คลิปวิดีโอที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง กำลังถูกภริยาผลักหน้า ก่อนลงจากเครื่องบิน ในเวียดนาม กำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนสื่อสังคมออนไลน์ และแม้ผู้นำฝรั่งเศสพยายามกลบกระแสด้วยการบอกว่ามันเป็นแค่การ "หยอกล้อกันเล่น" แต่พวกผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาภาย ตั้งข้อสังเกตว่ามันอาจไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากพบเห็นท่าทางว่าทั้งคู่หัวเราะให้กันแต่อย่างใด
ในภาพวิดีโอตอนที่เครื่องบินของประธานาธิบดีฝรั่งเศสและบริจิต มาครง สุภาพสตรีหมายเลข 1 จอดอยู่บนรันเวย์ หลังจากเดินทางถึงเวียดนาม พบเห็นประธานาธิบดีมาครง ยืนอยู่ตรงบริเวณประตูห้องโดยสารของเครื่องบินที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งกำลังเปิดออก ระหว่างนั้น บริจิต มาครง วัย 72 ปี ได้ผลักเข้าที่ใบหน้าสามีวัย 47 ปีของเธอ จนหน้าหงาย โหมกระพือการคาดเดาต่างๆนานาว่าทั้งคู่อาจทำเลาะกัน
ต่อมา มาครง พยายามกลบกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนฝรั่งเศส บอกว่าเขาไม่ได้มีปากเสียงกัน และแค่หยอกล้อกับภรรยาเท่านั้น นอกจากนี้แล้วเขายังคร่ำครวญว่าทำไมเหตุการณ์แค่นี้ถึงกลายเป็นเรื่องใหญ่โตราวกับว่ากำลังจะเกิดหายนะกับโลก ผู้คนถึงกับคิดค้นทฤษฎีสมคบคิดต่างๆนานาขึ้นมาอธิบาย พร้อมเรียกร้องให้ทุกคนอย่าเอะอะตีโพยตีพายจนเกินเหตุ
มาครง ยังชี้ด้วยว่าภาพและปฏิกิริยาที่มีต่อเหตุการณ์นี้ ถือเป็นเครื่องเตือนใจเกี่ยวกับการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารในยุคสื่อสังคมออนไลน์ โดยเน้นว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่มา พบเห็นมีการใช้วิดีโออื่นๆ ส่งต่อเรื่องราวที่ปั่นแต่งขึ้นมาเกี่ยวกับตัวเขา เพื่อดิสเครดิตเขา และจำนวนมากของคลิปเหล่านั้น มีต้นทางมาจากรัสเซีย
ก่อนที่ประธานาธิบดีมาครง จะออกมาแก้ต่างเกี่ยวกับภาพในวิดีโอ ทางเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีรายหนึ่ง อ้างว่า "ทั้งคู่หัวเราะให้กัน ก่อนเริ่มทริป และการโต้ตอบกันนั้น แท้จริงแล้ว เป็นช่วงเวลาแห่งความใกล้ชิด"
อย่างไรก็ตาม จูดี เจมส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาภาย ให้สัมภาษณ์กับเมลออนไลน์ เชื่อว่าปฏิกิริยาระหว่างผู้นำฝรั่งเศสกับภริยา ไม่ใช่การหยอกล้อกัน "ฉันคงไม่ให้คำจำกัดความท่าทางที่เราเห็นจากภายในเครื่องบิน ว่าเป็นการล้อเล่นกันตามที่กล่าวอ้าง"
"คุณใช้มือผลักสามีของคุณอย่างแรงจนศีรษะเอียงไปด้านข้าง โดยเฉพาะเมื่อมันดูเหมือนเป็นการออกแรงผลักมากขึ้นในช่วงท้ายที่มีการสัมผัส มันไม่ควรถูกทำให้เป็นเรื่องปกติ ด้วยการอ้างว่าเป็นการล้อกันเล่น เพียงเพื่อรักษาหน้าทางการเมือง" จูดี เจมส์ ระบุ
เจมส์ ให้ความเห็นต่อว่า ไม่พบสัญญาณว่าปฏิสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นการหยอกล้อใดๆระหว่างทั้งคู่ เนื่องจากมันไม่มีเสียงหัวเราะร่วมกันตามมา ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มหรือการกระเซ้าเย้าแหย่ใดๆ และ มาครง ก็ดูเหมือนจะเอามือคลำใบหน้าตัวเอง ในลักษณะตรวจสอบว่าเป็นอะไรหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงทำให้คำกล่าวอ้างของมาครง เป็นที่น่าสงสัย
(ที่มา:เมลออนไลน์/เอ็กเพรส)