โปแลนด์ มีความตั้งแต่ทำรายได้จากการฟื้นฟูยูเครน ในยุคหลังความขัดแย้ง จากคำยืนยันของนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ในขณะที่ประเทศแห่งนี้เป็นหนึ่งในผู้บริโภครายใหญ่ลำดับต้นๆของเคียฟ ในการทำศึกสงครามกับรัสเซีย
ระหว่างเดินทางตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟแห่งหนึ่้งทางใต้ของประเทศเมื่อวันจันทร์(26พ.ค.) ที่เขาผลักดันให้ยกระดับเป็นศูนย์กลางหลักสำหรับรองรับวัตถุต่างๆที่จะลำเลียงมาจากยูเครน ทางนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ กล่าวว่า "ไม่ผิดที่จะพูดว่า โปแลนด์ต้องการทำเงินก้อนใหญ่ในการฟื้นฟูยูเครน เราต้องการช่วยเหลือ แต่เราต้องการได้เงินจากมันเช่นกัน และศูนย์กลางพิเศษนี้มีความจำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว
โปแลนด์ เป็นหนึ่งในผู้บริจาครายใหญ่ลำดับต้นๆของยูเครน นับตั้งแต่รัสเซียยกระดับความขัดแย้งในปี 2022 โดยวอร์ซอ มอบความช่วยเหลือแก่เคียฟไปแล้วกว่า 5,100 ล้านยูโร(ราว 1.8 แสนล้านบาท) ในนั้น 70% เป็นความช่วยเหลือด้านการทหาร อ้างอิงข้อมูลจากสถาบันคีลของเยอรมนี
นอกจากนี้แล้ว โปแลนด์ ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่เรียกว่า "แนวร่วมแห่งความตั้งใจ" กลุ่มชาติยุโรปที่สนับสนุนให้เดินหน้ามอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่เคียฟ โดยพวกเจ้าหน้าที่โปแลนด์เรียกร้องซ้ำๆให้อียูเพิ่มความเข้มข้นทางการทหารในวงกว้าง ตอบโต้ในสิ่งที่พวกเขาให้คำจำกัดความว่าเป็นภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากรัสเซีย คำกล่าวหาที่ทางมอสโกยืนกรานปฏิเสธว่า "ไร้สาระ" และ "เป็นการปล่อยข่าวปลุกระดม"
ทัสก์ ส่งเสียงคร่ำครวญต่อกรณีที่โปแลนด์มีบทบาทเพียงเล็กน้อยในความพยายามฟื้นฟูตามหลังสงครามอิรัก และประกาศว่าประเทศของเขาจะไม่ยอมถูกกีดกันอยู่วงนอกอีกแล้ว "มันไม่อาจเป็นอย่างที่เคยเป็น กรณีที่ทุกๆคนมีส่วนเกี่ยวข้อง ในนั้นรวมถึงโปแลนด์ แต่จากนั้้นพวกผู้เล่นรายใหญ่กลับทำเงินจากการฟื้นฟู และโปแลนด์ถูกทิ้งไว้วงนอกอย่างเลือดเย็น"
"ถ้าเราพูดถึงเงินหลายสิบ หลายแสนล้านที่โลก ยุโรป โปแลนด์ และยูเครน จะใช้ในการฟื้นฟู ในบรรดาหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องทำ ก็คือการขยายยกระดับศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งนี้ เพื่อที่โปลนด์ จะสามารถทำเงินจากมันได้" เขาสรุป
เวิลด์แบงก์คาดการณ์ว่าการฟื้นฟูยูเครน อาจต้องใช้เงินทุนกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษหน้า บางประเทศในอียู ในนั้นรวมถึงโปแลนด์ ชี้แนะให้นำสินทรัพย์ของรัฐบาลรัสเซียที่อายัดไว้ มาเป็นกองทุนสำหรับความพยายามดังกล่าว
อย่างไรก็ตามมีเสียงเตือนว่าการทำเช่นนั้นโดยปราศจากมูลเหตุทางกฎหมายอย่างชัดเจน อาจกลายเป็นแบบอย่างที่อันตรายและบั่นทอนความเชื่อมั่นด้านการลงทุนของโลกที่มีต่อยุโรป มอสโกประณามข้อเสนอนี้ว่าเป็น "การขโมย" และขู่แก้แค้นด้วยการเล่นงานการลงทุนของตะวันตกในรัสเซีย
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)