คณะลูกขุนตัดสินเมื่อวันจันทร์ (19 พ.ค.) ว่า นายพลเรือ 4 ดาวเกษียณอายุผู้หนึ่ง ที่เคยดำรงตำแหน่งนายทหารอาวุโสสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของกองทัพเรือ มีความผิดจริงฐานทุจริตรับสินบน จากการช่วยเหลือทำให้บริษัทแห่งหนึ่งได้สัญญาทำงานให้รัฐบาล เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่ตัวเขาเองได้งานเงินเดือนแพงระยับในบริษัทแห่งนั้นภายหลังออกจากราชการ
ตามคำฟ้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯระบุว่า พลเรือเอกโรเบิร์ต เบิร์ค ในตอนที่ยังรับราชการอยู่ ได้สั่งให้พวกเจ้าหน้าที่ใต้บังคับบัญชา มอบสัญญาจ้างทำงานมูลค่า 355,000 ดอลลาร์แก่บริษัทแห่งหนึ่ง ต่อมาเขาได้ไปทำงานที่บริษัทแห่งนั้นในตำแหน่งที่ได้รับเงินเดือนค่าตอบแทนปีละ 500,000 ดอลลาร์ ภายหลังเกษียณอายุจากกองทัพเรือในปี 2022
เขายังพยายามเกลี้ยกล่อมโน้มน้าวให้นายทหารระดับท็อปผู้หนึ่งมอบสัญญาจ้างทำงานอีกฉบับหนึ่งแก่บริษัทแห่งนั้น ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ
ตามบันทึกของศาล คณะลูกขุนพบว่า เขามีความผิดในหลายๆ กระทง ทั้งติดสินบน, แสดงพฤติการณ์ที่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อผลประโยชน์ทางการเงินของบุคคล, และปิดบังข้อเท็จจริงทางด้านพัสดุ
สำหรับการระวางโทษความผิดเหล่านี้ของเบิร์ค ศาลนัดหมายตัดสินกันในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งก็เป็นเดือนเดียวกับที่ ซีอีโอร่วม 2 รายของบริษัทให้บริการทางเทคโนโลยี ที่มี่ชื่อว่า เน็กซ์ จัมป์ มีกำหนดจะต้องขึ้นศาลในคดีที่เกี่ยวข้องกันคดีหนึ่ง วอชิงตันโพสต์รายงาน
จากคำตัดสินเมื่อวันจันทร์ (19) ทำให้เบิร์คกลายเป็นนายทหารอาวุโสที่สุดซึ่งถูกตัดสินว่ากระทำความผิดจากการประกอบอาชญากรรมขณะรับราชการอยู่ในกองทัพสหรัฐฯในยุคสมัยหลังๆ นี้
ตอนที่ยังอยู่ในกองทัพเรือ เบิร์คเคยดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการกองเรือที่ 6 ของสหรัฐฯ, ผู้บังคับการเรือดำน้ำกลุ่ม 8, และประธานบุคลากรทางนาวี อันเป็นตำแหน่งที่เขาครองในเวลาเดียวกับมีตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งในสหรัฐฯใช้ชื่อตำแหน่งว่า รองผู้บัญชาการยุทธการทางนาวี (vice chief of naval operations)
กองทัพเรือสหรัฐฯนั้นเผชิญกับปัญหาทุจริคอร์รัปชั่นคดีอื่นๆ ด้วยในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยที่ฉาวโฉ่ที่สุดคือคดีที่เกี่ยวข้องกับ ลีโอนาร์ด ฟรานซิส หรือที่รู้จักกันในฉายาว่า “ลีโอนาร์ด อ้วน” ซึ่งจ่ายสินบนให้แก่พวกนายทหารเรือ รวมเป็นมูลค่ามากกว่า 500,000 ดอลลาร์ในรูปของเงินสด และการจัดหาโสเภณี, การเดินทางชั้นเฟิร์สต์คลาส, การพักอาศัยในโรงแรมหรู, และมื้ออาหารอลังการ์เว่อร์วัง
ฟรานซิส ถูกตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 15 ปีในเดือนพฤศจิกายน 2024 ภายหลังหลบหนีจากการถูกกักกันตัวอยู่แต่ภายในที่พัก และเดินทางไปยังเวเนซุเอลา ก่อนเดินทางกลับมาสหรัฐฯในฐานะนักโทษที่ถูกแลกเปลี่ยนในปีถัดมา
จากการทำความตกลงรับสารภาพกับทางอัยการ ฟรานซิสได้ให้ข่าวสารข้อมูลอย่างละเอียดแก่ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนของรัฐบาล ซึ่งทำให้นายทหารเรือยศสูงๆ จำนวนหนึ่งถูกฟ้องร้องและถูกตัดสินว่ากระทำความผิด