รัสเซียเมื่อวันจันทร์(19พ.ค.) แบนองค์การนิรโทษกรรมสากล ด้วยการจัดให้อยู่ในบัญชี "องค์กรที่ไม่พึงปรารถนา" โทษฐานที่ให้การสนับสนุนยูเครนและต่อต้านรัสเซีย ความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงประณามจากเอ็นจีโอกลุ่มนี้ ที่ประกาศกร้าวว่าจะเพิ่มความพยายามเป็นเท่าตัวในความพยายามแฉการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่างๆโดยรัสเซีย
องค์กรนิรโทษกรรมสากลก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1961 และมีสำนักงานใหญ่ในลอนดอน ได้เคลื่อนไหวรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ในนั้นรวมถึงในนามของบุคคลที่ถูกคุมขังหรือถูกจำกัดทางร่างกายเพียงเพราะความเชื่อทางการเมือง, ศาสนา หรือความเชื่อที่ยึดมั่นในมโนธรรมอื่นใด อาทิการยึดมั่นในความแตกต่างทางเชื้อชาติ, เพศ, สีผิว, ภาษา, เชื้อชาติหรือสังคม, สถานะทางเศรษฐกิจ และรสนิยมทางเพศ
อัยการสูงสุดของรัสเซีย บอกว่าสำนักงานใหญ่ในลอนดอนขององค์การนิรโทษกรรมสากล เป็นศูนย์กลางของการเตรียมการโครงการต่อต้านหรือเกลียดชังรัสเซียต่างๆทั่วโลก และกล่าวหาองค์กรแห่งนี้ว่าให้การสนับสนุนในนามของยูเครน ที่กำลังทำศึกสงครามกับรัสเซีย
ทั้งนี้อัยการรัสเซียระบุว่าองค์การนิรโทษกรรมสากล "ทำทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อยกระดับความเข้มข้นของการเผชิญหน้าทางทหารในภูมิภาค" ขณะเดียวกันก็กล่าวอ้างความชอบธรรมให้อาชญากรรมต่างๆที่ก่อโดยยูเครน และหาทางโดดเดี่ยวรัสเซีย
"ถ้าวังเครมลินแบนคุณ มันหมายความว่าคุณได้ทำอะไรบางอย่างในสิ่งที่ถูกต้อง" แอกเนส กาลามาร์ด เลขาธิการของนิรโทษกรรมสากลกล่าวในถ้อยแถลง "การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามอย่างกว้างขวางของรัฐบาลรัสเซีย ในความพยายามปิดปากฝ่ายต่อต้านและโดดเดี่ยวภาคประชาสังคม"
"เราจะเพิ่มความพยายามอีกเท่าตัวในการเปิดโปงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงของรัสเซีย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ" กาลามาร์ดกล่าว "นิรโทษกรรมสากลจะไม่มีวันยอมแพ้หรือล่าถอยจากการต่อสู้เพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในรัสเซีย หรือที่อื่นๆ"
เป็นปกติที่รัสเซียจะกำหนดให้องค์กรต่างๆที่พวกเขามองว่าบ่อนทำลายความมั่นคงแห่งชาติ เป็น "องค์กรไม่พึงปรารถนา" โดยการขึ้นบัญชีดังกล่าวกำหนดบทลงโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี สำหรับพลเมืองชาวรัสเซียที่ทำงานร่วมกับหรือให้เงินสนับสนุนกลุ่มต่างๆที่อยู่ในบัญชีนี้
ที่ผ่านมา องค์กรต่างๆที่ถูกแบนในฐานะองค์กรไม่พึงปรารถนา มีทั้งองค์กรกระจายเสียง Radio Free Europe/Radio Liberty และองค์กรสิ่งแวดล้อมนานาชาติอย่างกรีนพีซ
รัสเซีย ระบุว่ากลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายของตะวันตก มีความลำเอียงและประเมินรัสเซียอย่างไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง เพิกเฉยต่อเหตุล่วงละเมิดในตะวันตก และเป็นหมากเบี้ยของตะวันตก ในการสงครามข้อมูลข่าวสารกับมอสโก
(ที่มา:รอยเตอร์)