เอเอฟพี – รัสเซียและยูเครนยังคงโจมตีกันตลอดคืนวันเสาร์ (24 พ.ค.) โดยทางฝั่งเคียฟเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน และบาดเจ็บ 21 คน อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนั้นทั้งสองประเทศเดินหน้าแลกเปลี่ยนเชลยสงครามล็อตที่ 2 ตามข้อตกลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ตุรกี
เซอร์กี จูริน รองหัวหน้าส่วนบริหารงานการทหารของแคว้นคาเมลนิตสกี้ในยูเครน เผยว่า มีผู้เสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บ 5 คน และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนได้รับความเสียหายจากการโจมตีของรัสเซียเมื่อคืนวันเสาร์
ที่แคว้นเคียฟ หน่วยบริการฉุกเฉินโพสต์บนเทเลแกรมว่า “การโจมตีขนาดใหญ่เมื่อคืนวันเสาร์” ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คนและบาดเจ็บ 16 คน นอกจากนั้นยังมีชายคนหนึ่งเสียชีวิตหลังอาคารพักอาศัยแห่งหนึ่งในเมืองมิโคลาอีฟถูกโจมตีด้วยโดรน
ทีมูร์ คาเชนโก หัวหน้าส่วนบริหารงานการทหารเคียฟ เผยว่า รัสเซียส่งโดรนกว่าสิบลำเข้าไปก่อกวนภายในและรอบๆ เมืองเคียฟช่วงคืนวันเสาร์
ขณะเดียวกัน รัสเซียรายงานว่า ยิงโดรนกว่าสิบลำที่มุ่งหน้าไปทางมอสโกร่วง และสนามบินอย่างน้อย 4 แห่งในเมืองหลวงจำกัดการให้บริการ
การโจมตีเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากกองทัพยูเครนแถลงเมื่อเช้าวันเสาร์ (24 พ.ค.) ว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธทิ้งตัว 14 ลูก รวมทั้งส่งโดรน 250 ลำเข้าโจมตีเมื่อคืนวันศุกร์ (23 พ.ค.) ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 15 คน
ทางด้านกองทัพรัสเซียแถลงวันเดียวกันว่า นับจากวันอังคาร (20 พ.ค.) ยูเครนส่งโดรนและขีปนาวุธรวม 788 ชุดโจมตีรัสเซีย และโดรนหลายสิบลำที่มุ่งหน้าโจมตีมอสโกถูกสอยร่วง
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน วิจารณ์ว่า การโจมตีของรัสเซียบ่งชี้ความพยายามในการยื้อสงคราม พร้อมเรียกร้องให้พันธมิตรเพิ่มมาตรการแซงก์ชันมอสโก
อย่างไรก็ดี เซเลนสกี้ยังคาดหวังว่า ข้อตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษที่ตกลงกันที่อิสตันบูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะดำเนินต่อไป
เมื่อวันเสาร์ รัสเซียและยูเครนแลกเปลี่ยนเชลยสงครามฝ่ายละ 307 คน หลังจากแลกเปลี่ยนล็อตแรกฝ่ายละ 390 คนในวันศุกร์ และคาดว่า จะมีการแลกเปลี่ยนทั้งหมดฝ่ายละ 1,000 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดนับจากที่มีการดำเนินการมา
การสู้รบในยูเครนที่ยืดเยื้อมากว่า 3 ปีส่งผลให้รัสเซียและยูเครนคุมขังเชลยสงครามของอีกฝ่ายหลายพันคน โดยเชื่อว่า รัสเซียจับเชลยสงครามได้มากกว่ายูเครน และคาดว่า จำนวนเชลยสงครามของทั้งสองฝั่งรวมกันสูงถึง 8,000-10,000 คน
นอกจากนั้น รัสเซียยังส่งสัญญาณว่า จะเสนอเงื่อนไขข้อตกลงสันติภาพให้ยูเครนพิจารณาภายหลังการแลกเปลี่ยนเชลยศึก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความยินดีว่า การแลกเปลี่ยนเชลยศึกของรัสเซียและยูเครนอาจนำไปสู่สิ่งที่ครอบคลุมมากขึ้น
ทั้งนี้ ความพยายามของทรัมป์ในการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน ซึ่งถือเป็นความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังคงไม่ประสบความสำเร็จ แม้เขาประกาศมานานแล้วว่า จะทำให้การสู้รบยุติลงโดยเร็วก็ตาม
ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีความพยายามทางการทูตเข้มข้นขึ้น แต่เครมลินไม่มีท่าทียอมละวางข้อเรียกร้องของตนเองเพื่อยุติสงคราม โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เพิกเฉยต่อการกดดันของยุโรปที่เรียกร้องให้หยุดยิงในยูเครนโดยสิ้นเชิงและปราศจากเงื่อนไข และเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้นับหมื่นคน