เอเอฟพี - ไล่ ชิง เต๋อประกาศในวาระครบรอบ 1 ปีในตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน พร้อมคุยกับจีนอย่างเท่าเทียม ควบคู่กับการเตรียมพร้อมสำหรับสงครามเพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม และเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ
หลังจากให้สัญญาว่า จะยืนหยัดรับมือจีนและปกป้องประชาธิปไตยระหว่างทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว ไล่แถลงในวันอังคาร (20 พ.ค.) ว่า ยินดีเจรจากับจีนอย่างเท่าเทียมและมีเกียรติ แต่ขณะเดียวกันไทเปจะต้องเสริมสร้างแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศต่อไป และจะร่วมมือกับพันธมิตรนานาชาติเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงครามเพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม และบรรลุเป้าหมายในการสร้างสันติภาพ
จีนที่อ้างว่า ไต้หวันเป็นดินแดนของตนและขู่ใช้กำลังเข้าผนวกนั้น จัดการซ้อมรบขนาดใหญ่รอบเกาะไต้หวันหลายครั้งนับจากที่ไล่เข้ารับตำแหน่ง และเมื่อวันจันทร์ (19 พ.ค.) หน่วยยามฝั่งของไต้หวันเตือนว่า จีนอาจใช้ “สงครามด้านกระบวนการคิด” เพื่อทำลายขวัญและกำลังใจของประชาชนในช่วงครบรอบรับตำแหน่งปีแรกของไล่
นอกจากนั้น ในวันอังคาร เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งไต้หวันยังจับกุมชาวจีน 2 คนที่พยายามลอบเข้าไปในหมู่เกาะจินเหมินของไต้หวัน
ขณะที่ไต้หวันถูกกดดันจากวอชิงตันให้ย้ายโรงงานไปยังอเมริกามากขึ้น และลดการเกินดุลการค้านั้น ไล่กล่าวว่า ไต้หวันจะไม่หวังพึ่งพิงสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพียงอย่างเดียว แต่จะเพิ่มความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจด้วยการกระจายตลาดและกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศ
เขายังประกาศแผนจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติเพื่อส่งเสริมโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับขนาดของกองทุน
ทั้งนี้ ช่วงปีแรกของการรับตำแหน่ง ไล่ต้องเผชิญความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศจากการที่พรรคก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านสำคัญและกุมอำนาจในสภา พยายามขัดขวางนโยบายของรัฐบาล
เคเอ็มทีระบุว่า ไล่เป็น “เผด็จการ” ที่กำลังผลักดันให้ไต้หวันใกล้เข้าสู่สงครามกับจีน ขณะที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ของไล่ โจมตีว่า เคเอ็มทีเป็นเครื่องมือของปักกิ่ง
ไล่กล่าวเมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลต้องการเสริมสร้างความร่วมมือในหมู่พรรคการเมืองต่างๆ และทีมความมั่นคงของตนจะเริ่มให้ข้อมูลสรุป “ที่สำคัญ” แก่ฝ่ายค้าน
ด้านเคเอ็มทีระบุว่า ความท้าทายของไต้หวันไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดการบรรยายสรุปเพียงครั้งเดียว แต่ยอมรับว่า ไล่พยายามดำเนินมาตรการเล็กๆ น้อยๆ เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง พร้อมตั้งความหวังว่า ไล่จะกล้าหาญมากขึ้นและดำเนินมาตรการขนาดใหญ่เพื่อหยุดการกลั่นแกล้งทางกฎหมายและความเกลียดชังทางการเมือง
นักวิเคราะห์มองว่า คำแถลงล่าสุดของไล่มีความยับยั้งชั่งใจมากกว่าครั้งที่ผ่านๆ มาที่ถูกปักกิ่งวิจารณ์อย่างหนัก
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของมูลนิธิมติมหาชนของไต้หวันที่จัดทำขึ้นในเดือนเมษายนพบว่า คะแนนนิยมในตัวไล่ลดลงเหลือ 45.9% จาก 58% เมื่อเกือบ 1 ปีที่แล้ว ขณะที่คะแนนการไม่ยอมรับเพิ่มขึ้นเป็น 45.7% สูงสุดนับจากเข้ารับตำแหน่ง โดยสาเหตุมาจากมาตรการรับมือภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ของรัฐบาลของไล่ และการดำเนินการทางกฎหมายของพรรคดีพีพีเพื่อปลดสมาชิกรัฐสภา 30 คนของเคเอ็มทีก่อนหมดวาระการทำงาน ทั้งนี้ ดีพีพีต้องการเพียง 6 ที่นั่งเพื่อฟื้นอำนาจการควบคุมสภา