รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำลังทำงานในแผนหนึ่งๆ สำหรับโยกย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์สูงสุด 1 ล้านคน ออกจากฉนวนกาซา ไปยังลิเบีย ตามรายงานของสำนักข่าวเอ็นบีซี อ้างอิงแหล่งข่าววงใน อย่างไรก็ตามจากนั้นไม่นาน ทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ทรัมป์เน้นย้ำคำกล่าวอ้างว่า สหรัฐฯเตรียมเข้าควบคุมกาซา และเปลี่ยนฉนวนแห่งนี้ให้กลายเป็นดินแดนตากอากาศหรูในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แนวคิดที่ถูกคัดค้านอย่างแข็งกร้าวจากประเทศอื่นๆในภูมิภาค ซึ่งอ้างว่าแผนดังกล่าวละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ คุกคามเสถียรภาพในภูมิภาค และบ่อนทำลายสิทธิของชาวปาเลสไตน์ ในการใช้ชีวิตอยู่ในแผ่นดินบรรพบุรุษของตนเอง
สำนักข่าวเอ็นบีซี รายงานข่าวในวันศุกร์(16พ.ค.) ระบุว่าแผนโยกย้ายถิ่นฐานพลเมืองกาซาราวๆครึ่งหนึ่ง ไปยังลิเบีย กำลังอยู่ภายใต้การพิจารณาอย่างจริงจัง ในทำเนียบขาว
เอ็นบีซี อ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่าเพื่อแลกเปลี่ยนให้ลิเบียยอมอ้าแขนรับชาวปาเลสไตน์ รัฐบาลทรัมป์อาจพร้อมปลดปล่อยเงินราวๆ 30,000 ล้านดอลลาร์ ของลิเบีย ที่พวกเขาอายัดไว้เมื่อราวๆ 1 ทศวรรษก่อน
รายงานของเอ็นบีซี บอกว่า วอชิงตันได้หยิบยกความคิดนี้ปรึกษาหารือกับผู้นำลิเบียแล้ว แต่ไม่ได้เจาะจงว่ารัฐบาลฝ่ายไหนของลิเบีย ที่พวกเขาพูดคุยด้วย
ลิเบียยังคงอยู่ในความยุ่งเหยิง นับตั้งแต่เหตุลุกฮือที่หนุนหลังโดยนาโต โค่นล้มประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟี ที่ปกครองประเทศมาอย่างยาวนานในปี 2011 รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติลิเบีย(GNU) ที่ควบคุมกรุงตริโปลี กับรัฐบาลเสถียรภาพแห่งชาติ (GNS) ที่อยู่ในเมืองโทบรุค ปัจจุบันกำลังแย่งชิงอำนาจกันในประเทศแห่งนี้
แหล่งข่าวอ้างว่าอิสราเอล ได้แจ้งเกี่ยวกับการหารือระหว่างสหรัฐฯกับลิเบียเช่นกัน
สำนักข่าวเอ็นบีซี บอกว่าข้อตกลงสุดท้ายในการเคลื่อนย้ายชาวปาเลสไตน์ยังไม่บรรลุ ขณะเดียวกันรายละเอียดที่ว่าจะเริ่มดำเนินการแผนนี้เมื่อไหร่และอย่างไร ก็ยังคงคลุมเครือ
อย่างไรก็ตามโฆษกรายหนึ่งของรัฐบาลทรัมป์ ชี้แจงว่ารายงานข่าวของเอ็นบีซี "ไม่เป็นความจริง" และทางโฆษกย้ำว่า สถานการณ์ในภาคสนามในลิเบีย ไม่สมเหตุสมผลกับแผนดังกล่าว "ไม่มีการหารือเกี่ยวกับแผนลักษณะนี้ และมันไม่สมเหตุสมผล"
(ที่มา:เอ็นบีซี/อาร์ทีนิวส์)