาประจำโรงพยาบาลเด็กที่ฟิลาเดลเฟียออกมาเตือนว่า การจำกัดการเข้าถึงสำหรับกลุ่มคนที่ยังคงต้องการเข็มกระตุ้นโดยเฉพาะภายใต้ระบบสุขภาพเอกชนที่บริษัทผู้ให้ประกันอาจปฎิเสธการคุ้มกัน
การกลับหันหลังนโยบายวัคซีนโควิด-19สำหรับสตรีหญิงมีครรภ์ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากคำแนะนำก่อนหน้าของ CDC สหรัฐฯ
ซึ่งมาถึงเช้าวันอังคาร(27) เว็บไซต์ของสำนักงานที่ยังไม่ได้สะท้อนการประกาศของเจ้ากระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯยังคงระบุว่า กลุ่มสตรีตั้งครรภ์ถือเป็นกลุ่มคนที่มีความจำเป็นต้องการได้รับการคุ้มกันจากวัคซีนโควิด-19