เอเจนซีส์/เอเอฟพี – พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาเสด็จพระราชดำเนินเยือนแคนาดาเป็นทางการเป็นเวลา 2 วันโดยเริ่มตั้งแต่วานนี้(26 พ.ค) ท่ามกลางทั่วโลกจับตาพระองค์ทรงเป็นประธานเปิดการประชุมรัฐสภาแคนาดาวันอังคาร(27 พ.ค)ที่มีการคาดว่าพระองค์จะตรัสสนับสนุนรัฐบาลออตตาวาต่อต้านการคุกคามจากผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ข่มขู่จะผนวกแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา
โกลบอลนิวสของแคนาดารายงานวานนี้(26 พ.ค)ว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาแห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษเสด็จพระดำเนินถึงแคนาดาด้วยเครื่องบิน CC-330 Husky ที่รัฐบาลออตตาวาจัดถวายร่อนลงจอดที่กรุงออตตาวาในวันจันทร์(26)
การเสด็จพระราชดำเนินเยือนแคนาดาเป็นเวลา 2 วันรวมถึงการเสด็จเปิดรัฐสภาออตตาวาที่กำลังจะมีขึ้นในวันนี้(26)
ทั้งสองพระองค์ทรงได้รับการถวายการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติโดยผู้นำแดนเมเปิลคนใหม่ มาร์ค คาร์นีย์ ผู้สำเร็จราชการแคนาดา (governmor of general of Canada) แมรี ไซมอน(Mary Simon) ผู้แทนชนพื้นเมืองแคนาดา และเจ้าหน้าที่ระดับสูงรัฐบาลแคนาดา
บีบีซีของอังกฤษรายงานว่า คาร์นีย์ทูลเชิญพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เสด็จพระราชดำเนินเพื่อเปิดรัฐสภาคาดาหลังจากเขาชนะเลือกตั้งทั่วไปเมื่อไม่นานมานี้ท่ามกลางวิกฤตภัยคุกคามอธิปไตยประเทศจากสหรัฐฯประเทศเพื่อนบ้านโดยผู้นำ โดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค ต้นปีได้ออกมาข่มขู่ประกาศต้องการผนวกแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯและตามมาด้วยการทำสงครามการค้าและเห็นร้านรวงในแคนาดายกเลิกการจำหน่ายสินค้าเมดอิน USA และยกเลิกการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีแคนาดาเคยออกมาเปิดเผยก่อนหน้าว่า พระราชดำรัสการเปิดการประชุมรัฐสภาออตตาวานั้นจะมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสที่จะตรงกับ “ปัญหาในช่วงเวลาของพวกเรา”
ซึ่งจะกลายเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 50 ปีที่มีพระมหากษัตริย์อังกฤษจะทรงออกพระราชดำรัสในพิธีเปิดการประชุมรัฐสภาแคนาดานั้นถูกมองในเชิงสัญลักษณ์แสดงการสนับสนุนออตตาวาจากราชวงศ์อังกฤษไปโดยปริยาย
บีบีซีของอังกฤษชี้ว่า พระราชดำรัสนี้จะถูกเตรียมไว้ล่วงหน้าสอดคล้องไปกับการถวายคำแนะนำของรัฐบาลคาร์นีย์ที่จะเห็นการส่งสารออกไปอย่างชัดเจนว่า “ประเทศแคนาดาไม่ได้มีไว้ขายให้สหรัฐฯ”
ถือเป็นการปฎิเสธข้อเรียกร้องจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการผนวกแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา
บีบีซีวิเคราะห์ว่า และยังเป็นการสมดุลทางการทูตเนื่องมาจากสถานะของพระองค์ที่เป็นประมุขแห่งรัฐของสหราชอาณาจักรอังกฤษนั้นบ่งชี้ว่า พระมหากษัตริย์นั้นถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามทางการทูตเพื่อที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมถึงการเชิญผู้นำอเมริกันเดินทางมาเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่ 2
เอเอฟพีชี้ว่า แต่ทว่าเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำแคนาดา พีธ โฮคสตรา(Pete Hoekstra) ได้ออกมาปัดถึงการที่ออตตาวาถวายคำเชิญพระเจ้าชาร์ลส์เสด็จมาเปิดรัฐสภาด้วยพระองค์เองนั้นเป็นเสมือนสารส่งกลับไปยังวอชิงตันในการผนวกดินแดนว่า
“หากว่ามีสารอยู่ มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นในการที่จะส่งข้อความ แค่ยกหูโทรศัพท์บอกผม คุณคาร์นีย์สามารถโทรศัพท์หาประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ตลอดเวลา” โฮคสตราให้สัมภาษณ์กับ สถานีโทรทัศน์ CBC ของแคนาดาสัปดาห์ที่แล้ว
เขากล่าวว่า เขามองว่าประเด็นการผนวกดินแดนนี้มันจบไปแล้ว และขอให้มันผ่านไป แต่หากว่าฝ่ายออตตาวายังต้องการที่จะพูดเรื่องรัฐที่ 51 อยู่ก็เป็นเรื่องของแคนาเดียน