รอยเตอร์ – ทากุ เอโตะ รัฐมนตรีเกษตรญี่ปุ่น ยื่นใบลาออกในวันพุธ (21 พ.ค.) หลังหลุดปากไม่เคยต้องซื้อข้าวเองเลยเพราะมีคนขนมาให้ฟรีตลอด จุดกระแสการวิจารณ์ดุเดือดจากทั้งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและสมาชิกสภา อีกทั้งทำให้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีของชิเงรุ อิชิบะ ยิ่งตกที่นั่งลำบาก
เอโตะถูกโจมตีอย่างหนักนับจากที่สื่อรายงานคำพูดของเขาระหว่างงานระดมทุนเข้าพรรคเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ว่า เขาไม่เคยต้องซื้อข้าวเองเลยเพราะบรรดาผู้สนับสนุนนำมาให้ตลอด
ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากต่างไม่พอใจคำพูดดังกล่าว เนื่องจากโกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกับปัญหาราคาข้าวแพงขึ้นเนื่องจากผลผลิตน้อยลง อีกทั้งยังมีความต้องการมากขึ้นจากการบูมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ในวันพุธ เอโตะแถลงต่อผู้สื่อข่าว หลังยื่นใบลาออกต่อสำนักนายกรัฐมนตรี โดยยอมรับว่า ตนเองกล่าวคำพูดที่ไม่เหมาะสมขณะที่ประชาชนเผชิญปัญหาข้าวแพง
ทางด้านอิชิบะได้แต่งตั้งชินจิโร โคอิซูมิ อดีตรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม เข้าคุมกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงแทนเอโตะ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นในประสบการณ์ ข้อมูลเชิงลึก และความกระตือรือร้นของโคอิซูมิในการปฏิรูปภาคเกษตรกรรมและประมง
ราคาข้าวที่แพงขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้วเป็นประเด็นที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งของญี่ปุ่นกังวลมากที่สุด หลังจากคุ้นชินกับภาวะเงินฝืดและทุกข์ทนกับค่าจ้างระดับต่ำที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อมาหลายปี แม้รัฐบาลปล่อยข้าวจากคลังสำรองฉุกเฉินออกสู่ตลาดนับจากเดือนมีนาคมเพื่อดึงราคาให้ต่ำลง แต่ส่งผลน้อยมาก
ข้อมูลเมื่อวันจันทร์ (19 พ.ค.) ระบุว่า ราคาข้าวในซูเปอร์มาร์เก็ตในช่วงหนึ่งสัปดาห์จนถึงวันที่ 11 พ.ค. ขยับขึ้นอีกครั้งเป็น 4,268 เยน (ประมาณ 970 บาท) สำหรับข้าวขนาดถุงละ 5 กก. หลังจากลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 18 สัปดาห์ และราคาที่แพงขึ้นนี้ส่งผลให้ผู้ค้าปลีกและผู้บริโภคต้องหันไปหาข้าวจากประเทศอื่นที่ราคาถูกลง
อิชิบะเคยประกาศว่า ราคาข้าวควรอยู่ที่ 3,000-3,999 เยน (ประมาณ 680-910 บาท) แต่เป้าหมายดังกล่าวจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลยกเลิกนโยบายส่งเสริมการลดการปลูกข้าวเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาที่ใช้มาตลอด 50 ปีที่ผ่านมา
ปกติแล้วเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ที่บริหารญี่ปุ่นมายาวนาน และญี่ปุ่นปกป้องตลาดข้าวด้วยการกำหนดภาษีสูงสำหรับข้าวที่เกินกว่าโควตาการนำเข้าข้าวขั้นต่ำปลอดภาษีภายใต้กฎขององค์การการค้าโลก
การลาออกของเอโตะคุกคามการกุมอำนาจของอิชิบะที่กำลังสั่นคลอนก่อนที่จะมีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในเดือนกรกฎาคม หลังจากแอลดีพีและโคเมโตะซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล สูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งก่อนกำหนดเมื่อเดือนตุลาคม
ผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายคนระบายความไม่พอใจเกี่ยวกับดรามาการเมืองล่าสุด เช่น ผู้ใช้คนหนึ่งที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตอกย้ำความจำเป็นในการถอนรากถอนโคนแอลดีพี และสำทับว่า โคอิซูมิคงไม่ได้ดีไปกว่าเอโตะ ทั้งนี้ เอโตะเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีของอิชะบะคนแรกที่ลาออก ไม่นับรวมรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง
ฮิโรชิ ชิราโตริ ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโฮเซอิในโตเกียว ชี้ว่า การลาออกของเอโตะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นับจากที่คำพูดดังกล่าวหลุดออกมา แต่การตัดสินใจตั้งรัฐมนตรีคนใหม่มาแทนหลังจากพรรคฝ่ายค้าน 5 พรรคเตรียมเสนอญัตติไม่ไว้วางใจถือเป็นการกระทำที่สายเกินไป และยิ่งตอกย้ำการขาดความเป็นผู้นำของอิชิบะ