xs
xsm
sm
md
lg

PLANET#3 ส่อง 3 ธุรกิจ‘เมแกน’ แป้กรวด: ‘With Love, Meghan’ หลุดเป้า – ‘As Ever’ ขายอยู่ 1 ชม. ก็ไบ๊บาย - Podcast ไร้เงาซุปตาร์ระดับโลก เรตติงจึงซบเซา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดัชเชสแป้กแห่งเรตติงหายนะ จะเป็นฉายาติดตัวเมแกน มาร์เคิล ไปทั้งชีวิต ขณะที่ความล้มเหลวของธุรกิจทั้ง 3 โครงการของเธอในจตุรมาสแรกของปี 2025 ก็เป็นความอับอายและความเสียหน้าซึ่งจะหลอนตัวเองไปอีกนาน
ในเมื่อ “ปรินซ์แฮร์รี” และชาวคณะไม่สามารถได้รับอานิสงส์จากเงินบริจาคขององค์การกุศลเซนเทบัลลี Sentebale แห่งแอฟริกาได้แล้ว และทรงลาออกพร้อม 5 ทรัสตีในสายของพระองค์เมื่อสัปดาห์แรกของเมษายน 2025 พระครอบครัวซัสเซกซ์จึงตั้งความหวังกับความสำเร็จจากธุรกิจ 3 โครงการของ “ดัชเชสเมแกน” ซึ่งเปิดตัวฟู่ฟ่าหรูหราไล่ตามกันไปในห้วงจตุรมาสแรกของปีมะเส็ง สามสี่วีค-ปล่อย 1 โครงการ ประมาณว่าจะให้ความสำเร็จในแต่ละห้วง ไปหนุนเนื่องสู่กันสามห้วงซ้อนๆ อลังการเอิกเกริกสุดๆ ไปเลย

อย่างไรก็ตาม!! ดัชเชสเมแกนต้องประสบกับ “ความล้มเหลวหายนะวายป่วง” ของทั้ง 3 ธุรกิจต่อเนื่องระนาว โดยถูกวิจารณ์ยับเยินจนกระทั่งแป้กสนิทในเดือนมีนาคม เสร็จแล้วก็ไปถูกวิจารณ์ยับเยินต่อแล้วแป้กซ้ำซากในต้นเดือนเมษายน ก่อนจะถูกวิจารณ์ยับเยินและแป้กทิ้งทวนในปลายเดือนเมษายน จนครบลูป ตามการประเมินสรุปในสกู๊ปของ DailySoapDish.com เดลีโซปดิช เว็บไซต์ข่าวบันเทิงแนวแฉแซ่บ ‘รัก ชู้ บู๊กระอัก หักเหลี่ยมโหด’ ซึ่งวิเคราะห์ชะตาธุรกิจของเมแกนด้วยคำว่า Catastrophic Failures อันมีองค์ประกอบดังนี้
(1)ซีรีส์ไลฟ์สไตล์และการครัว “With Love, Meghan” ที่ผลิตเพื่อป้อนแก่ Netflix มียอดการสตรีมไปรับชม ต่ำกว่าเป้าสาหัส หลังจากที่ซีรีส์นี้โดนพิษสงคำวิพากษ์วิจารณ์ที่กระชากหน้ากากของดัชเชสเมแกนแทบจะทุกแง่มุม ทำเอาบิ๊กๆ ของ Netflix ช็อก เพราะนึกว่าจะโดนถล่มเฉพาะในอังกฤษ ปรากฏการณ์จริงคือ นักวิจารณ์และสื่อในสหรัฐอเมริกาก็วิพากษ์ฟาดอย่างโหด โดยหลายค่ายข่าวถึงกับรายงานบรรยากาศโครมครามดั่งฟ้าผ่าฟาดเปรี้ยงด้วยคำว่า Savage Reviews

(2)การผลิตและขายขนม แยม น้ำผึ้ง และชาสมุนไพร ยี่ห้อ “As Ever” มีผลการขายดี แบบแปลกๆ ขายอยู่ 1 ชั่วโมง แล้วยุติการขาย โดยดัชเชสเมแกนโอ่ว่าขายได้หมดเกลี้ยง แล้วปิดเว็บเงียบสงัดมาถึงปัจจุบัน คือกว่าเดือนครึ่งแล้ว ทั้งนี้ As Ever ซึ่งเปิดตัวหลัง With Love, Meghan ประมาณหนึ่งเดือนก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร้ความปรานีละม้ายกับผลงานซีรีส์ ซึ่งรวมถึงการวิจารณ์อย่างสุดโหดของทีม Femail ของค่ายเดลิเมลที่ใช้คำว่า “นี่มันโกงกันอย่างขนานใหญ่” เรื่องนี้ต้องจับตารอดูว่า Netflix ซึ่งร่วมด้วยช่วยเดอะซัสเซกซ์อยู่ จะได้รับสินค้า As Ever ไปขายที่ร้านรวงต่างๆ ของ Netflix ในอนาคตอันใกล้นี้หรือไม่

(3)ซีรีส์พอตแคสต์ Confessions of a Female Founder ที่จัดทำร่วมกับค่ายเลมอนาดา Lemonada Podcast อันเป็นทอล์กโชว์สัปดาห์ละหนึ่งเอพพิโซด รวม 8 อีพี ทั้งนี้ดัชเชสเมแกนประกาศโฆษณาว่า จะเปิดเผยวิธีทะยานสู่บัลลังก์มหาเศรษฐีพันล้าน (ที่คุณเธอก็ทำไม่ได้) ผ่านการแชร์ประสบการณ์ตรงของนักธุรกิจหญิงผู้ไปถึงความสำเร็จได้แล้ว กระนั้นก็ตาม ธุรกิจตัวนี้ก็แป้ก เข็นเรตติงไม่ไหวเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ไม่สามารถเชิญซูเปอร์สตาร์ไปเข้ารายการได้สักราย เดลีโซปดิชรายงาน

เดลีโซปดิชดอทคอม (ซึ่งใช้คำว่า Catastrophic วินาศวายป่วง ในการรายงานถึงความล้มเหลวของดัชเชสเมแกน) ได้เล่าไว้ถึงตอนที่ดัชเชสไปให้สัมภาษณ์สดบนเวที Time 100 Summit เมื่อ 24 เมษายน 2025 ว่า

เธอออกเนื้อออกตัวยอมรับอย่างเก๋ไก๋ว่าเธอทำโครงการทั้ง 3 นี้ผิดพลาด เพราะเธอพยายามจะเปิดตัวทุกโครงการออกมาในห้วงเดียวกัน

“สิ่งที่ดัชเชสเมแกนดูเหมือนจะไม่เข้าใจ คือ ผู้คนเข้าไปดูโชว์ของเธอ เพียงเพื่อจะได้เห็นกับตาว่า มันเลวร้ายมากมายดั่งที่บรรดานักวิจารณ์พูดถึงจริงหรือ สารพันรีวิวที่ With Love, Meghan ได้รับ ล้วนแต่เจ็บแสบแบบสุดๆ และผลิตภัณฑ์ As Ever ของเธอก็ถูกกระหน่ำอย่างไร้ความปรานี ความล้มเหลวทางธุรกิจของดัชเชสเมแกน ถูกฟาดกลับและเย้ยหยันกันระนาว” เดลีโซปดิชดอทคอม สรุปความล้มเหลวของพระชายาแห่งปรินซ์แฮร์รี ไว้อย่างนั้น

มองนิ้วจับมีดหั่นหัวหอม ก็รู้ทักษะและฝีมือ: ความชำนาญขนาดนี้ ยังกล้าจะออกสื่อแนะนำให้แม่บ้านทั้งหลายยกระดับมื้ออาหารให้เหนือชั้นขึ้นมา เดลิเมลออนไลน์รายงานคำวิจารณ์ของนักรีวิว ส่วนเดอะการ์เดียนรายงานว่าในอีกมุมหนึ่งว่า ทักษะเก้ๆ กังๆ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญส่ายหน้า และแล้วถ้อยคำของนักรีวิวซึ่งการ์เดียนนำไปพาดหัวข่าว คือ ดุเดือดสุดๆ อันได้แก่ “gormless” งี่เง่าไม่ประสีประสากับสิ่งที่ทำอยู่  ยิ่งกว่านั้น ปอยผมแผงใหญ่ที่แข็งกระด้างดูหงิกงอ เป็นปมที่ถูกวิจารณ์ไม่ใช่น้อยๆ ว่าเข้าครัวทำอาหารด้วยเส้นผมเหล่านี้ดูน่ารังเกียจและไม่อนามัยอย่างยิ่ง

พิษสงจากการที่ถูกนักวิจารณ์ นักรีวิว สื่อมวลชน ตลอดจนมหาชนชาวเกรียนคีย์บอร์ด กระชากหน้ากากในสารพัดแง่มุม เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ธุรกิจทั้งสามโครงการของดัชเชสเมแกนไม่ได้กระแสตอบรับมากมายสมกับที่โปรโมทโฆษณาไว้ ในการนี้เมื่อดัชเชสไปให้สัมภาษณ์สดบนเวที Time 100 Summit เมื่อ 24 เมษายน 2025 เธอออกเนื้อออกตัวยอมรับว่าเธอทำโครงการทั้ง 3 นี้ผิดพลาด เพราะเธอพยายามจะเปิดตัวทุกโครงการออกมาในห้วงเดียวกัน
(1/3) เจาะลึก “ชะตาแป้ก” ของซีรีส์ With Love, Meghan เรตติงหลุดเป้า ทำเอาบรรดานายใหญ่ Netflix ป่วนระรัว

“ดัชเชสแป้กแห่งเรตติงหายนะ” คือฉายาใหม่ของดัชเชสเมแกนที่กระหึ่มในเดือนมีนาคม 2025 เดือนแห่งการเปิดตัวซีรีส์ With Love, Meghan ซึ่งดัชเชสนำแสดงตลอดเรื่องและอำนวยการผลิตเองทั้งหมด เพื่อป้อนแก่ Netflix แต่ด้วยความที่ซีรีส์ทั้ง 8 อีพีมีวาระซ่อนเร้นส่วนตัวของเธอหลายประการ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความไม่โอเคที่ผู้คนมองออก เธอจึงต้องประสบกับปฏิกิริยาสุดโหด กล่าวคือ สารพัดนักวิจารณ์แห่กันออกมาสับเละยับเยิน แม้แต่ ‘วาไรตี’ ไบเบิลแห่งวงการสื่อบันเทิงก็กรีดเข้าไปในดีเอ็นเอหลงตัวเองและฟุ้งซ่านตื้นเขินของเธอ

ความแป้กและสถานการณ์หายนะดังกล่าวนั้น คนวงใน “ระดับลึกและสูง” ของ Netflix ออกมายอมรับกับสื่อเองในทันทีที่ With Love, Meghan เปิดตัวครบสัปดาห์


โดย เมแกน มาร์เคิล เสียหน้าสาหัสเมื่อมีการเฉลยข้อมูลออกมาจากวงในลึกๆ ของ Netflix ว่า With Love, Meghan ซีรีส์ 8 อีพีแนวไลฟ์สไตล์ทำครัว จัดปาร์ตี และรับแขก นั้น “เป็นโปรเจกต์แป้ก” ทำเงินได้ห่างเป้าอย่างน่ากุมขมับ

ในท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มอื้ออึงทั้งในฟากอเมริกา จดจนฝั่งอังกฤษ และในสถานการณ์แห่งคะแนนการรีวิวโดยท่านผู้ชมปรากฏออกมาแค่ 1 ดาวเท่านั้น บางบิ๊กของค่ายเน็ตฟลิกซ์ปล่อยข้อมูลกระซิบบ่นผ่านดิเอ็กซ์เพรส สื่อยักษ์จอมอิทธิพลของอังกฤษ เมื่อจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2025 ว่า เสียใจที่ไปจ่าย 110 ล้านดอลลาร์ ให้แก่ดัชเชสเมแกนและดยุกแฮร์รี เจ้าชายพระราชโอรสแห่งกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 เพราะเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา รายได้จากผลผลิตของเดอะซัสเซกซ์ยังไม่สามารถสร้างกำไรให้แก่บริษัท

ซีรีส์ With Love, Meghan ของดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ไม่ได้กระแสตอบรับที่ดีจากท่านผู้ชมทั้งสองฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติด ดิเอ็กซ์เพรสอธิบายข่าวไว้อย่างนั้น พร้อมรายงานว่านับแต่ที่เปิดให้สตรีมดูกันได้ ดัชเชสถูกกระหน่ำด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างท่วมท้น

แหล่งข่าววงในของ Netflix เปิดเผยกับดิเอ็กซ์เพรสว่า With Love, Meghan ไม่ประสบความสำเร็จเลย ไม่ว่าจะในด้านรีวิว หรือด้านรายได้

“ไม่ว่า Netflix จะพยายามช่วยอย่างมากมาย With Love, Meghan ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะในด้านรีวิว หรือด้านรายได้ ซีรีส์นี้ถูกนักวิจารณ์ทั้งหลายทั่วโลกเล่นงานอย่างโหดร้าย แน่ล่ะมันก็มีรีวิวที่ไม่แรงนักโผล่ออกมาบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ซีรีส์นี้เจอกระแสตอบรับที่ย่ำแย่

“ดัชเชสเมแกนกับกลไกด้านพีอาร์ของ Netflix พยายามจะฉาบภาพหรูหราปิดทับความล้มเหลว โดยให้ดัชเชสโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่าโชว์ของเธอฝ่าขึ้นถึงตารางท็อป10 ได้ แต่มันก็จะร่วงหลุดออกมาอย่างรวดเร็วครั้งแล้วครั้งเล่า แม้แต่รายการ SAG Awards ซึ่งเริ่มสตรีมในเดือนกุมภาพันธ์ ยังสามารถเกาะติดท็อป10 โลกได้อย่างต่อเนื่องดีทีเดียว แต่โชว์ของเมแกนคือหลุดหาย มองหาไม่เห็นเลย”
ดิเอ็กซ์เพรสถอดคำพูดของแหล่งข่าววงในระดับลึกและสูงรายดังกล่าวไว้อย่างนั้น

แหล่งข่าวเปิดเผยข้อมูลเปรียบเทียบในส่วนของเม็ดเงินที่ Netflix จ่ายแก่เดอะซัสเซกซ์ กับส่วนของรายได้ที่รับเข้ามาว่า ยังไม่ถึงระดับสร้างกำไรให้แก่บริษัท ทั้งนี้ ดิเอ็กซ์เพรสถอดคำพูดของแหล่งข่าวออกมาดังนี้

“ปัญหาใหญ่ที่ Netflix เผชิญอยู่คือบริษัทจ่ายให้ปรินซ์แฮร์รีกับเมแกนมากเกินไปอย่างเหลือเกิน แล้วบริษัทยังไม่ได้รับกำไรเลย

“อดีตสมาชิกพระราชวงศ์คู่นี้ได้รับไปมากกว่า 110 ล้านดอลลาร์ แต่ที่ผ่านมา เพิ่งจะผลิตผลงานได้ 3 ซีรีส์ ซีรีส์ละ 1 ซีซัน รวม 18 อีพีเท่านั้น เฉลี่ยเท่ากับประมาณ อีพีละ 6 ล้านดอลลาร์

“คุณควรจะใช้จ่าย 6 ล้านดอลลาร์ต่อหนึ่งซีรีส์ แต่จะมาใช้จ่ายขนาดนี้ต่อหนึ่งอีพีน่ะ มันล้นเกินงบไปอย่างมหาศาลน่าเกลียด ดังนั้น Netflix ก็ต้องเข็นให้ปรินซ์และดัชเชสเร่งผลิตผลงานออกมาให้มากๆ หรือไม่อย่างนั้น คงต้องยอมตัดขาดทุนแล้ววิ่งหนี”

ปมความล้มเหลวของ With Love, Meghan บนแพลตฟอร์ม Netflix ถูกสื่อมวลชนมากมายนำไปขยี้ รวมถึง สกายนิวส์เอยู สื่อยักษ์จอมอิทธิพลของออสเตรเลีย จัดทำคลิปรายงานในหัวข้อ ‘Unintentionally funny’: Meghan Markle’s Netflix series ‘fall completely flat’ หรือก็คือ ดูตลกโดยไม่ได้ตั้งใจ ซีรีส์ของเมแกน มาร์เคิล บนเน็ตฟลิกซ์ล้มเหลวอย่างแป้กโดยสมบูรณ์
ซีรีส์ “With Love, Meghan” เป็นโชว์ไลฟ์สไตล์การทำครัว จัดปาร์ตี และเอนเตอร์เทนแขก โดยในแต่ละเอพพิโซดจากทั้งหมด 8 อีพี ดัชเชสเมแกนเชิญแขกผู้มีชื่อเสียงและเพื่อนๆ มาเยือนคฤหาสน์บ้านสวน ณ ถิ่นมอนเตซิโต มาทำอาหารด้วยกัน ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน ทั้งนี้เดอะซันยูเอสระบุว่าเมแกนได้แขกผู้มีชื่อเสียงจากแวดวงเซเลบริตีชั้นรองๆ ซึ่งผิดแผกลิบลับกันซีรีส์สนทนาที่ผลิตสำหรับพอดแคสต์อาร์คีไทป์ส ซึ่งล้วนแต่เป็นซูเปอร์เซเลบริตีระดับโลกอย่าง เซเรนา วิลเลียมส์ ไปจนถึงมาราย แครีส์

แขกรับเชิญระดับเซเล็บเบอร์รองๆ ที่ดัชเชสเมแกนเชิญมาเข้าฉากได้ มีรายที่เด่นที่สุด คือ “มินดี้ คาลลิ่ง” ซึ่งประสบความสำเร็จในฐานะนักเขียนบท นักแสดง นักพูดสุดฮามุกตรึม ต่อด้วย “เทรซี รอบบินส์” นักออกแบบแฟชั่นและศรีภรรยาของซีอีโอแห่งพาราเมาท์พิกเจอร์ แอนด์ นิกเคอโลเดียน และ “วิกทอเรีย แจ๊กสัน” เจ้าของกิจการเครื่องสำอาง นอกจากนั้น ยังมี “อบิเกล สเปนเซอร์” เพื่อนนักแสดงยุคซีรีส์ Suits พร้อมกันนี้ เมแกนยังมีแขกรับเชิญเป็นเชฟคนดังของลอสแอนเจลิส เช่น “รอย ฉอย” กับ “อลิซ วอเตอร์ส”

ด้วยความที่มีการโหมโฆษณาโม้มอยไว้มากมาย ว่าจะมีคอนเทนต์ทรงคุณค่าต่างๆ ได้แก่
*ซีรีส์นี้จะเป็นโชว์สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ท่านผู้ชม
*โดยผนวกเอาไอเดียฮาว-ทูที่นำไปปฏิบัติได้จริง
*มาผสานกับบทสนทนาแบบเปิดใจในระหว่างเมแกนกับเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่
*พร้อมนี้ เมแกนจะแชร์คำแนะนำและลูกเล่นต่างๆ ให้แก่ท่านผู้ชม
*ซึ่งจะเน้นความสนุกสนานมากกว่าความสมบูรณ์แบบ
*พร้อมกับ จะไฮไลท์ถึงสิ่งต่างๆ ที่ทำได้ง่ายๆ เพื่อสร้างความงามและสร้างสิ่งที่เกินความคาดหมาย ทั้งในห้องครัว ในสวน และบนพื้นที่กลางแจ้งใต้เวิ้งฟ้าที่ท่านผู้ชมสามารถนำไปทำในชีวิตจริง

ดังนั้น เมื่อเทรเลอร์ของ With Love, Meghan ถูกนำเสนอออกมาเรียกแขกช่วงต้นเดือนมกราคม 2025 บรรดานักวิจารณ์ และสื่อมวลชนค่ายใหญ่ค่ายน้อยพากันประเมินในเบื้องต้นว่า ดูทรงแล้ว มันน่าจะไม่ใช่อย่างที่โฆษณา พร้อมกับจองกฐินรอดู ของจริงจะสมกับราคาคุยเพียงใด อาทิ เดอะฮอลลีวูด รีพอร์เตอร์ หนึ่งในสื่อบันเทิงระดับคัมภีร์ไบเบิลของฮอลลีวูด บอกว่าซีรีส์โชว์นี้มิได้มีวี่แววจะนำเสนอตามคำสัญญา ซึ่งนักวิจารณ์ทั้งหลายก็คาดอย่างนั้นแต่แรกแล้ว

ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่เปิดตัว With Love, Meghan นับตั้งแต่วันอังคารที่ 4 มีนาคม 2025 สารพัดสื่อมวลชนและนานาผู้เชี่ยวชาญ นักวิจารณ์ ไปจนถึงมวลมหาประชาชนแห่งสองฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก แห่กันออกมาวิพากษ์วิจารณ์สับเละอย่างอื้ออึง เพราะฝ่ายต่างๆ อึ้งและยี้สนั่นว่าเสียดายเงินและเวลาที่หมดไปกับการชมผลงานโซโลของเมแกน มาร์เคิล ดังนั้น ปฏิกิริยาติดลบขั้นสาหัสจึงทะลักออกมามหาศาล สะพัดท่วมท้น

เสียงวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบและดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างถล่มทลาย 6-7 วันไม่เว้นวรรค มีประเด็นกรีดหัวใจอย่างเช่น ตื้นเขิน น่าเบื่อ เพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่านในความหลงตัวเอง เวอร์วังมีแต่อวดรวย ถ้าเพื่อนไม่อวยคงไม่ให้เข้าบ้าน ทั้งซ้ำทั้งก็อปปี งี่เง่าไม่ประสากับสิ่งที่ทำ ดูเฟกและพยายามจะเพอร์เฟกเหนือคนอื่น จอมขโมยไอเดียก็อปปีรายการอื่น จอมปลอมสุดๆ ที่จะเฟก ฯลฯ

ภาพนี้เป็นหนึ่งในภาพประชาสัมพันธ์ที่ Netflix แจกสื่อมวลชน คือ ในอีพีแรก ดัชเชสเมแกนเชิญเพื่อนักแต่งหน้าคู่ใจที่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันอย่างเนิ่นนาน มาเที่ยวที่คฤหาสน์บ้านสวน มาทำขนมเค้กครีมสตรอเบอร์รี แล้วมานั่งอร่อยกันที่ลานหลังคฤหาสน์ พลางชื่นชมวิวภูเขาเขียวชอุ่มของแคลิฟอร์เนียใต้ โดยพื้นที่ด้านหน้าของภูเขาเป็นสวนผลไม้ของคฤหาสน์ ซึ่งดัชเชสพาช่างกล้องไปถ่ายทำว่าเธอเดินเก็บผลไม้ต่างๆ แล้วนำมาทำถาดผลไม้สายรุ้ง อีกทั้งตอนที่เธอเก็บน้ำผึ้งที่เลี้ยงในสวนผลไม้มาทานกับแพนเค้ก ตลอดจนนำขี้ผึ้งไปทำเทียน และเก็บผักต่างๆ ไปทำอาหาร แต่ในเมื่อดัชเชสโฆษณาไว้ว่าจะเสนอเทคนิควิธีและลูกเล่นต่างๆ ที่คุณแม่บ้านทั้งหลายสามารถทำเรื่องธรรมดาสามัญให้ยกระดับขึ้นไปให้งดงามมากขึ้น ดังนั้น คอนเทนต์ไลฟ์สไตล์แบบที่แสดงถึงความร่ำรวยหรูหราเหล่านี้จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชนหลายค่าย อาทิ “เดอะไทม์ส” สื่ออังกฤษค่ายยักษ์และเก่าแก่ยั่งยืนมาก ซึ่งวิจารณ์ว่าเมแกนด้วยคำดุเดือด ว่าเธออวดร่ำอวดรวยอย่างสุดๆ และอวดโอ่ไลฟ์สไตล์ที่เวอร์วังโดยทำเสมือนว่าใครๆ ก็มีเงินเหลือเฟือที่จะเลี้ยงผึ้งในสวนหลังบ้านกันได้ทั้งนั้น

อีกหนึ่งบรรยากาศร่ำรวยหรูหราที่ดัชเชสเมแกนนำมาแวดล้อมตัวเธอ ซึ่งนักวิจารณ์บอกว่า แท้จริงแล้ว เธอเพียงปรารถนาจะอวดให้ผู้คนที่เธอถือว่าเป็นศัตรู อาทิ สมาชิกแห่งพระราชวงศ์อังกฤษ ได้เห็นว่าเธอมีชีวิตหรูหราน่าอิจฉาปานใด
“นิวสวีก” สื่ออเมริกันที่ทรงอิทธิพลมายาวนานกว่า 80 ปี พาดหัวข่าวตัวโตว่า

“โชว์ของเมแกน มาร์เคิล ถูกแปะป้ายเป็น ดัชเชสแป้กแห่งเรตติงหายนะ” โดยนิวสวีกอ้างอิงคำวิจารณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านพีอาร์ นามว่า เอริก ชิฟเฟอร์ ประธานบริษัทที่ปรึกษาการบริหารชื่อเสียง

ทีวีโชว์ของเมแกน มาร์เคิล คือ “มาสเตอร์คลาสที่กลายเป็นจำอวดการครัวอันน่าสังเวชใจ” และทำให้เธอดูเป็น “ดัชเชสแป้ก” เอริก ชิฟเฟอร์ ผู้เชี่ยวชาญการพีอาร์กล่าวกับนิวสวีก พร้อมกับย้ำไว้ดังนี้

“โชว์นี้ไม่ใช่ตำรับที่จะกอบกู้สร้างชื่อขึ้นมาใหม่ได้ และอันที่จริง มันกลับมาตอกย้ำว่าเธอเป็นดัชเชสแป้กแห่งเรตติงหายนะ ผมไม่คิดว่ามันจะช่วยเธอขยายฐานผู้ชมในทางที่สร้างสรรค์ใดๆ ได้เลย

“ที่ทางดีที่สุดสำหรับเธอกับปรินซ์แฮร์รี คือ ไปทำบทบาทสนับสนุนสิ่งดีงามที่ทรงคุณค่าแก่คนรุ่นต่อไป และที่ทางซึ่งทั้งสองทำผิดพลาด คือ การพยายามทำบทบาทเชิงพาณิชย์ และพยายามยึดมั่นเกินไปกับสัญญาธุรกิจทั้งหลาย เพราะจะถูกบีบให้ผลิตคอนเทนต์ที่ต่ำกว่ามาตรฐานน่ะครับ”

“เดอะซัน” สื่อค่ายใหญ่ยักษ์อังกฤษฟาดอย่างหนักด้วยพาดหัวข่าวว่า น่าเบื่อและเฉิ่มเชย โชว์ของเมแกนไร้ซึ่งแรงบันดาลใจอย่างสุดๆ มันเป็นโฆษณาสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตที่สินค้าไลฟ์สไตล์ของเมแกนยกขบวนกันมาเปิดตัว โดยเดอะซันยกตัวอย่างว่าเมแกนเล่นมุกโรยดอกไม้แห้งบนอาหารและขนมแทบจะทุกอย่าง เพราะเธอตั้งใจจะโปรโมทสินค้าดอกไม้แห้งยี่ห้อ As Ever ของเธอ อันเป็นการโฆษณาแฝงสไตล์เดียวกับรายการโฆษณาขายสินค้านั่นเอง

“ดิอินดีเพนเดนต์” สื่อการเมืองแนวทางกลางซ้ายของอังกฤษรีวิวให้ With Love, Meghan แค่ 1 ดาว โดยระบุว่า โชว์นี้น่าเบื่อและชวนให้คลื่นไส้ การไปเยือนครอบครัวซัสเซกซ์น่าจะไม่สนุกเอาเลย

“เดอะการ์เดียน” สื่อใหญ่เอียงซ้ายไม่เอาเจ้า ได้รีวิวไว้แบบดูหมิ่นคุณภาพมาตรฐาน พร้อมประเมินโอกาสที่จะล้มเหลวอย่างดุเดือด จูบลาดีลธุรกิจกับ Netflix ได้เลย! With Love, Meghan ไม่มีค่าที่ใครจะไปดู และคงเป็นทีวีโชว์อันสุดท้ายของเมแกนกับปรินซ์แฮร์รี

และในอีกสกู๊ปหนึ่ง ก็วิจารณ์แรงยิ่งขึ้น โอ ก็อด มันเป็นโชว์ที่น่าอับอายขายหน้า ... สิ่งที่ With Love, Meghan สื่อออกมาไม่สนุกเลย … มันไร้อารมณ์ขัน ห่วงแต่จะให้ตัวเองดูดี ... นี่แหละ With Love, Meghan ถึงไม่เป็นที่รักเอามาก

“ไทม์แมกาซีน” สื่อค่ายยักษ์ของสหรัฐอเมริกาซึ่งเคยใส่ชื่อเดอะซัสเซกซ์ไว้ในกลุ่ม 100 คนที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดประจำปี 2021 วิจารณ์ว่า “ดัชเชสเมแกนแสนจะจืดชืด เรื่องราวไม่น่าติดตาม พยายามแต่จะนำเสนอภาพให้เมแกนเป็น ซุปเปอร์มอมสุดหรู ในเสื้อแคชเมียร์สีเอิร์ธโทน กับชุดผ้าเดอนิมจากดีไซเนอร์คนดัง”

“เดอะไทม์ส”
สื่ออังกฤษค่ายยักษ์และเก่าแก่ยั่งยืนมาก จัดหนักทีเดียวโดยวิจารณ์ว่าเมแกนด้วยคำดุเดือดอย่าง หลงตัวเอง หวานเลี่ยน พร้อมจะลอกเลียน-ก็อปปี้คนอื่น และในซีรีส์นี้ เธออวดร่ำอวดรวยอย่างสุดๆ และอวดโอ่ไลฟ์สไตล์ที่เวอร์วังโดยทำเสมือนว่าใครๆ ก็มีเงินเหลือเฟือที่จะลุกขึ้นมาผลิตเทียนจากขี้ผึ้งที่เลี้ยงในสวนหลังบ้านกันได้ทั้งนั้น

“เดอะเทเลกราฟ” ก็วิจารณ์ตรงไปตรงมาอย่างโหดๆ ไม่น้อยกว่าสื่อค่ายอื่นๆ เป็นอะไรที่หลงตัวเองโดยแนบไปกับการทานอาหารอย่างฟุ่มเฟือย และการสังสรรค์กับเพื่อนคนดังทั้งหลาย ... เมแกนยินดีต้อนรับทุกคนซึ่งเป็นที่รู้จักของสาธารณชน ยกเว้นคุณพ่อของเธอ พี่ๆ ของเธอ พ่อสามีของเธอ แม่เลี้ยงสามีของเธอ พี่สามีของเธอ ตลอดจนเพื่อนเก่ากว่า 99% ของสามีเธอ

“เดอะสเปกเตเตอร์” วิจารณ์ว่า เห็นความจนตรอกของเมแกนได้อย่างชัดเจน เป็นความจนตรอกด้วยแรงปรารถนาอยากให้โชว์นี้นำเธอกลับสู่สปอตไลท์แห่งความสนใจอีกครั้ง เพราะโชว์ของเมแกนไม่ค่อยจะเป็นโชว์ไลฟ์สไตล์ แต่ไปเน้นกับการเปิดเผยให้เห็นผู้หญิงทะเยอทะยานคนหนึ่งที่พยายามจะเกาะติดหนึบกับชื่อเสียงด้วยทุกวิถีทางเท่าที่จะเป็นไปได้

แต่ในเที่ยวนี้ เธอสลัดทิ้งคอนเซปต์ซ้ำๆ เดิมๆ ที่เธอเป็นเหยื่อผู้บอบช้ำจากพาดหัวข่าวร้ายๆ นับพันนับหมื่น เพราะเธอมาในฐานะภรรยาผู้ร่ำรวยที่มีสามีเศรษฐีเลี้ยงดู และดังนั้น เธอจะเอาลูกๆ มาอวด แล้วก็เช่าคฤหาสน์ 5 ล้านดอลลาร์มาถ่ายทำซีรีส์ พร้อมกับผลิตคอนเทนต์มหาศาลไปท่วมอินสตาแกรมของเธอ เดอะสเปกเตเตอร์วิเคราะห์วิจารณ์ไว้อย่างนั้น

“วาไรตี” ที่ได้ชื่อว่าเป็นคัมภีร์ไบเบิลแห่งวงการ ก็ปรากฏตัวในแถวหน้าแห่งการวิจารณ์ With Love, Meghan โดยตราหน้าไว้เจ็บแสบว่า ซีรีส์ชุดนี้เป็นคอนเทนต์ความอีโก้หลงตัวเองของเมแกนแห่งมอนเตซิโต ซึ่งไม่คุ้มค่าที่จะสตรีมไปดู

ปมเรื่องเลี้ยงผึ้งเพื่อเก็บน้ำผึ้งในสวนครัวส่วนตัวภายในอาณาบริเวณของคฤหาสน์ ถูกนำไปเทียบกับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษ ที่ดำเนินมาเนิ่นนานหลายเจเนอเรชัน ทั้งนี้ ในภาพซ้าย เดลิเมลออนไลน์บรรยายภาพว่าเป็นเจ้าหญิงเคท ปรินเซสออฟเวลส์ ซึ่งทรงสืบทอดงานอดิเรกนี้จากพระญาติผู้ใหญ่

เดอะซันเขียนในภาพประกอบสกู๊ปอันนี้ว่าซีรีส์ With Love, Meghan น่าเบื่อและเฉิ่มเชย
วาไรตี ฟาดไว้ตรงไปตรงมาว่า ดูไม่สนุกเลยสำหรับ With Love, Meghan โชว์ซึ่งอาจเป็นฉากสุดท้ายที่จะมอบพื้นที่ให้เมแกน มาร์เคิลได้ปรากฏตัวบนทีวีต่อหน้าสาธารณชน และวาไรตีชี้ไว้ด้วยว่า ซีรีส์ With Love, Meghan ดูเหมือนจะถูกสร้างให้เป็นการชวนใครต่อใครไปปลื้มปริ่มทุกสิ่งอย่างที่เธอครอบครอง และไม่ว่าแขกรับเชิญแต่ละรายจะอวยเธอมากมายแค่ไหน ก็ราวจะไม่จุใจเธอได้ง่ายๆ วาไรตีรีวิวอย่างนั้น

แล้ววาไรตียังแซวแกมประชดด้วยว่า บรรดาแขกรับเชิญที่เข้าร่วมเอพพิโซดทั้งหลาย คงจะต้องเปล่งถ้อยคำสรรเสริญดัชเชสให้เรียบร้อยก่อน จึงจะได้เข้าฉากห้องครัวยามบ่าย!! ประมาณว่าเป็นค่าตอบแทนเพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่เมแกนเชิญไปออกรายการทีวีกับเธอ

ตัวอย่างโดดเด่นจัดจ้าน คือ มินดี้ คาลิ่ง นักแสดงสาวยอดเก่งและนักเขียนบทภาพยนตร์ระดับมือรางวัล ซึ่งเข้าฉากกับดัชเชสเมแกนในอีพี 2 และออกปากชื่นชมรสชาติของแยมผลไม้ที่ได้รับจากดาราหนังรุ่นพี่ (ตอนนั้นยังแปะยี่ห้อ ‘อเมริกัน ริเวียรา ออร์ชาร์ด’ ) โดยมินดี้อวยอย่างไพเราะว่า ณ นาทีที่ได้ลิ้มลองนั้น...

“อาจจะเป็นหนึ่งในโมเมนต์ต้องมนตราอย่างที่สุดของชีวิตของดิฉัน”


อีกหนึ่งตัวอย่างที่วาไรตีเอ่ยถึง คือ ซุปเมล็ดถั่วลันเตา (ซึ่งเป็นเม็ดกลมชวนให้นึกถึงไข่มุก)

โดยชายหนุ่มเพื่อนเก่า (ที่โปรไฟล์ยังดี และยังไม่ถูกดัชเชสเท) มองซุปเมล็ดถั่วลันเตาที่เมแกนนำมาเสิร์ฟด้วยสายตาหลงรัก แล้วเยินยอได้ฟรุ้งฟริ้งว่า สวยราวกับไข่มุกสีเขียว วาไรตีเล่าไว้อย่างนั้น พร้อมคอมเมนต์ขำๆ

“ใครได้ดู จะรู้สึกเลยว่า ณ ภายในของเพื่อนหนุ่มนายนี้ เมแกนได้พบวิญญาณคู่แฝดจอมเพ้อเจ้อที่พลัดพรากจากกันหลายภพชาติ”

ทั้งนี้ วาไรตีรีวิวตรงกับหลากหลายสื่อใหญ่น้อยของอเมริกาและอังกฤษที่วิจารณ์ว่า เมแกนคอยแต่จะหยอดคอมเมนต์ตื้นเขิน ไร้สาระ เพ้อเจ้อเกินเบอร์ ซึ่งแลดูเฟกไม่เข้าท่าโดยพยายามสร้างภาพปลอมๆ ให้เชื่อว่าเธอมองสิ่งต่างๆ อย่างลึกซึ้ง หรือเป็นคนโรแมนติก อ่อนหวาน ช่างคิดฝัน ช่างจินตนาการถึงความดีงามของสิ่งต่างๆ ลึกซึ้ง

โดย วาไรตี ยกตัวอย่างคำพูดที่เมแกนโชว์ความประทับใจต่อเกร็ดวัฒนธรรม ที่ชาวจีนเรียกเกี๊ยวในน้ำจิ้มพริกใส่น้ำมันงาสีแดงมันวาวว่า แท่งโลหะ เพราะมีเรื่องเล่าสืบทอดมาว่าก้อนเกี๊ยวถูกห่อขึ้นมาเป็นรูปทรงแบบ “ก้อนทองคำ” ในสมัยโบราณ

แล้วเมแกนก็บอกว่า “ฉันชอบมากเลยที่ได้ฟังเรื่องราวทรงคุณค่าที่สืบทอดมากับสิ่งต่างๆ!”

ใช่แต่จะเท่านั้น วาไรตีเล่าถึงอีกสองตัวอย่าง คือ ตอนที่เมแกนถือตะกร้าเดินในสวนและทำท่าเก็บผลไม้ไปปรุงอาหาร เธอพูดกับกล้อง แสดงวิสัยทัศน์ว่า ความหวานของผลเบอร์รีส์นี่แหละคือของจริง กับในบทพูดถึงขนมเค้กแช่แข็ง เธอปล่อยอีกหนึ่งมุกว่า รูปลักษณ์ภายนอกของขนมอาจไม่น่าชื่นชมสำหรับใคร จนกว่าเขาจะค้นพบความยอดเยี่ยมของน้ำผึ้งที่สอดไส้อยู่ด้านใน มุกเหล่านี้อาจจะเป็นมุกที่ ดิอินดีเพนเดนต์ ระบุว่าโชว์ของเมแกนชวนให้คลื่นไส้

ทั้งนี้ ยังมีอีกสองมุกของเมแกนที่วาไรตีฟาดไว้ (ซึ่งสื่อต่างๆ ก็วิจารณ์ตรงกัน) ด้วยคำวิจารณ์ว่า “เพ้อเจ้อ” ได้แก่ ในตอนที่เมแกนพูดประทับใจในความงามของไข่แดง และเมื่อเธอคอยแต่จะเอากลีบดอกไม้แห้งโรยบนบรรดาของที่รับประทานได้เกือบจะทุกสิ่งอย่าง

มินดี้ คาลิ่ง (ขวา) นักแสดงสาวยอดเก่งและนักเขียนบทภาพยนตร์ระดับมือรางวัล ซึ่งเข้าฉากกับดัชเชสเมแกนในอีพี 2 ได้รับบทที่จะต้องถูกดัชเชสต่อว่าที่เรียกเธอด้วยนามสกุล มาร์เคิล และด้วยความที่บรรยากาศขณะที่เมแกน มาร์เคิล ต่อว่าเรื่องนามสกุล นั้น ค่อนข้างตึงเครียด ปรากฏว่าในสัปดาห์นั้น มินดี้ คาลิง ได้รับเชิญออกสารพัดรายการ เพื่อจะถูกถามว่าทำไมจึงไปยอมเล่นบทนี้ให้เมแกน
อันที่จริง With Love, Meghan เป็นผลิตภัณฑ์ซีรีส์ที่ เท็ด ซาแรนดอส (1 ใน 2 ซีอีโอของ Netflix ซึ่งรับผิดชอบดูแลงานด้านคอนเทนต์) ประกาศความมั่นใจไว้กับบอร์ดบริหารว่าจะขายได้ขายดี อย่างน้อยก็ในตลาดอเมริกา

แต่ปรากฏการณ์กระหน่ำวิจารณ์ With Love, Meghan อันโครมครามดั่งฟ้าผ่าฟาดเปรี้ยงๆๆ ทำเอาบรรดาสมาชิกบอร์ด Netflix ถึงกับช็อก

เดลิเมลออนไลน์รายงานว่าบรรดาบิ๊กของ Netflix ตกใจกับความมหาศาลและดุเดือดของประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ แบบว่าไม่คาดคิดกันเลยว่าจะต้องเห็นบรรยากาศอื้อฉาวเอิกเกริก เพราะเดิมนั้นคาดกันว่าจะถูกสับเละเฉพาะในฝั่งอังกฤษ แต่ปรากฏว่าบรรดาสื่ออเมริกัน ตั้งแต่ระดับทั่วไป จดจนระดับกูรูต่างพากันขยี้แหลก

ใช่แต่จะเท่านั้น ปริมาณการสตรีมไปรับดูรับชมก็หลุดเป้าอย่างน่าใจหาย แม้ว่า Netflix เข้าไปช่วยสุดความสามารถ จนกระทั่งสามารถเข็นให้ซีรีส์ไลฟ์สไตล์นี้ติดชาร์ตท็อป10 ได้ตั้งแต่วันพุธที่ 5 มีนาคม จดจนวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม

กระนั้นก็ตาม ตัวเลขรวมของการสตรีมดู With Love, Meghan อยู่ที่ระดับแค่ 25% ของตัวเลขที่ซีรีส์ Harry and Meghan ทำได้ในรอบหนึ่งสัปดาห์แบบเดียวกัน

ส่วนเรตติงจากท่านผู้ชมที่สำรวจโดยค่ายใหญ่ๆ ทั้งหลาย คือ แป้กสนิท

ดัชเชสเมแกนอ่วมสาหัสทีเดียวกับผลสำรวจความนิยมที่ได้รับจากท่านผู้ชม เดลิเมลออนไลน์รายงาน โดยรายงานถึงเรตติงกลุ่มทีวีที่ได้รับจากค่าย IMDb ว่าอยู่ที่ระดับต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพียง 2.5 จาก 10 ทั้งนี้ อีพีที่ได้คะแนนดีหน่อยคือ 2.7 ได้แก่ อีพีต้นๆ: Hello, Honey ส่วนอีพีที่คะแนนย่ำแย่สุดๆ คือ 2.1 ได้แก่ตอนจบ: Feels Like Home

ลักษณะเช่นนี้สะท้อนว่า With Love, Meghan ไม่สามารถตรึงท่านผู้ชมไว้ได้ หรือก็คือ สมาชิกของ Netflix สตรีมไปดูแค่ไม่กี่อีพี ก็เลิกดู เดลิเมลออนไลน์รายงาน

ด้านการสำรวจความรู้สึกของท่านผู้ชมโดยค่าย Popcommeter on Rotten Tomatoes ผลออกมาที่ระดับต่ำมาก แค่ 11% และจึงถูกแปะป้ายว่า “เน่า-Rotten” และก็จึงได้เรตติงเพียงแค่ 1 ดาวเท่านั้น ซึ่งหมายถึงว่าท่านผู้ชมมองซีรีส์ในระดับที่ไม่เอาไหนอย่างยิ่ง

ดัชเชสเมแกนยังถูกฟาดหนักจากเรตติงย่ำแย่ของ ค่ายดิอินดีเพนเดนต์ กับ เดอะการ์เดียน ซึ่งให้แค่ 1 ดาวจาก 5 ดาว ขณะที่ค่ายเดอะเทเลกราฟสำรวจออกมาเป็นเรตติง 2 ดาวจาก 5 ดาว

สถานการณ์ของ With Love, Meghan อ่อนด้อยยิ่งกว่าสถานการณ์ของซีรีส์ชุด Polo ที่ปรินซ์แฮร์รีเป็นเจ้าภาพ และ Netflix เปิดตัวให้สตรีมไปดูกันในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งก็ถูกวิจารณ์สาหัส

ทั้งนี้ ค่าย IMDb ให้คะแนน Polo ที่ 3 จาก 10 ดีกว่า With Love, Meghan อยู่ 0.5 คะแนน

เมแกน มาร์เคิล ในภาพนี้ถูกยี้อย่างหนักเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอกรีดกรายด้วยจริตอันมากมายเกินกว่าเหตุ
(2/3) เจาะลึก “ชะตาแป้ก” แห่งผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ “As Ever” กลุ่มขนม แยม น้ำผึ้ง และชาสมุนไพร

ดัชเชสเมแกนใช้อุบายหลอกลวงว่าอาหารและเครื่องดื่มยี่ห้อ As Ever ของตนซึ่งแพงจัดเวอร์หนักมากมาย ขายหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่นาที เดอะซัน สื่ออังกฤษค่ายใหญ่ยักษ์รายงานอย่างนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2025 หรือก็คือวันรุ่งขึ้นจากวันพุธที่ 2 เมษายน ซึ่งดัชเชสเปิดตัวขบวนสินค้า 8 ตัววิบวับ

ในเวลาต่อมา ดราม่าใหม่อุบัติเปรี้ยงปร้าง เมื่อเดลิเมลออนไลน์ใส่พาดหัวข่าวตัวบิ๊กบึ้มว่า “ของมันฉ้อโกงทั้งเพ” แถมยังต้องประสบพบเจอแต่ความไม่อร่อยและรับประทานไม่ลง ซูเปอร์สื่อชั้นแนวหน้าแห่งแดนผู้ดีรายงานอย่างละเอียด


โดยทีม Femail ในเครือสื่อยักษ์เดลิเมล รับหน้าที่สืบสวนสอบสวนความอร่อยและดีงามแห่งโปรดักส์ แล้วยืนยันว่า พรีเสิร์ฟผลไม้ที่เมแกนใช้คำว่า “สเปรดราสป์เบอร์รี” แทนคำว่า “แยมราสป์เบอร์รี” นั้น ‘ใสเหลว’ และ ‘หวานยิ่งกว่าแยม’ ส่วนชา As Ever สีเข้มน่ากลัวเหมือนน้ำย้อมผ้า ขณะที่ดอกไม้แห้งโรยอาหารก็มาเป็นกลีบเต็มๆ (เพิ่มน้ำหนัก-ลดปริมาณดอกไม้แห้งที่บรรจุในแต่ละกระป๋อง) หนำซ้ำยังเติมกลิ่นดุเดือดแบบถุงดอกไม้แห้งในห้องน้ำของคุณป้าคุณยาย ซึ่งใครจะกล้ารับประทาน ส่วนแผ่นแป้งเครปคือปวดจิต

แล้วเดลิเมลก็สรุปว่าโปรดักส์ของ As Ever ช่างละม้ายตัวดัชเชสเมแกน เจ้าของบริษัท คือ สัญญิงสัญญาโม้ฟุ้งใหญ่โต แต่ของจริงกลับทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ห่างไกลคำคุยโว

พระชายาวัยสาวใหญ่ 43 กะรัตของปรินซ์แฮร์รี เปิดขายสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม 8 ตัวบนเว็บไซต์ As Ever เมื่อวันพุธที่ 2 เมษายน 2025 แต่ละตัวมีราคาแพงแรงจัดดั่งผลิตจากสวรรค์ชั้นฟ้า อาทิ

(1) พรีเสิร์ฟ ราสป์เบอร์รี สเปรด ขนาด 215 กรัม กระปุกละ 14 ดอลลาร์ (ราว 500 บาท)

(2) น้ำผึ้งลิมิเต็ดเอ็ดดิชัน ขนาด 255 กรัม ขวดละ 28 ดอลลาร์ (ราว 1,000 บาท)

(3-4-5) ชาสามรุ่น กระป๋อง 12 ถุงชา กระป๋องละ 12 ดอลลาร์ (ราว 400 บาท)

(6) กลีบดอกไม้แห้งโรยอาหาร ขนาด 5 กรัม กระป๋องละ 15 ดอลลาร์ (ราว 550 บาท)

(7-8) ขนมชอร์ตเบรดโรยดอกไม้แห้งและแผ่นแป้งทำเครปโรยกลีบดอกไม้แห้ง ขนาด 454 กรัม กล่องละ 14 ดอลลาร์ (ราว 500 บาท)

เวลาผ่านไป ½ ชั่วโมง ขบวนสินค้าซึ่งซื้อขายโดยชำระเงินกันทันทีทางออนไลน์ ถูกซื้อไปทั้งหมด แบบว่าเอาท์ออฟสต็อกกันเลยทีเดียว และจึงทำให้เมแกนออกมาโพสต์โดยพลันบนไอจีของเธอ: “ชั้นวางสินค้าของเราอาจจะเกลี้ยงเกลา แต่ดวงใจดิฉันเต็มเปี่ยมค่ะ” เดอะซันเขียนเล่าไว้อย่างนั้น โดยบอกว่าขนมชอร์ตเบรดและขนมเครปพร้อมกลีบดอกไม้แห้งเกลี้ยงสต็อกหลังตัวอื่นๆ คือ เกลี้ยงใน 1 ชั่วโมง

กระนั้นก็ตาม แหล่งข่าวผู้ไม่เปิดเผยนามของเดอะซันบอกว่า

“นี่มันเล่ห์กลการตลาดเบสิกเลยล่ะ

“คุณเตรียมสินค้าไว้แค่นิดหน่อย ของมันก็จะหมดไว แล้วคุณประกาศออกไปได้เลยว่า สินค้าป๊อปปูลาร์เหลือเกิน ขายหมดสต็อกแล้ว”


บรรดาสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม 8 ตัวของยี่ห้อ As Ever ได้แก่ (1)พรีเสิร์ฟ ราสป์เบอร์รี สเปรด ขนาด 215 กรัม กระปุกละประมาณ 500 บาท (2) น้ำผึ้งลิมิเต็ดเอ็ดดิชัน ขนาด 255 กรัม ขวดละ ประมาณ 1,000 บาท  (3-4-5) ชาสามรุ่น กระป๋อง 12 ถุงชา กระป๋องละประมาณ 400 บาท (6) กลีบดอกไม้แห้งโรยอาหาร ขนาด 5 กรัม กระป๋องละประมาณ 550 บาท  (7-8) ขนมชอร์ตเบรดโรยดอกไม้แห้งและแผ่นแป้งทำเครปโรยกลีบดอกไม้แห้ง ขนาด 454 กรัม กล่องละประมาณ 500 บาท
ด้านนักวิเคราะห์ข่าวในสังกัดเดอะซัน นามว่า ซามารา กิล ออกทีวีรายการรอยัลเอ็กซ์คลูซีฟ ชี้ว่าผลิตภัณฑ์ของ เมแกน แสนจะหลุดโลก เมแกนไม่สนเลยว่าผู้คนเขากำลังประหยัดตัดค่าใช้จ่ายจริงจังกันทั้งประเทศ ยังจะมาเสนอขายสินค้าแบรนด์ใหม่ ราคาแพงน้ำตารินไหล ตั้งแต่แยมกระปุกละ 14 ดอลลาร์ ยันน้ำผึ้งพร้อมรวงผึ้งรุ่นพิเศษหมดแล้วหมดเลย ขวดละ 28 ดอลลาร์

“ดิฉันไม่รู้หรอกว่าดัชเชสเมแกนคิดว่า ตอนนี้ตัวเธอมีชีวิตอยู่ในโลกไหนกันแน่ ดิฉันไม่รู้หรอก ว่าคนอเมริกันโดยทั่วไปจะยอมจ่ายเงิน 14 ดอลลาร์ ซื้อแยมหนึ่งกระปุก

“ขอบอกเลยนะคะ สินค้าทุกตัวของดัชเชสเมแกนน่ะ หลุดโลกจริงๆ ไม่มีใครจะไปควักเงิน 12 ดอลลาร์ซื้อชา 12 ซองหรอก” ซามารา กิล วิจารณ์อย่างนั้น


“ดิฉันไปดูร้านขายผลิตภัณฑ์หลวงของพระราชวังวินด์เซอร์มาแล้วค่ะ เขาขายพรีเสิร์ฟสรอเบอร์รีที่ปลูกเองผลิตเอง ในราคาแค่ 4 ดอลลาร์ แบบนี้จึงจะเอื้อมถึงได้จริง”

พร้อมนี้ ในวงสนทนาข่าวของโทรทัศน์ช่องเดอะซัน ซามารา กิล ถกกันเยอะในแนวเดียวกับผู้คนทั่วไปว่า เมแกน มาร์เคิล น่าจะใช้ “เล่ห์กลการตลาด” ซึ่งก็คือ “เตรียมของไว้ขายออนไลน์แค่เล็กน้อย พอคนซื้อไปได้ไม่กี่ราย ของก็หมด แล้วจัดแจงประกาศว่าสินค้าได้รับกระแสตอบรับดีเหลือเกิน ขายเกลี้ยงเลย”

แต่คอมเมนต์ของท่านผู้อ่านวิเคราะห์เกมของเมแกนออกมาแรงกว่า โดยชี้ว่าเปิดเว็บไซต์ขายของแพงสัก 45 นาที มีออร์เดอร์เข้าไปน้อยนิด แล้วจะรออะไร ก็ย่อมจะต้องปิดกิจกรรมโดยพลัน

ที่ผ่านมา ดัชเชสแม่ค้าผู้อื้อฉาวซึ่งโดนเมาท์โดนชำแหละจากทศทิศ เชิญนักเขียนสารคดีอาหารจาก นิวยอร์กไทมส์ ค่ายข่าวแถวหน้าของสหรัฐอเมริกา ไปสัมภาษณ์เธอที่คฤหาสน์มอนเตซิโต เพื่อโปรโมทการขายในวันเปิดตัวสินค้า

พระชายาของเจ้าชายแฮร์รีบอกว่า รู้สึกระคายใจที่นักวิจารณ์มาโจมตีว่าเธอเวอร์ แต่เธอก็ยักไหล่ไม่ใส่ใจ แล้วพูดว่า “พวกเขาไม่รู้หรือ ว่าชีวิตดิฉันไม่ใช่ว่าจะเป็นอย่างนั้นทุกวัน” สกู๊ปของนิวยอร์กไทมส์รายงาน

ดัชเชสพยายามจะแสดงว่าเธอใช้ชีวิตธรรมดา ติดดิน โดยให้สัมภาษณ์ว่าหลายครั้งเชียวว่าเธอให้ปรินซ์อาร์ชี 5 พรรษา กับปรินเซสลิลีเบต 3 พรรษา เสวยอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งที่หยิบจากฟรีสเซอร์มาละลาย แล้วเสิร์ฟร้อนๆ ขึ้นโต๊ะได้ไวๆ อย่างทาเตอร์ ท็อตส์ มันฝรั่งหั่นเต๋าคลุกด้วยแป้งข้าวโพด ทอดกรอบโรยเกลือจิ้มชีส เดอะซันรายงานอย่างนั้น

สกู๊ปของนิวยอร์กไทมส์เขียนว่า

“เห็นได้ชัดเลย เมแกนระคายใจกับข้อกล่าวหาว่าเธอไม่สนใจสถานการณ์ปัจจุบัน และทำตัวหลุดโลก

“เธออาจจะมีชีวิตดั่งเทพนิยายอยู่ในปัจจุบัน แต่เมื่อไม่นานนักหนานี้เอง เธอเคยเป็นนักแสดงชื่อเสียงไม่ได้โด่งดังมากนัก เล่นซีรีส์โทรทัศน์ซึ่งได้รับความนิยมระดับปานกลาง เธอหย่าร้างในวัยสามสิบกว่าๆ โดยไม่มั่นใจว่าบ้านช่องและงานการเพื่อยังชีพในเฟสต่อไปของชีวิตจะอยู่ที่ไหน”

ใจความระหว่างบรรทัดของนิวยอร์กไทมส์ สรุปเป็นภาษาประชาชนได้ว่า เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เมแกนเคยเป็นคนทำมาหากินในวงการนักแสดงหนังโทรทัศน์โดยที่ไม่ได้ร่ำรวย เธอย่อมทราบว่าผู้คนในสังคมล้วนแต่ต้องจับจ่ายด้วยความสมเหตุสมผล คนส่วนใหญ่ในระบบเศรษฐกิจ ไม่ได้เป็นอย่างเธอ ที่จู่ๆ ได้ตกถังข้าวสาร แล้วทำเป็นลืมชีวิตจริงของเพื่อนร่วมชาติ


แล้วนิวยอร์กไทมส์ทำการรายงานประโยคสำคัญของเมแกนคือ “พวกเขาไม่รู้หรือคะ ชีวิตดิฉันไม่ใช่ว่าจะเป็นอย่างนั้นทุกวัน” เธอกล่าวพลางกวาดตาไปรอบๆ และมองพวกน้องหมาที่หลับอยู่

เดลิเมลออนไลน์แคปภาพนี้จากคลิปที่ดัชเชสเมแกนร้องเพลงในครัว

อย่างน้อยที่สุดก็มีหนึ่งสิ่งที่เป็นของแท้เกี่ยวกับ As Ever ได้แก่ สินค้าเหล่านี้เหมือนกับผู้ก่อตั้งธุรกิจ กล่าวคือ มีการโฆษณาสัญญาโน่นนี่ไว้เวอร์วัง แต่พอผลิตขึ้นมาก็ไม่ถึงมาตรฐานที่โม้ คุณเชื่อดิฉันนะคะ ดิฉันสั่งซื้อสินค้า 8 ตัวนี้มาทำการชิมรสชาติแล้ว เกือบทุกตัวของเมแกน มาร์เคิล เป็นสินค้าราคาแพงดุเดือด และรับประทานไม่ลง มอรีน คาลาแฮน แห่งเดลิเมลออนไลน์ เขียนวิจารณ์ดัชเชสเมแกนอย่างนั้น
As Ever ของ “เมแกน” โดนสื่อเจ้าแม่ FEMAIL อัดยับ “มันฉ้อโกงกันขนานใหญ่” หนำซ้ำยังมีสินค้าที่อดทนกลืนไม่ลงจริงๆ หลังทีมทดสอบชิมแล้ว ผงะ!! เช่น ชาดอกชบา สีเหมือนน้ำย้อมผ้า

ในช่วงปี 2024 มีการส่งข่าวประชาสัมพันธ์ต่างๆ ร่อนไปยังแวดวงสื่อมวลชนว่า ดัชเชสเมแกนส่งสินค้ารุ่นทดลองชิม คือ แยมสตรอเบอร์รี ไปกำนัลเพื่อนๆ ที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งตอนนั้นเธอยังเรียกผลิตภัณฑ์ของเธอว่า แยม จำนวน 50 กระปุก โดยจัดเป็นกระเช้าสวยงาม และแนบของขบเคี้ยวสำหรับสุนัขลงในกระเช้าด้วย

ในเวลาต่อมา เมแกนบอกว่าเธอปรับสูตร “แยม” ให้ลดน้ำตาล แล้วตั้งชื่อใหม่ในตำรับของ “พรีเสิร์ฟ หวานด้วยเนื้อผลไม้” พร้อมนี้ก็เปลี่ยนชื่อสินค้าจาก “แยมราสป์เบอร์รี” ไปเป็น “สเปรดราสป์เบอร์รี”

หลังจากนั้น ดัชเชสแม่ค้าคนดังนำสินค้าไอเทมเด็ดของเธอ ไปปรากฏตัวบ่อยครั้งในซีรีส์สารคดีช่อง Netflix เรื่อง With Love, Meghan กับในภาพนิ่งที่ประกบข่าวแจกฝากประชาสัมพันธ์ แล้วเธอก็เปิดขายสินค้าออนไลน์รวม 8 ตัวบนเว็บเพจ asever.com

ช่วงเวลาแห่งการขายดำเนินอยู่แค่ 30 นาที เว็บไซต์ As Ever ก็ประกาศยุติการขาย ด้วยเหตุผลว่าสินค้าขายดีเหลือเกิน ข้าวของทั้งปวงหมดสต็อกแล้ว

ก็ขายดีแปลกๆ เหลือเกิน หนึ่งเดือนครึ่งผ่านไป หน้าเว็บยังคงเงียบกริบเป็นป่าช้า ทั้งที่ว่าโดยทั่วไปนั้น เมื่อขายดีเวอร์วัง ฮอตจัดจ้านขนาดนี้ ย่อมต้องรีบนำสินค้าเข้าไปเสริม แบบว่า “น้ำขึ้น-ต้องรีบตัก” จะช้าหน่อยไม่เป็นไร แต่ใน 1 วีก ต้องมีสต็อกเข้าไปเติม

ทั้งนี้ จากวันที่ 2 เมษายน 2025 จดจนกลางเดือนพฤษภาคม ไม่ปรากฏว่าจะมีสินค้าล็อตใหม่เข้าไปให้เปิดขายกันต่อ ดังนั้น จึงกลายเป็นปริศนาขำๆ ว่าในห้วง 30-60 นาทีที่เปิดการขายนั้น แท้จริงแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

ในเมื่อเมแกนตั้งสนนราคาที่แพงไร้สาระอย่างที่ เดลิเอ็กซ์เพรส เรียกว่า “แพงจนต้องหัวเราะเยาะ” มันย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่บรรยากาศการซื้อขายจะเงียบกริบกระทั่งต้องใช้แท็กติก ถอยแบบเท่ๆ ด้านแฟนานุแฟนของเว็บไซต์ข่าวเดลิเมลออนไลน์ตามเข้าไปวิเคราะห์ว่า นี่เป็นแท็กติกเพื่อไม่ให้เสียหน้าดัชเชส เว็บ As Ever ก็จึงประกาศว่าของหมดเกลี้ยง

นักวิจารณ์บอกให้รอดูเถอะ จะมีคาราวานสินค้า As Ever ไปวางขายอย่างเปิดเผยที่อาคารตลาดกิ๊บเก๋ซึ่งเน็ตฟลิกซ์จะเปิดทำการในอนาคตอันใกล้นี้ จริงหรือไม่

ด้านสื่อ FEMAIL หรือก็คือ ทีมนักข่าวฟีเมลแห่งเดลิเมลดอทคอม ทำการพิสูจน์ทราบคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ As Ever โดยลุยเข้าไปซื้อทางเว็บไซต์ตั้งแต่นาทีแรกๆ ที่เปิดขาย แล้วนำผลการชิม ไปจัดทำสกู๊ปอย่างละเอียด ในการนี้ สกู๊ประบุไว้ในพาดหัวข่าวว่า “มันฉ้อโกงกันขนานใหญ่ และมีสินค้าที่อดทนกลืนไม่ลงจริงๆ”

ทีมฟีเมล ซื้อสินค้า As Ever มาช่วยกันทดสอบจริงจัง ก่อนที่หัวหน้าทีม คือ เจน เฮิร์ซ จะจัดทำสกู๊ปไปรายงาน ดังนี้

สินค้า As Ever 2 ตัวแรกที่ทีมฟีเมลทดสอบ แล้วช็อกอย่างยิ่ง คือ ชาสมุนไพรดอกชบา กับชาสมุนไพรเป๊ปเปอร์มินต์

#โดยน้ำชาจาก “ชาสมุนไพรดอกชบา As Ever” มีสีแดงจ้า น่าตกใจ เหมือนน้ำย้อมสีผ้า หนำซ้ำยังมีรสขื่น และกลิ่นแรงน่ากลัว

-คนหนึ่งในทีมฟีเมลที่ร่วมชิมบอกว่า “เหมือนดื่มลิปบาล์ม”

-อีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักเขียนเปิดความในใจว่า “รสเหมือนน้ำล้างจานสกปรก”

-บางคนกลืนไม่ลงจริงๆ และมีรายหนึ่งถึงกับบ้วนกลับลงถ้วยชา

#ส่วนน้ำชาตัวที่ 2 “ชาสมุนไพรเป๊ปเปอร์มินต์ As Ever” ก็น่าตกใจและน่ากลัวทำนองเดียวกับชาสมุนไพรดอกชบา มีความต่างแค่สองประการ คือ สีไม่เหมือน กับรสซึ่งไม่ขื่น ทว่าจืด ไม่เหลือรสของเป๊ปเปอร์มินต์ให้อ้อยอิ่งอยู่ในปากแบบชาเป๊ปเปอร์มินต์ทั่วไป

สำหรับชา As Ever ตัวที่ 3 เป็นอะไรที่แย่น้อยที่สุด คือ “ชามะนาวรสขิง” แต่ความขิงคือไม่เข้มข้น และในด้านของมะนาวนั้น สุดที่จะจาง

ทีมสื่อฟีเมลรายงานถึงคุณภาพมาตรฐานแห่งสินค้าชา As Ever ทั้ง 3 รสของดัชเชสเมแกนอย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาดอกชบา ที่สมาชิกในทีมล้วนช็อกกับสีที่แดงจัดราวกับสีน้ำย้อมผ้า และรสขื่น ตลอดจนกลิ่นแรงน่ากลัว ทั้งนี้ ในภาพประกอบของเดลิเมลดอทคอมด้านซ้าย ทีมฟีเมลบอกว่าสินค้าตัวที่แย่ที่สุดของดัชเชสเมแกนซึ่งขายภายใต้แบรนด์ As Ever คือ ชาดอกชบา ทันทีที่สัมผัสน้ำร้อนก็แดงมาก และที่ภาพด้านขวามีคำบรรยายว่า “ก่อนที่เราจะเริ่มจิบ สีของน้ำชาก็พรึ่บเป็นแดงจ้า
โปรดักต์ตัวถัดมาที่ถูกทีมฟีเมลบ่นอุบๆๆ คือ กลีบดอกไม้แห้งโรยของกิน ซึ่งเมแกนตั้งชื่อว่า Flower Sprinkles และเธอนำไปโรยบนทุกสิ่งอย่างในตลอดทุกอีพีของ With Love, Meghan ตั้งแต่โดนัทแช่แข็ง ยันโยเกิร์ตปั่น อีกทั้งแซนด์วิชรับประทานกับน้ำชา ฯลฯ

ทีมฟีเมลรายงานตรงๆ ว่าจุดที่โหดพิเศษของ Flower Sprinkles by As Ever คือ “สนนราคา” เพราะแพงหูดับตับไหม้ 15 ดอลลาร์ (ราว 550 บาท) ต่อ 5 กรัมกันเลยทีเดียว!! เจน เฮิร์ซ บอกว่าของแบบเดียวกัน ซึ่งขายบนอเมซอน ราคาไม่ถึง 10 ดอลลาร์ (ราว 350 บาท)

เมแกนบรรจุกลีบดอกไม้แห้งไว้ในกระป๋องกลมป้าน มีฝาปิด โดยด้านบนของฝาเป็นวัสดุใส มองเห็นกลีบดอกไม้แห้งหลากสีอยู่ด้านใน

แต่แทนที่แต่ละกลีบจะแห้งจนม้วนตัวลงเป็นเกลียวเล็กๆ ไว้โรยอาหารให้สวยงามดั่งที่เห็นกันในซีรีส์ With Love, Meghan ทุกคนในทีมฟีเมลต่างได้เห็นเป็นกลีบที่ไม่แห้งจัด และยังเป็นกลีบดอกไม้เต็มตัว เหมือนที่เห็นในถุงดับกลิ่นอับในห้องน้ำของคุณป้าคุณยาย เจน เฮิร์ซรายงานไว้ในสกู๊ป

จะมีใครไหมที่นึกอยากชิมกลีบดอกไม้แห้งชิ้นโตๆ ในถุงดับกลิ่นห้องน้ำ

ถ้าจะว่ากันตรงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะวิธีนี้ ทำให้กลีบดอกไม้มีน้ำหนักมากกว่าแบบแห้งจนเล็กกระจุ๋มกระจิ๋ม ทั้งนี้ เมื่อกลีบดอกไม้มีน้ำหนักมากกว่า จำนวนกลีบดอกไม้ที่บรรจุในกระป๋องย่อมจะน้อยลง ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการทำให้กลีบดอกไม้ แห้งได้ที่ ก็ไม่มากเท่า สรุปคือ เมื่อผลิตมาให้ดูเทิ่งท่าง ไร้ความบอบบางงดงาม ต้นทุนการผลิตก็จะต่ำลงมหาศาล ยอดกำไรจะพุ่งสูงสะใจผู้ผลิต

ปมตรงนี้น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ เจน เฮิร์ซ ใส่คำพาดหัวสกู๊ปว่า “มันฉ้อโกงกันขนานใหญ่”

แต่สิ่งที่น่าตกใจเกี่ยวกับ Flower Sprinkles คือสิ่งเดียวกับชาดอกชบา อันได้แก่ กลิ่นแรงจัด ชนิดที่หลายคนในทีมฟีเมลบอกว่าทนไม่ไหว

ผลิตภัณฑ์ As Ever มิได้ “ยกระดับ” อะไรในชีวิตให้ลูกค้าอย่างที่เมแกน มาร์เคิล โฆษณาไว้ทั้งบนเว็บไซต์ asever.com และทั้งในโฆษณาแฝงต่างๆ ยิ่งกว่านั้น กลีบดอกไม้โรยของกินก็ไม่ได้มาตรฐานเดียวกันกับรุ่นที่นำไปโฆษณาแฝงในโชว์ With Love, Meghan แต่กลับไปเหมือนถุงดับกลิ่นห้องน้ำเมื่อ 40 ปีที่แล้ว เจน เฮิร์ซ เขียนไว้อย่างนั้น

ภาพเปรียบเทียบดอกไม้แห้งโรยของกินที่ทีมฟีเมลซื้อจากเว็บไซต์ As Ever (ภาพซ้าย) กับดอกไม้แห้งโรยขนมชอร์ตเบรด (ภาพขวา) ที่ปรากฏในภาพประชาสัมพันธ์ของ As Ever ทำให้เห็นความแตกต่างชัดเจน กล่าวคือ คุณภาพมาตรฐานของกลีบดอกไม้แห้งที่นำเสนอในซีรีส์ With Love, Meghan และที่เป็นภาพถ่ายเพื่อเผยแพร่ออกสื่อนั้น ดูดีและน่าชิม ขณะที่คุณภาพมาตรฐานที่ของกลีบดอกไม้แห่งที่บรรจุลงกระป๋องเพื่อขาย คือด้อยกว่า เพราะใหญ่โตเทิ่งท่าง ดูไม่โอเคที่จะนำเข้าปาก พร้อมนี้ เดลิเมลออนไลน์บรรยายภาพด้านซ้ายว่า “ดูไม่น่าชิมเหมือนกับที่ดัชเชสเมแกนนำเสนอไว้ในซีรีส์ With Love, Meghan”
มาถึง “สเปรด ราสป์เบอร์รี” เพื่อป้ายขนมปังบ้าง สินค้าตัวนี้เป็นโปรดักต์ตัวตึงของเมแกน มาร์เคิล ซึ่งเธอไม่เรียกว่าแยม แต่เรียกเป็นพรีเสิร์ฟผลไม้ นอกจากนั้น เธอย้ำบ่อยๆ ว่าของอร่อยรายการนี้บรรจุในแพ็กเกจหรูพิเศษที่ว่า เมื่อรับประทานหมดแล้ว ควรจะล้างสะอาดและเก็บไว้ใช้ต่อ เช่น ใช้เป็นที่ปักดอกไม้ หรือเป็นที่เสียบปากกาดินสอ

ดัชเชสของปรินซ์แฮร์รีสร้างภาพของพรีเสิร์ฟผลไม้ As Ever ไว้หรูหรางดงาม โดยเจน เฮิร์ซ เล่าว่า ดัชเชสพรรณนาในอีพีหนึ่งของ With Love, Meghan ว่า “ในทางเทคนิคนั้น พรีเสิร์ฟราสป์เบอร์รีนี้ ไม่อาจเรียกว่า แยม เพราะแยมจะหวานเกินควร เนื่องจากมีสัดส่วนของน้ำตาลกับผลไม้เท่ากัน ซึ่งไม่ใช่ตำรับของหวานที่ดีต่อสุขภาพ

“แม้จะมีสตอรีโน่นนี่ช่วยพร็อพพาแกนดาให้พรีเสิร์ฟดูล้ำค่ามหาศาลเพียงใด ชาวฟีเมลไม่รู้สึกประทับใจเลย ทันทีที่เปิดฝากระปุก พวกเราถึงกับผงะกับเนื้อสเปรดราสป์เบอร์รี As Ever ล่ะค่ะ เพราะมันเหลวเหลือเกินและค่อนข้างใส ถ้าพวกเราไม่ได้ทราบมาบ้างแล้ว พวกเราจะต้องคิดว่าสเปรดในกระปุกเกิดการหลอมละลายขณะนำส่งมาถึงพวกเรา” เจน เฮิร์ซ เล่าไว้อย่างนั้นในสกู๊ป

เธอให้ข้อมูลด้วยว่าโดยทั่วไป เนื้อแยมจะข้นและหนึบ แต่สำหรับสเปรด ราสป์เบอร์รี As Ever นั้น เมื่อทีมฟีเมลใช้ช้อนตักขึ้นมา เนื้อสเปรดคอยแต่จะหยดลงกลาดเกลื่อน ในลักษณะแบบซอสผลไม้ที่ใช้ราดบนขนมหรือไอศกรีม

ครั้นพอป้ายบนขนมปังปิ้ง สเปรดราสป์เบอร์รีซึ่งเหลวมาก คอยแต่จะไหลย้อยหยดลงมาเปื้อนเปรอะไปทั่ว และแล้ว! ภายใน 2-3 นาที ขนมปังปิ้งป้ายสเปรดราสป์เบอร์รี As Ever กลายเป็นขนมปังหายนะที่ชุ่มโชกด้วยแยมเหลวราสป์เบอร์รี

แต่ส่วนที่เยินสาหัสกว่า คือ สิ่งที่ควรจะเป็นสเปรดป้ายขนมปังอันมีรสหวานด้วยเนื้อผลไม้ กลับกลายเป็นสเปรดของ As Ever เป็นสเปรดราสป์เบอร์รีที่หวานจัดยิ่งกว่าแยม หวานรุนแรงกระทั่งว่าทีมนักชิมทำหน้าเหยเก

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่พอจะเรียกว่าอร่อย มีเพียง 2 ตัว คือ น้ำผึ้ง กับ ขนมชอร์ตเบรด แต่ก็กำหนดราคาไว้ “แพงจัด น้ำตาริน”

ภาพด้านบนเป็นสเปรดราสป์เบอร์รีที่เห็นกันในโชว์ With Love, Meghan กับในภาพถ่ายเพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน ส่วนภาพล่างเป็นสภาพของสเปรดราสป์เบอร์รีในขวดที่ทีมฟีเมลซื้อจากเว็บไซต์ As Ever ซึ่งเหลวมาก คอยแต่จะไหลย้อยหยดลงมา ไม่ใช่สเปรดเพื่อป้ายบนขนมปัง และที่สำคัญคือ หวานเวอร์วัง

เว็บไซต์ขายผลิตภัณฑ์ As Ever  ปิดการขาย ตั้งแต่เช้าวันแรกที่เริ่มจำหน่าย โดยเขียนชี้แจง (ในกรอบเส้นสีแดง) ว่าสินค้าหมดเกลี้ยงสต็อก กระนั้นก็ตาม เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนครึ่ง หน้าเว็บได้แต่เงียบกริบ

ไมเคิล มาร์เคิล บิดาบังเกิดเกล้าของเมแกน มาร์เคิล พูดถึงลูกสาวขณะให้สัมภาษณ์แก่เดลิเมลออนไลน์ว่า “น่าเศร้าใจ... เธอพยายามหนักหนาเหลือเกินเพื่อจะอยู่ในความสนใจของสังคม” พร้อมนี้ คุณพ่อยังเปิดเผยด้วยว่าลูกสาวเป็นอย่างไรกันแน่เวลาเข้าครัว
ดัชเชสเมแกน อื้อฉาวบ่อยจนออกจะชิน โดยก่อนเกิดปม “ฉ้อโกงขนานใหญ่” ก็เพิ่งถูกกระชากหน้ากากว่า ขโมยไอเดียจากมอนเตซิโอ และจากเมืองท่องเที่ยวในสเปน

เมแกน มาร์เคิล มิได้แค่ถูกถล่มด้วยเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับคุณภาพมาตรฐานสินค้า As Ever โดยก่อนหน้านั้นคือในเดือนกุมภาพันธ์จดจนเมษายน 2025 เธอเพิ่งถูกโวยและแฉเละว่า ทำธุรกิจที่เต็มไปด้วยการก็อปปี้และขโมยความคิดสร้างสรรค์ของใครต่อใคร

#กรณีอื้อฉาวระยะแรกๆ คือ ความพยายามจะฮุบชื่อนิกเนมเก๋กู๊ดของเมืองมอนเตซิโต อันได้แก่ “อเมริกัน ออร์ชาร์ด ริเวียรา” ซึ่งเรียกขานกันมาเนิ่นนาน ไปจดทะเบียนลิขสิทธิ์เป็นของบริษัทตนเอง!!

ทั้งนี้ นับจากที่เปิดตัวและทำการโปรโมทสินค้าตัวแรก คือ แยมสตรอเบอร์รี อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2024 ดัชเชสเมแกนแม่ค้าที่ยังไม่สามารถขายอะไรได้สำเร็จ ทำการแนะนำให้ผู้คนรู้จักแบรนด์ของเธอในชื่อว่า “อเมริกัน ออร์ชาร์ด ริเวียรา” และเมื่อเธอเอาจริงกับการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ชื่อนี้ เสียงคัดค้านเริ่มดังขึ้นตามสื่อใหญ่ยักษ์ต่างๆ โดยมีการย้ำให้คนอเมริกันและชาวโลกทราบว่าเป็นฉายาของเมืองมอนเตซิโตมาเนิ่นนานเป็นร้อยปีแล้ว

ดังนั้น ความพยายามจดทะเบียนยี่ห้อสินค้าว่า American Orchard Riviera (AOR) จึงแป้ก โดยทางการแคลิฟอร์เนียแจ้งว่าคำร้องของจดทะเบียนนี้ ผิดระเบียบ กล่าวคือ ผู้ประกอบการไม่ได้รับอนุญาตให้นำชื่อสถานที่ไปขึ้นทะเบียนเป็นแบรนด์ส่วนตัวเพื่อทำการค้า

#กรณีอื้อฉาวระยะที่สองอุบัติในเวลาต่อมาไม่นาน เป็นการฮุบทั้งชื่อและทั้งตราเครื่องหมายประจำเมืองปอร์เรเรส แหล่งท่องเที่ยวคลาสิกสุดโรแมนติกในสเปน

กล่าวคือ หลังจากจดทะเบียน American Orchard Riviera ไม่สำเร็จไปแล้วระยะหนึ่ง เมแกน มาร์เคิลก็ประกาศชื่อตราสินค้าอันใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นแนวโรแมนติกและย้อนยุค ชวนให้คิดถึงโมเมนต์ซาบซึ้งจากอดีตกาล ว่า As Ever

กระนั้นก็ตาม ผู้คนมหาศาลที่ไปพักร้อนในนครเกาะมายอร์กา ประเทศสเปน จะรู้จักเมืองปอร์เรเรส และฉายาของเมืองว่า As Ever อันเป็นเมืองโบราณเจ้าเสน่ห์ เมืองเล็กๆ บนเกาะแสนงามดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวโลก ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่คริสตศักราช 1370

เมื่อเป็นข่าวบนสื่อใหญ่ยักษ์ทั้งปวงของสหรัฐฯ ปุ๊บ ความก็ทราบไปถึงชาวเมืองปอร์เรเรส รวมทั้งนายกเทศมนตรีสุดสวย คือ ซินญอราซิสกา มอร่า ซึ่งให้สัมภาษณ์แก่ เอล ปาอิส หนังสือพิมพ์รายวันชั้นแนวหน้าของประเทศสเปน ว่าเรื่องฉายาของเมืองนั้น ยังไม่เท่ากับการที่โลโก้ซึ่งเมแกนนำไปโปรโมทก็ “เหมือนเปี๊ยบจนน่าขนลุก” กับตราประจำเมืองปอร์เรเรสที่ใช้กันมาหลายร้อยปี

ตราเครื่องหมายประจำเมืองปอร์เรเรส กับโลโก As Ever ของเมแกน เหมือนกันอย่างเห็นได้ชัด โดยมีต้นปาล์มหนึ่งต้น และมีนกฮัมมิงเบิร์ดสองตัวบินขนาบต้นปาล์มทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ส่วนภาพของเมแกน มาร์เคิล เป็นตอนหนึ่งขณะให้สัมภาษณ์แก่รายการโทรทัศน์ The Late Late Show with Craig Ferguson ทางช่องซีบีเอส เมื่อปี 2013 สมัยที่ยังเป็นนักแสดง เธอนั่งถลกกระโปรงขึ้นสูงและโชว์ช่วงขาแบบนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมนี้ เธอพูดอวด เครก เฟอร์กูสัน ว่าเธอไม่มีขน และให้เครกลองจับเนื้อแขน
นายกเทศมนตรีบอกว่า ชาวปอร์เรเรสพากันช็อกไปทั่ว ที่โลโก้ของเมแกนเหมือนเปี๊ยบกับตราประจำเมือง โดยตอนแรกยังคิดว่าเป็นเฟกนิวส์ แต่แล้ว ก็มีสารพัดหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชนต่างๆ หลายสิบแห่ง โทรศัพท์เข้าไปสัมภาษณ์ ตอนนั้นจึงชัดแจ้งว่านี่เป็นเรื่องซีเรียส

“เราต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนโลโก้ค่ะ เพราะตราประจำเมืองเป็นหนึ่งในตัวแทนแห่งเอกลักษณ์ของปอร์เรเรส ทั้งในด้านมรดกทางจิตวิญญาณและตัวตนของวัฒนธรรมปอร์เรราสค่ะ ทุกเมืองในมายอร์กามีตราประจำเมืองของตนเอง สำหรับชาวปอร์เรเรส ตราประจำเมืองเป็นสิ่งสำคัญที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของเรามาเนิ่นนานหลายร้อยปี พวกเราไม่พอใจเลยค่ะที่ตราประจำเมืองปอร์เรเรสถูกใช้ขายแยมไปทั่วโลก

“ดิฉันไม่ทราบว่าเธอเคยเยือนมายอร์กา แล้วเห็นตราประจำเมืองปอร์เรเรสหรือเปล่า เพราะรูปบนเว็บไซต์ของเธอน่ะ เอาไปจากมายอร์กาค่ะ


“เราไม่โอเคเลยที่เอาตราประจำเมืองของเราไปใช้ เราต้องการให้พวกนั้นเอาออกซะน่ะค่ะ” ซิสกา มอร่า นายกเทศมนตรีคนสวย กล่าวตรงๆ อย่างชัดถ้อยชัดคำผ่านหลากหลายสื่อมวลชนรวมถึงเอล ปาอิส และเดลิเมลออนไลน์ด้วย

พร้อมนี้ นายกเทศมนตรีแห่งปอร์เรเรสบอกตรงๆ ว่าถ้าเมแกน มาร์เคิล อดีตสมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษ ไม่ยอมเปลี่ยนโลโกบริษัทของเธอ การจะไปฟ้องร้องดำเนินคดีข้อหาโจรกรรมผลงานสร้างสรรค์ ก็ยากจะทำได้ เพราะค่าใช้จ่ายสูงเหลือเกิน ซินญอรามอร่าให้สัมภาษณ์ไว้อย่างนั้น และนิวยอร์กไทมส์นำไปรายงานเป็นการครึกโครมในสหรัฐอเมริกา

ด้านแหล่งข่าวคนคุ้นเคยของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ บอกกับนิวยอร์กโพสต์ว่าโลโก้ As Ever ประกอบด้วยต้นปาล์มในพระตำหนักที่เมืองมอนเตซิโต ส่วนนกฮัมมิงเบิร์ดสองตัวนั้น เป็นนกที่ปรินซ์แฮร์รีทรงโปรดปราน

นับถึงปัจจุบัน ดัชเชสเมแกนยังไม่สนสี่ไม่สนแปด เดินหน้าพิมพ์โลโก้ต้นปาล์มกับนกคู่ไว้บนฉลากสินค้าทุกตัวของ As Ever

แต่แล้ว วิบากกรรมจากสารพัดคำวิพากษ์วิจารณ์โครมครามจนกระทั่งแบรนด์เดอะซัสเซกซ์อื้อฉาวเกินการกอบกู้ อาจส่งผลให้ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ล้มเหลวกับกลยุทธ์สร้างราคาให้แพงจัดน้ำตาริน เพื่อก่อกระแสให้ As Ever กลายเป็นสินค้าแฟชั่นที่ชาวไฮโซ ไฮริช ต้องซื้อหามารับประทานโชว์ความร่ำรวย และจึงกลายเป็นเสียงกระซิบขำๆ ว่าใครเลยจะหลวมตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย

รูปการณ์ที่เกิดขึ้นในวันพุธที่ 2 เมษายน 2025 จึงปรากฏออกมาว่า เว็บไซต์เพื่อขาย As Ever เปิดทำการแค่ 1 ชั่วโมง แล้วปิดทำการเงียบกริบต่อเนื่องเดือนครึ่งเป็นที่เรียบร้อย

“พวกเราไม่พอใจเลยค่ะที่ตราประจำเมืองปอร์เรเรสถูกใช้ขายแยมไปทั่วโลก” ซินญอราซิสกา มอร่า นายกเทศมนตรีสุดสวยของเมืองปอร์เรเรส แห่งนครมายอร์กา ประเทศสเปน ให้สัมภาษณ์อย่างนั้นแก่สื่อมวลชนมากมายหลายประเทศที่ต่อสายคุยกับเธอ

บรรยากาศเปี่ยมเสน่ห์ของชีวิตพื้นเมืองที่สร้างความประทับใจมากมายแก่นักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลจากทุกมุมโลก ดังนั้น ภาพของตราประจำเมืองปอร์เรเรสที่คลาสิกจึงเป็นภาพเจนตาของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย
(3/3) เจาะลึก “ชะตาแป้ก” ตัวที่ 3: Confessions of a Female Founder ทาง Podcast ธุรกิจ “แป้ก” หลังหมดพลังไต่ท็อปชาร์ต100 แห่งสปอติฟาย ร่วงหลุดเฉยเลย

“โชว์ของดัชเชสเมแกนทางพอดแคสต์ ไม่ได้การตอบรับที่ดีเลย เธอไม่มีเทย์เลอร์ สวิฟต์ ไม่มีบียอนเซ่ และไม่มีกระทั่งเฮลีย์ บีเบอร์ ในเมื่อคุณนำเสนอเรื่องราวพลังแห่งนักธุรกิจสตรี คุณมีปัญหาแน่” แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดทีมโปรดักชันของ Confessions of a Female Founder กล่าวไว้กับเดลีโซปดิช

“เรื่องนี้บ่งบอกชัดเจนถึงพลังดึงดูดของดัชเชส และเธอก็ไม่แฮปปีกับตัวเอง” แหล่งข่าวรายเดียวกันกล่าวย้ำ

ก่อนหน้านี้ พระชายาเมแกนของปรินซ์แฮร์รีก็เพิ่งตกม้าหน้าแตกครั้งร้ายแรง จากกรณีปม “ชื่อ American Riviera Orchard” อันเป็นฉายานิกเนมที่ผู้คนในมอนเตซิโตใช้เรียกเมืองอันอบอุ่นอุดมสมบูรณ์ของตน แต่เมแกน มาร์เคิล ประกาศข้ามปีไว้ว่าชื่อนี้ คือ ยี่ห้อสินค้าของเธอ

ในที่สุด เรื่องลงเอยว่าเธอจดทะเบียนลิขสิทธิ์ไม่ผ่าน
เดลีโซปดิชชี้เลยว่า คว่ำคะมำกับเรื่องพื้นฐานขนาดนี้ นับเป็นอะไรที่น่าอับอายใหญ่หลวงถ้าคุณเป็นนักธุรกิจที่มีศักยภาพสูง

นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ มันเป็นส่วนหนึ่งในความล้มเหลววินาศวายป่วงของธุรกิจและการลงทุนโดยรวมของเมแกน มาร์เคิล เดลีโซปดิชฟันธงอย่างนั้น

ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์จัดทำรายการ Confessions of a Female Founder ด้วยกันกับเลมอนาดา พอดแคสต์ และเผยแพร่ทางแพลตฟอร์มต่างๆ ไปแล้ว 4 อีพีในเดือนเมษายน 2025 และแล้ว...เดลิเมลออนไลน์ก็ออกรายงานข่าวเมื่อเสาร์ที่ 26 เมษายนว่า ดัชเชสเจ็บกระอักอีกหนึ่งรอบ เพราะ Confessions of a Female Founder ของเธอร่วงดิ่งและหลุดท็อปชาร์ต 100 ของสปอติฟายทั้งในสหรัฐฯ และอังกฤษ

และที่แย่กว่านั้น อีพีที่ 3 ของ Confessions of a Female Founder ไม่สามารถเบียดเข้าสู่ท็อปชาร์ต 200 ของแอปเปิลพอดแคสต์


ปัญหาสำคัญในโครงการพอดแคสต์ของดัชเชสเมแกนคือ การไม่มีซุปตาร์คนเจ๋งคนดังระดับโลกมาเข้ารายการกับเธอเลย เธอจึงปราศจากแม่เหล็กดึงดูดมวลมหาประชาชน เดลิเมลออนไลน์รายงานไว้ตั้งแต่ได้ข้อมูลมาแน่ชัดว่า อดีตนักแสดงซีรีส์ Suits ได้พยายามเชิญซุปตาร์อย่าง “บียอนเซ่” และ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ไปเข้ารายการสนทนา Confessions of a Female Founder กับเธอ แต่ไม่สำเร็จ

“โทรศัพท์ไปหาหลายราย แต่ไม่มีสักรายที่ยอมรับสาย” แหล่งข่าวของเดลิเมลออนไลน์เปิดเผยไว้อย่างนั้น

ปมตรงนี้ยังสะท้อนด้วยว่าอิมเมจของดัชเชสเมแกนอ่อนโรยลงฮวบ กรณีของบียอนเซ่เป็นเครื่องชี้บ่งที่ชัดเจนอย่างยิ่ง

ในปี 2019 ที่บียอนเซ่และสามีคือ เจย์-ซี ไปโปรโมทภาพยนตร์เรื่อง The Lion King ในกรุงลอนดอน ปรินซ์แฮร์รีและพระชายาเมแกนรับคำเชิญไปเป็นวีวีไอพีของวันเปิดตัวภาพยนตร์รอบพรีเมียร์ ดังนั้น จึงปรากฏพระรูปที่ปรินซ์กับพระชายาสนทนาอย่างสนิทสนมกับบียอนเซ่และเจย์-ซี
เพราะในปี 2019 ห้วงที่ปรินซ์แฮร์รีและดัชเชสยังมิได้ลาออกจากพระราชสำนักวินด์เซอร์นั้น บียอนเซ่และสามีคือ เจย์-ซี ไปโปรโมทภาพยนตร์เรื่อง The Lion King ในกรุงลอนดอน และในวันเปิดตัวภาพยนตร์รอบพรีเมียร์ ปรินซ์แฮร์รีและดัชเชสรับคำเชิญไปเป็นวีวีไอพีของงานเพื่อเพิ่มความอลังการของ The Lion King ดังนั้น จึงปรากฏพระรูปที่ปรินซ์กับพระชายาสนทนาอย่างสนิทสนมกับบียอนเซ่และเจย์-ซี

ยิ่งกว่านั้น ในห้วงที่ปรินซ์แฮร์รีกับพระชายาเมแกนไปประทานสัมภาษณ์แก่รายการโอปราห์ วินฟรีย์ทอล์กโชว์ เมื่อปี 2021 และไปจุดประเด็นกล่าวหาว่าพระราชตระกูลอังกฤษมีการเหยียดผิวเธอกับพระโอรสในครรภ์ของเธอนั้น บียอนเซ่ตกเป็นข่าวฮือฮาว่า บียอนเซ่ส่งข้อความเอสเอ็มเอสไปให้กำลังใจแก่เธอ

เหนืออื่นใด ในภาพยนตร์สารคดีซีรีส์ Harry and Meghan ในปี 2023 มีบทพูดตอนหนึ่งซึ่งดัชเชสเปรยขึ้นกับพระสวามีว่า บียอนเซ่เพิ่งส่งเอสเอ็มเอเข้ามาหาเธอ โดยบอกว่าอยากให้เธอรู้สึกปลอดภัย อีกทั้งยังบอกด้วยว่าชื่นชมความกล้าหาญของเธอ

ในเมื่อเคยสนิทสนมกันมากมายในปี 2019 ปี 2021 และปี 2023 พอถึงปี 2025 บียอนเซ่ซึ่งประสบความสำเร็จท่วมท้นในธุรกิจดนตรีและคอนเสิร์ต ไม่ไปเข้ารายการพอดแคสต์ Confessions of A Female Founder ของเมแกน!! มันเป็นอะไรชี้บ่งสถานการณ์ว่าดัชเชสเมแกนโดนเท ได้ชัดเจนเหลือเกิน

ที่ผ่านมา Confessions of a Female Founder ขึ้นบนแพลตฟอร์มต่างๆ ของพอดแคสต์ไปแล้ว ดังนี้ วิทนีย์ วูลฟ์ เฮิร์ด นักธุรกิจสาวหน้าสวยผู้ก่อตั้งธุรกิจ Bumble เมื่อ 8 เมษายน 2025 ต่อด้วย เรชมา ซาจานี นักการเมืองอเมริกันเชื้อสายอินเดียผู้ก่อตั้งองค์การเอ็นจีโอ Girls Who Code ในอีพีที่ 2 เมื่อ 15 เมษายน และในอีพีที่ 3 เมื่อ 22 เมษายน เมแกนนำเสนอเพื่อนรัก (อดีตช่างทำสีผมฝีมือเยี่ยมในมอนเตซิโต) และหุ้นส่วนธุรกิจของเธอ คือ คาดี ลี ซึ่งทั้งสองร่วมกันก่อตั้งธุรกิจยาย้อมสีผม

แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งของเดลิเมลออนไลน์บอกว่า เมแกนและทีมงานของเธอช่วยกันโทรศัพท์ไปหาซูเปอร์สตาร์สาว มากมายทีเดียว เพื่อจะมาสนทนาเบื้องหลังการสร้างธุรกิจ การฟันฝ่าอุปสรรค และการรักษาตลาดไว้ได้อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีรายใดโทรศัพท์กลับมาเลย

ขณะที่ยอมรับบนเวที Time 100 Summit เมื่อ 24 เมษายน 2025 ว่าเธอทำโครงการต่างๆ รวมถึง Confessions of A Female Founder ผิดพลาด เพราะเธอพยายามจะเปิดตัวทุกโครงการออกมาในห้วงเดียวกัน นั้น ดัชเชส อดีตนักแสดงซีรีส์เรื่อง Suits ก็ประกาศว่าเธอมีความสุขกับครอบครัวเหลือเกิน

ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ อดีตนักแสดงซีรีส์เรื่อง Suits ประกาศว่าเธอมีความสุขกับครอบครัวเหลือเกิน อันที่จริงสิ่งที่ถนัดที่สุดของดัชเชสคือการพูดบนเวที
เมแกน มาร์เคิล ‘มือถือสากปากถือศีล’ เผชิญวิกฤติ และมันเป็นปมเรื่องเงิน เดอะซัน สื่อค่ายยักษ์พาดหัวตัวเป้ง หลังเธอออกพฤติกรรมเอาลูกน้อยมาช่วยโปรโมทสินค้า As Ever ฯลฯ

เมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ นำเด็กชายผมสีแดงหนึ่งคน กับเด็กหญิงผมสีแดงหนึ่งคน มาเข้าฉากเพื่อการโฆษณาธุรกิจของเธอถี่ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในโฆษณาสินค้า As Ever แต่ไม่ให้เห็นใบหน้า แค่เพียงพอที่จะเป็นข่าวว่าเด็กน้อยทั้งพระโอรสอาร์ชีกับพระธิดาลิลิเบต

แต่สื่อมวลชนใหญ่น้อยหลายค่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เดอะซัน ผู้ทรงอิทธิพล ชี้ว่าเมแกนน่าจะเผชิญวิกฤตอย่างหนัก ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์แห่กันตำหนิว่า เธอช่างไร้ยางอายที่เอาลูกๆ มาใช้ทำมาหากิน

โดย บรองเต้ คอย แห่งเครือข่าย นิวส์ดอทคอมออสเตรเลีย ชี้ไว้ในรายการทีวี รอยัล เอ็กซ์คลูซีฟ ของเดอะซัน ว่า “เรื่องนี้บ่งบอกถึงวิกฤติของเมแกน มาร์เคิล อย่างแท้จริง

“ตอนที่เธอยังไม่ลาออกจากพระราชวงศ์อังกฤษ เธอประกาศว่าไม่ต้องการให้ลูกตกเป็นข่าว ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ทั่วไป

“แต่แล้ว... ตอนนี้เธอใช้เด็กทั้งสองมาเป็นสตอรีในอินสตาแกรมของตัวเอง เรื่องอย่างนี้ แน่นอนว่าเธอมีสิทธิจะทำได้ แต่มันคือการกลับกลอกกับสิ่งที่เธอเคยพูดไว้”

ด้านบรรณาธิการข่าวราชวงศ์ของเดอะซัน นามว่า แมตต์ วิลคินสัน ฟันธงว่าผู้คนขนานนามการกระทำของเมแกนว่า “ทำตัวเป็นอะไรที่ราคาถูก” ที่นำภาพลูกๆ มาสร้างเงิน

ล่าสุด ผลการสำรวจทัศนคติของชาวอังกฤษต่อดัชเชสเมแกน พบว่าความน่านิยมของเธอตกต่ำย่ำแย่มากที่สุดนับจากปี 2017 ทั้งนี้ นี่เป็นโพลโดยยูกอฟ ในช่วง 6-7 พฤษภาคม 2025 และเรตติงของเธอแทบจะต่ำสุดของตาราง โดยมีปรินซ์แอนดรูว์ปิดท้าย

ลักษณะที่ดัชเชสเมแกนจับมีดจะเป็นแบบภาพซ้าย แลดูเก้ๆ กังๆ และน่าหวาดเสียวว่าจะพลัดมือ

โปสเตอร์โฆษณาซีรีส์ With Love, Meghan ที่ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์อำนวยการผลิตป้อนแก่ Netflix
คอลัมน์ PLANET No.3

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า


(ที่มา: DailySoapDish.com เดลิเมลออนไลน์ เดอะการ์เดียน เดอะซัน เดอะซันยูเอส ดิเอ็กซ์เพรส เดอะฮอลลีวูด รีพอร์เตอร์ นิวสวีก ดิอินดีเพนเดนต์ เดอะการ์เดียน ไทม์แมกาซีน เดอะไทม์ส เดอะเทเลกราฟ เดอะสเปกเตเตอร์ วาไรตี)

กำลังโหลดความคิดเห็น