xs
xsm
sm
md
lg

เอ็นวิเดียจับมือทีเอสเอ็มซี-ฟ็อกซ์คอนน์ พัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์เอไอไต้หวัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - เจนเซน หวง นายใหญ่เอ็นวิเดีย ประกาศร่วมกับฟ็อกซ์คอนน์ และทีเอสเอ็มซี รวมถึงทางการไทเป สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์เอไอรุ่นแรกของไต้หวันรองรับโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศเอไอ

บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่จากทั่วโลกเดินทางไปร่วมงานคอมพิวเท็กซ์ ซึ่งเป็นงานเอ็กซ์โปไฮเทคของไต้หวัน ขณะที่อุตสาหกรรมนี้กำลังเผชิญผลกระทบจากภาษีศุลกากรของอเมริกาและปัญหาห่วงโซ่อุปทานชะงักงัน

หวงประกาศเมื่อวันจันทร์ (19 มี.ค.) หรือหนึ่งวันก่อนที่งานคอมพิวเท็กซ์จะรูดม่านเปิดเวทีว่า เอ็นวิเดียจะทำงานร่วมกับฟ็อกซ์คอนน์ และทีเอสเอ็มซี สองบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของเกาะมังกรน้อย รวมถึงทางการไทเป สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) รุ่นแรกของไต้หวัน เพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศเอไอ และสำทับว่า การมีโครงสร้างพื้นฐานเอไอระดับเวิลด์คลาสในไต้หวันเป็นสิ่งสำคัญอย่างแท้จริง

งานคอมพิวเท็กซ์ที่จัดขึ้นเป็นเวลา 4 วันถูกคาดหมายว่า จะดึงดูดบริษัทคอมพิวเตอร์และชิปจากทั่วโลกไปยังไต้หวัน ซึ่งอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการผลิตทุกสิ่งตั้งแต่ไอโฟนไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์ที่รันแอปแชตจีพีที

ไต้หวันผลิตชิปขั้นสูงสุดของโลกมากมายหลายรุ่น ซึ่งรวมถึงชิปที่จำเป็นสำหรับการวิจัยและแอปพลิเคชันเอไอทรงพลังที่สุด

ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงจากควอลคอมม์, มีเดียเทค และฟ็อกซ์คอนน์ จะขึ้นกล่าวบนเวทีคอมพิวเท็กซ์ โดยประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างยิ่งคือความคืบหน้าในการผ่องถ่ายเอไอจากศูนย์ข้อมูลเข้าสู่แล็ปท็อป โรบ็อต และรถยนต์

บริษัทวิจัยเคาน์เตอร์พอยต์ระบุว่า คอมพิวเท็กซ์จะเป็นเวทีแสดงขีดจำกัดใหม่ที่มีตั้งแต่ระบบเอไอที่จะเปลี่ยนอุปกรณ์ส่วนบุคคลเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นและสามารถดำเนินการและตัดสินใจโดยอัตโนมัติ จนถึงการนำพลังของเอไอมาใช้กับหุ่นยนต์หรืออุปกรณ์ต่างๆ

พอล หยู ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของสถาบันวิจัยแนวโน้มตลาดวิโทโลจี ชี้ว่า ช่วงปีนี้ถึงปีหน้าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านจากการเทรนโมเดลเอไอสู่แอปพลิเคชันที่ทำกำไรได้ หลังจาก 2 ปีครึ่งที่ผ่านมามีการทุ่มทุนมหาศาลที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยีเอไอรุดหน้าอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน อิริก สมิธ จากแพลตฟอร์มเทคอินไซต์ กล่าวว่า แม้ภาษีศุลกากรของอเมริกาเป็นปัญญาใหญ่สุดที่อุตสาหกรรมชิปต้องเผชิญ แต่บริษัทส่วนใหญ่จะไม่กล่าวถึงประเด็นนี้โดยตรงเนื่องจากสถานการณ์ยังไม่แน่นอนอย่างมาก

เดือนที่ผ่านมา วอชิงตันประกาศตรวจสอบการนำเข้าเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งอาจทำให้อุตสาหกรรมนี้กลายเป็นเป้าหมายของมาตรการทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และการขึ้นภาษีที่อาจส่งผลลบรุนแรง

นับจากเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ทรัมป์ขู่รีดภาษีประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอเมริกาหลายแห่ง เพื่อบีบให้บริษัทในประเทศเหล่านั้นเข้าไปตั้งโรงงานผลิตในอเมริกา

กรณีไต้หวันนั้นประกาศเพิ่มการลงทุนในอเมริกาเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกรีดภาษีศุลกากร 32% ถึงกระนั้นก็ยังมีความกังวลว่า ไทเปอาจสูญเสียตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมชิปที่เรียกว่า “โล่ซิลิคอน” ที่ปกป้องไต้หวันจากการรุกรานหรือการปิดล้อมของจีน และเป็นแรงจูงใจให้อเมริกายื่นมือคุ้มครอง

ทีเอสเอ็มซี ผู้รับจ้างผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของไต้หวัน เปิดแผนอัดฉีดเงินทุนเพิ่มอีก 100,000 ล้านดอลลาร์ในอเมริกา จากที่ประกาศไปแล้ว 65,000 ล้านดอลลาร์

นอกจากนั้น สัปดาห์ที่แล้ว โกลบัลเวเฟอร์ที่เป็นผู้จัดหาเวเฟอร์ซิลิคอนให้ทีเอสเอ็มซี ยังประกาศเพิ่มการลงทุนในอเมริกา 4,000 ล้านดอลลาร์ระหว่างพิธีเปิดโรงงานผลิตเวเฟอร์ในเทกซัส อย่างไรก็ตาม หวงยังมองแง่ดีว่า ไต้หวันจะยังคงเป็นศูนย์กลางระบบนิเวศเทคโนโลยีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น