รัฐบาลจีนประกาศจะมอบเงินสนับสนุนแก่องค์การอนามัยโลก (WHO) เพิ่มเติมอีก 500 ล้านดอลลาร์ภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า ในขณะที่หน่วยงานสหประชาชาติแห่งนี้กำลังเร่งแสวงหาแหล่งทุนอื่นๆ เพื่อมาชดเชยการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ที่เคยเป็นชาติผู้บริจาครายใหญ่ที่สุด
หลิว กั๋วจง (Liu Guozhong) รองนายกรัฐมนตรีของจีน ได้ประกาศคำสัญญาดังกล่าวที่นครเจนีวาเมื่อวานนี้ (20 พ.ค.)
“โลกกำลังได้รับผลกระทบจากลัทธิฝ่ายเดียว (unilateralism) และการเมืองแบบใช้อำนาจที่ก่อให้เกิดความท้าทายใหญ่หลวงต่อความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของโลก... พหุภาคีนิยม (multilateralism) คือหนทางอันแน่นอนที่จะช่วยแก้ไขความยากลำบากนี้” หลิว กล่าวต่อบรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุม
องค์การอนามัยโลกได้ประกาศลดงบประมาณรายจ่ายสำหรับปี 2026-2027 ลง 21% เหลือแค่ 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สืบเนื่องจากปัญหาสภาพคล่องอันเกิดจากการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจาก WHO เมื่อเดือน ม.ค. โดยกล่าวหาหน่วยงานแห่งนี้ว่า “รีดไถ” อเมริกาเกินเหตุ
ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกได้ประกาศในการประชุมสมัชชาใหญ่วานนี้ (20) ว่าจีน กาตาร์ สวิตเซอร์แลนด์ และประเทศอื่นๆ ได้ให้คำมั่นมอบเงินสนับสนุนรวมกว่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยินดีที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมสมาชิกเพิ่มเติมอีก 20% ในระยะ 2 ปีข้างหน้าเพื่อลดผลกระทบจากการสูญเสียชาติผู้บริจาครายใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา และจีนจะกลายเป็นชาติผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดแทน
ในลิสต์ของ WHO ระบุว่า สวิตเซอร์แลนด์รับปากสนับสนุนเงิน 40 ล้านดอลลาร์, สวีเดน 13.5 ล้านดอลลาร์, แองโกลา 8 ล้านดอลลาร์, กาตาร์ 6 ล้านดอลลาร์ และยังมีเงินบริจาคจากองค์กรการกุศลอื่นๆ เช่น Novo Nordisk Foundation และ ELMA Philanthropies เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ยังไม่รวมคำสัญญามอบเงินสนับสนุน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากจีน เนื่องจาก WHO ระบุว่ายังอยู่ระหว่างการคำนวณ
ที่มา: รอยเตอร์